ถือได้ว่า AURA ได้ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของ Estelon ด้วยการออกแบบที่ล้ำสมัย ด้วยเป้าประสงค์ในการส่งมอบประสบการณ์เสียงอันเหนือชั้น …ลำโพง Estelon AURA ได้รับการออกแบบและสร้างขึ้นโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมทางเสียงของพื้นที่รับฟังในชีวิตจริง ให้ประสบการณ์เสียงที่ชวนดื่มด่ำและน่าหลงใหลไม่เหมือนใครในลำโพงขนาดนี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ AURA ได้รับการออกแบบด้วยความใส่ใจในรายละเอียดอย่างพิถีพิถัน โดยผสมผสานเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและคุณลักษณะเฉพาะที่ทำให้แตกต่างจากลำโพงอื่นๆ ในท้องตลาด
Alfred Vassilkov ผู้เป็นทั้งเจ้าของบริษัท Estelon และเป็นผู้ออกแบบ AURA กล่าวว่า “AURA” เป็นมากกว่าลำโพง เป็นงานศิลปะที่ผสมผสานระหว่างรูปแบบและฟังก์ชั่น เพื่อมอบประสบการณ์เสียงที่เหนือชั้น ด้วยการออกแบบที่ไม่เหมือนใคร ร่วมกับเทคโนโลยีขั้นสูง เขาจึงมั่นใจว่า “AURA” จะเป็นผู้เปลี่ยนเกมในโลกของเสียง
ลำโพง AURA นับเป็นลำโพงระดับเริ่มต้น (entry-level) ใหม่ล่าสุดของ Estelon ที่มีความโดดเด่นในด้านเสียง และการออกแบบที่ไม่เหมือนใคร รวมทั้งยังใช้ตัวขับเสียงที่แตกต่างจากลำโพงในราคาระดับพรีเมียมของ Estelon อีกด้วย “AURA” ได้รับการออกแบบตามปรัชญาการออกแบบทั่วไปของลำโพง Estelon โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมทางเสียงของพื้นที่การฟังในชีวิตจริง ภายใต้แนวคิดระบบตัวตู้แบบ ปิดสนิท (sealed box concept) ทำให้มีขนาดกะทัดรัดกว่าเมื่อเทียบกับแนวคิดระบบตัวตู้แบบ ตู้เปิด (bass reflex concept) และมีความต้องการด้านการวางตำแหน่งในห้องฟังน้อยกว่าอีกด้วย
คุณสมบัติที่โดดเด่นอย่างหนึ่งของ AURA คือรูปทรงที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งไม่เพียงแต่เพิ่มความน่าดึงดูดใจเท่านั้น การไม่มีผนังตัวตู้ที่ขนานกัน ทำให้มีเพียงเสียงที่บริสุทธิ์ และไม่ได้รับอิทธิพลจากตัวขับเสียงประสิทธิภาพสูงเท่านั้นที่ถูกส่งมอบออกมา การใช้โครงสร้างตัวตู้ที่เป็น mineral-filled composite ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ thermoformed ทำให้ตัวตู้ของ AURA พัฒนาด้วยรูปทรงพื้นผิวขั้นสูง ทั้งภายในและภายนอก รูปร่างที่เจาะจงรวมทั้งช่องภายในต่างๆ ทำให้เกิดคุณลักษณะที่ช่วยให้มีคุณสมบัติทางเสียงในอุดมคติ ตัวตู้นี้มีความแข็งแรงมาก หนาแน่นสูง ปราศจากเสียงสะท้อน และมีระบบลดเสียงภายใน (internal dampening) และให้การควบคุมทางอะคูสติก (acoustical control) ที่ยอดเยี่ยม
ทวีตเตอร์โดมผ้า (Textile Dome tweeter) ขนาด 26 มม. (1 นิ้ว) รุ่น ‘Illuminator’ ของ Scan-Speak มีระบบแม่เหล็กขับเคลื่อนแบบสมมาตร (symmetrical drive) เพื่อคุณภาพเสียงที่โดดเด่น และให้ความเป็นเชิงเส้น (linearity) ไม่ว่าเสียงจะถูกสร้างขึ้นในระดับเสียงสูงหรือต่ำก็ตาม ท่อนำคลื่น (waveguide) ของทวีตเตอร์ทำให้การกระจายเสียงของทวีตเตอร์ให้มีความสม่ำเสมอมากขึ้น และจับคู่ลงตัวกับตัวขับเสียงมิดเรนจ์/วูฟเฟอร์เพื่อให้ได้เสียงที่บริสุทธิ์ และไม่ถูกครอบงำ
มิดเรนจ์/วูฟเฟอร์ขนาด 130 มม. (5”) ของ Satori ใช้กรวยเนื้อเยื่อกระดาษ Papyrus ของอียิปต์ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและการถ่ายทอดเสียงที่เรียบง่าย โครงสร้างเป็นอะลูมิเนียมหล่อแบบ แอโรไดนามิก มีช่องระบายอากาศ (vented aerodynamic cast aluminium chassis) ให้ความแข็งแรงที่เหมาะสมและแรงอัดต่ำ ไดรเวอร์มีขอบยางที่นุ่มและความหน่วงหนืดต่ำ เพื่อการตอบสนองทันทีทันใดที่เหมาะสม ทั้งยังใช้ระบบแม่เหล็ก neodymium ที่ได้รับการปรับให้เหมาะสมสำหรับค่าการบิดเบือนต่ำ สาย lead wires เป็นเงิน (silver) ติดแยกตรงข้ามกัน 180° เพื่อความมั่นคงที่ดีขึ้น
การออกแบบที่เป็นนวัตกรรมของ AURA ช่วยให้สามารถรวมวูฟเฟอร์ขนาด 10 นิ้ว ที่ทรงพลังไว้ที่ฐานล่าง (base) ของตัวตู้ลำโพง โดยวูฟเฟอร์นี้เป็นแบบ Faital ขนาด 250 มม. (10 นิ้ว) ซึ่งให้เสียงเบสที่หนักแน่นและชัดเจน ทำหน้าที่แบบ ยิงเสียงลง (down-firing) เพื่อให้ได้เสียงเบสที่หนักแน่นและนุ่มนวล ตัวกรวยเป็นกระดาษแบบ semi-pressed paper cone ที่ให้ความถี่ต่ำที่สะอาด เข้มข้น และหนักแน่น ฐานล่าง มีลักษณะเป็นแผ่นฐานโค้ง (base plate) ช่วยให้วูฟเฟอร์สามารถยิงเสียงความถี่ต่ำประสานกับพื้นได้ แม้ว่าลำโพงจะวางบนพื้นพรมหนาก็ตาม
สภาพแวดล้อมทางอะคูสติกที่สร้างขึ้นในฐานของลำโพง AURA มีตัวกรองสัญญาณความถี่ต่ำ (low-pass filter) ทำหน้าที่เสริมเพิ่มเติม สัญญาณความถี่ต่ำที่ส่งผ่านนี้ลึกกว่าตัวกรองทางไฟฟ้า (electrical filter) ดังนั้นความถี่ที่สูงกว่าที่ส่งมอบโดยตัวขับเสียงเบสที่ประมาณ 80Hz นั้นจึงถูกกรองทิ้งออกไป เวทีเสียงที่กว้างและสอดคล้องกัน พร้อมกับความลึกและโฟกัส ทำให้ผู้ฟังรู้สึกว่า กำลังนั่งอยู่ตรงจุดที่ให้เสียงดีที่สุด (sweet spot) อยู่เสมอ โดยไม่ต้องคำนึงถึงตำแหน่งตั้งวางในห้องฟัง ซึ่งขนาดห้องฟังที่แนะนำสำหรับ AURA อยู่ที่ 15-60 m² (160-645 ft²) ตัวตู้มีสีขาว และสีดำ พร้อมตะแกรงแม่เหล็กเข้าชุดกัน
ผลการรับฟัง
ขอชี้แจงสักนิดนะครับว่า ในการรับฟังของผมครั้งนี้เป็นการเดินทางมาฟังเทสต์นอกสถานที่ ณ โชว์รูมของ KS Home Entertainment ย่านรัชดาฯ ซึ่งเป็นการรับฟังในห้องเปิด ไม่มีผนังห้อง โดยที่ “AURA” ได้รับการเซตอัพไว้อย่างดี (ร่วมกับซิสเต็มของ McIntosh) ซึ่งขอบอกจากใจว่า “AURA” ได้สร้างประสบการณ์การรับฟัง อันน่าประทับแก่ผมครับ “AURA” นั้นส่งมอบน้ำเสียงอันน่าพิสมัยยิ่งนัก ให้ความฉ่ำชุ่มมีชีวิตชีวา มีเนื้อหนังมังสา ไม่ผอมบาง ปราศจากซึ่งความแห้งแล้งใดๆ ทั้งยังเด่นชัดในการนำเสนอรายละเอียดอันใสกระจ่าง ฉับไว ไม่แช่มช้า เนิบนาบ เพียบพร้อมทั้งน้ำหนัก-แรงกระแทกกระทั้น และยังให้การตอบสนองความถี่เสียงต่ำลงไปได้อย่างลึกล้ำอีกด้วย
ช่วงย่านความถี่เสียงต่ำที่รับฟังได้จาก “AURA” นั้น ทรงพลัง – หนักแน่น ไม่อวบอ้วน อุ้ยอ้าย และจากการรับฟังซีดีชุด EARTH : voice of a planet / LD0019 แทร็คที่ 2 : Call of the elephant ซึ่งมีการบันทึกความถี่เสียงต่ำระดับ infrasound ประมาณ 14 – 35 Hz ที่ช้างป่าอาฟริกาใช้เปล่งเสียงเพื่อติดต่อสื่อสารระหว่างกันนั้น ทำให้การันตีได้ว่า “AURA” สามารถตอบสนองลงไปได้ลึกล้ำต่ำกว่า 35 Hz …อย่างหายห่วงครับ ซึ่งเมื่อได้ฟังจากเพลง Matsuri ของ KITARO Live in America เจ้า “AURA” สามารถให้ทั้งความฉับไวและแม่นยำในจังหวะจะโคน หนังหน้ากลองกระเดื่องตึงแน่น ให้แรงปะทะเป็นระลอกที่รับรู้ได้ ทั้งยังบ่งบอก “ระลอก” ของคลื่นเสียงหนังหน้ากลองใหญ่ที่กำลังสั่นกระพือ แยกแยะออกมาจากเสียงทุ้มที่ระรัวเป็นจังหวะของกลองไฟฟ้าออกมาได้แจ่มชัด พร้อมด้วยความหนักแน่นของเสียงที่ไม่อัดอั้น เปี่ยมในน้ำหนักของเสียงเบสอันรุกเร้าใจ
จากแผ่น POMP&PIPES! ของ REFERENCE RECORDINDS เจ้า “AURA” ก็ได้ถ่ายทอดความอลังการทางเสียงของวงออร์เคสตร้าที่กำลังแผดสนั่น ประโคมคำรนอย่างยิ่งใหญ่ ทรงพลัง ไม่ปรากฏอาการอัดอั้น เครียดเค้น เสียงเบสลึกๆ ตอบสนองออกมาได้อย่างไร้ปัญหา การรับฟังออร์เคสตร้าได้เสียงกระหึ่ม กึกก้อง อย่างไม่มีที่ติ ความกว้างใหญ่ของวงออร์เคสตร้าถูกถ่ายทอดออกมาจนเต็มห้องที่นังฟัง แผ่เลยตำแหน่งตั้งวางลำโพงซ้าย-ขวา และถอยลึกเลยผนังหลังห้องออกไปเลยเชียวละ พร้อมด้วยช่วงย่านเสียงกลางที่ให้การจำแนก-แยกแยะรายละเอียดได้ดี มีความกระจ่างสดใสในช่วงย่านเสียงสูง พร้อมด้วยหางเสียงที่มีประกายทอดตัวยาวไกลอย่างสมจริง
“AURA” นั้นให้คุณลักษณ์ในน้ำเสียงที่เปี่ยมด้วยความฉับไว สดใส โปร่งกระจ่าง และยังให้การบ่งบอกสภาพบรรยากาศการแสดงในสถานที่ที่บันทึกเสียงนั้น (atmosphere) ที่นับว่าอยู่ในเกณฑ์น่าประทับใจเลยทีเดียว เฉกเช่นเดียวกับการส่งมอบสภาพอิมเมจและซาวด์สเตจที่สามารถสำแดงออกมาได้อย่างน่าทึ่ง ซึ่ง “AURA” จะถ่ายทอด-ส่งมอบสรรพเสียงชิ้นดนตรีที่เสมือนผุดโผล่ออกมาจากตรงโน่นตรงนี้ มีตำแหน่งแห่งที่ชี้ชัดได้ในเวทีเสียงอันแผ่กว้าง ไม่ว่าจะเป็นเสียงกีต้าร์-เสียงเปียโน-เสียงไวโอลิน-เสียงเครื่องสายทั้งหลายเรียกได้ว่า แทบจะมองเห็นเป็นเส้นสายที่สั่นไหวกันเลยทีเดียว แม้ในยามที่คุณมันส์ในอารมณ์ไปปรับเร่งระดับความดังเสียงให้มากขึ้น…มากขึ้น…มากขึ้น “AURA” ก็จะยังสามารถสนองความสะใจในขณะรับฟังได้อย่างน่าทึ่ง และตื่นเต้น …ไร้ความมั่ว/ตีรวนกันของเสียง เสียงทุกเสียงจะยังคงปรากฏเป็นแถวเป็นชั้นถอยลึกเข้าไปหลังแนวตั้งวางระบบลำโพง ไม่มีเสียงใดที่โผล่เลยล้ำหน้าตำแหน่งตั้งวางลำโพงออกมา
ซึ่งไม่ว่าคุณจะรับฟัง “AURA” ในระดับความดังปกติ หรือดังกว่าปกติมากๆ เพราะความมันส์ในอารมณ์พาไป คุณก็จะยังคงรับรู้ได้ถึงสภาพความแผ่กว้างของเสียงเต็มพื้นที่ห้อง ถอยลึกเข้าไปเลยตำแหน่งตั้งวางลำโพงไปไกล แยกเป็นแถว/ชั้นของเสียง บ่งบอกตำแหน่งแห่งที่ของเสียงที่เกิดขึ้นได้แน่นอน พร้อมด้วยละอองอณูของมวลเสียง ควบคู่กับความสดใส ฉับไว ในการให้รายละเอียดของเสียง – ไม่เกี่ยงว่าจะเป็นในช่วงย่านความถี่เสียงต่ำ ,ช่วงย่านความถี่เสียงกลาง หรือว่าช่วงย่านความถี่เสียงสูง
สรุปส่งท้าย
…แม้จะมิได้ถูกออกแบบมาถึงขีดขั้นความเป็นระบบลำโพงระดับ Extreme ของ Estelon แต่ก็ต้องยอมรับครับว่า ลำโพงรูปลักษณ์แปลกตาอย่าง “AURA” มีอยู่หลายสิ่งที่สร้างความประทับใจให้แก่ผม “AURA” นับเป็นระบบลำโพงที่สามารถสร้างความประทับใจได้อย่างง่ายๆ เมื่อได้ฟัง ไม่ว่าจะเป็นในด้านน้ำหนัก – ความฉับไว – พลังกระแทกกระทั้น และการตอบสนองความถี่เสียงต่ำที่ทำได้อย่างลึกล้ำ รวมไปถึงความยิ่งใหญ่-อลังการของสุุ้มเสียงที่ส่งมอบออกมา โดยที่ไม่เกี่ยงลักษณะ หรือ ตำแหน่งการตั้งวาง ทั้งยังเพียบพร้อมด้วยความเอิบอิ่มของน้ำเสียงโดยรวม และรายละเอียดเสียงสอดแทรกต่างๆ ทั้งในช่วงย่านเสียงต่ำ, กลางและสูง ที่ถูกถ่ายทอดอย่างพรั่งพรู บวกกับสมรรถนะอันน่าทึ่ง ในการบ่งบอกตำแหน่งแห่งที่ของสรรพเสียงอันแจ่มชัด รวมถึงการมีตัวตนของเสียงนั้นๆ ในสภาพอิมเมจและซาวด์สเตจอย่างสมจริง นับเป็นความสำเร็จของลำโพงยุคใหม่ ที่แม้จะจัดอยู่ในระดับ Entry-Level ของ Estelon ก็ตาม…
ESTELON AURA TECHNICAL SPECIFICATIONS
Type: 3-way passive speaker, sealed box
Frequency response: 35 – 25 000 Hz
Power rating: 200 Watts
Nominal impedance: 4 Ω (min 2 Ω at 58 Hz)
Sensitivity: 90 dB/2.83 V
Min amplifier power: 30 Watts
Cabinet Material: Thermoformed composite
Dimensions:
Height: 1366 mm (53.7″)
Width: 384 mm (15.1″)
Depth: 367 mm (14.4″)