KEF LS50 Wireless II ลำโพงแอ๊คทีฟ ไร้สาย ระบบสเตริโอ พร้อมฟังก์ชั่นใช้งานสมบูรณ์แบบ

0

KEF นับเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกด้านวิศวกรรมอะคูสติกที่มีนวัตกรรมใหม่ออกมาสู่วงการตั้งแต่ปี 1961 นับถึงปัจจุบันก็เรียกได้กว่า 60 ปี KEF เป็นแบรนด์แรกๆ ของวงการผู้ผลิตอุปกรณ์เครื่องเสียงยุคเก๋าที่ปรับตัวมาออกแบบและผลิตลำโพงไร้สายยุคใหม่ที่เน้นคุณภาพเสียงไปพร้อมๆ กับฟังก์ชั่นที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งาน

เมื่อปี 2016, KEF ได้ปล่อยตัวลำโพงไร้สาย all-in-one รุ่น LS50 Wireless ออกสู่ตลาด ซึ่งรองรับการสตรีมไฟล์เพลงผ่านระบบเน็ทเวิร์คที่มีความสมบูรณ์แบบมากที่สุดในขณะนั้น และได้รับการต้อนรับอย่างดีมากๆ เป็นที่สร้างชื่อให้กับแบรนด์ KEF และแล้ว “LS50 Wireless” ก็ได้รับการพัฒนาให้มีสมรรถนะและประสิทธิภาพที่สูงยิ่งขึ้น จนกลายมาสู่ความเป็น fully active wireless stereo speaker system ภายใต้ชื่อ “LS50 Wireless II

ด้วยความโดดเด่นสำคัญในด้านของไดเวอร์แบบ Uni-Q ที่เป็นแบบ point source configuration ในลักษณะของการจัดวางทวีตเวอร์ขับเสียงแหลม เข้าไปไว้ตรงใจกลางของไดรเวอร์เบส/มิดเรนจ์ ซึ่งเทคนิคนี้ทำให้เกิดผลดีต่อเสียงที่รับฟัง ในแง่ของความกลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกันระหว่างความถี่ย่านต่ำ–กลาง และสูง ทำให้ LS50 Wireless II ให้เสียงที่มีความต่อเนื่อง ไหลลื่น และให้มิติเสียงที่ดี ทั้งนี้ “LS50 Wireless II” ได้รับการยกระดับให้สูงขึ้น ด้วยการเพิ่มเติมเทคโนโลยีใหม่เข้ามา นั่นคือ “Metamaterial Absorption Technology” หรือเรียกย่อๆ ว่า “MAT”

โดยที่ “MAT” จะทำหน้าที่ดูดซับพลังงานคลื่นเสียงที่เกิดขึ้นบริเวณด้านหลังของทวีตเตอร์ให้หมดไป ซึ่งคลื่นเสียงที่ว่านี้ ถือว่าเป็น “ส่วนเกิน” ที่ส่งผลเสียต่อเสียงโดยรวมที่ไดรเวอร์สร้างขึ้นมา นอกจากจุดนี้แล้ว ทีมวิศวกรของ KEF ยังได้ทำการปรับปรุงในส่วนของภาคขยาย, ภาค DSP (Digital Signal Processing) และภาคสตรีมมิ่งให้มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นไปอีกขั้น พร้อมทั้งยังได้ทำการอัพเกรดแอพลิเคชั่นที่ใช้ควบคุมสั่งงานออกมาใหม่ด้วยเช่นกัน

“LS50 Wireless II” เป็นระบบลำโพงที่ออกแบบมาใช้กับสัญญาณเสียงสเตริโอ ในระบบจึงมีลำโพง 2 ข้างทำงานร่วมกัน โดยกำหนดให้ตัวที่ใช้สร้างสัญญาณเสียงแชนเนลขวา (Right Channel) ทำหน้าที่เป็นหลักของการทำงาน หรือ “Primary” ซึ่งจะมีสถานะเป็นศูนย์กลางของระบบ ในขณะที่ลำโพงแชนเนลซ้าย (Left Channel) จะทำหน้าที่เป็นลูกข่าย หรือ “Secondary”) คอยรับคำสั่งการใช้งานจากลำโพงข้างขวาอีกที

ตัวตู้ทั้งสองข้างทำงานในระบบ bass reflex โดยมีท่อเปิด (port) เชื่อมโยงอากาศในตัวตู้ผ่านท่อระบายเบสทรงกลมรีขนาดใหญ่ที่ติดตั้งอยู่ด้านหลัง และเนื่องจาก “LS50 Wireless II” เป็นลำโพงแอคทีฟที่มีวงจรอิเล็กทรอนิคกับแอมปลิฟายเออร์อยู่ในตัว จึงต้องมีแผงฮีทซิ้งค์ที่ใช้ระบายความร้อนจากการทำงานของแอมปลิฟายเออร์ติดตั้งอยู่ด้วยบริเวณพื้นที่ส่วนบนของผนังด้านหลังตัวตู้ทั้งสองข้าง โดยมีแผ่นโลหะที่ทำเป็นลอนๆ ปิดทับฮีทซิ้งค์เอาไว้เพื่อความปลอดภัยและเพื่อความสวยงาม ส่วนล่างของผนังด้านหลังของตัวตู้เป็นพื้นที่ติดตั้งขั้วเสียบต่อต่างๆ

วิศวกรของ KEF เปิดโอกาสให้สามารถใช้งาน “LS50 Wireless II” กับสัญญาณเสียงจากอุปกรณ์ภายนอกได้หลากหลายและครบถ้วนมาก เริ่มจากให้ขั้วต่อ HDMI สำหรับเชื่อมต่อกับช่อง ARC หรือ eARC ของทีวีเพื่อรับสัญญาณเสียงจากทีวีมาขยายผ่าน LS50 wireless II ซึ่งเป็นการอัพเกรดระบบเสียงของทีวีที่มีประสิทธิภาพมาก อีกทั้งยังดูเหมือนว่า LS50 Wireless II จะถูกสร้างขึ้นมาเพื่อคนที่ชอบฟังเพลงโดยเฉพาะ พร้อมรองรับการฟังเพลงจากแหล่งสัญญาณแอนาล็อก เสียบต่อผ่านช่องอินพุต analog (AUX) ของ “LS50 Wireless II” หรือหากใครต้องการรับฟังเพลงจากแผ่นซีดีผ่านเครื่องเล่นซีดี LS50 Wireless II ก็ได้ ผ่านช่องอินพุต digital ที่มีให้เลือกใช้งานครบทั้ง 2 รูปแบบ คือ Coaxial กับ Optical นอกจากนี้ผู้ที่รับฟังเพลงผ่านสตรีมมิ่งเป็นหลัก “LS50 Wireless II” ก็มีช่องทางอินพุตให้คุณเลือกสตรีมไฟล์เพลงมาเล่นได้ ทั้งวิธีใช้สาย (LAN/Ethernet) และวิธีไร้สายครบหมดทั้ง Wi-Fi และ Bluetooth เรียกได้ว่า ความสามารถในการรองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นได้รอบตัว

แต่อย่าลืมว่า การจะใช้งาน “LS50 Wireless II” ต้องให้ลำโพงทั้งสองตัวได้ทำการจับคู่กันก่อน ด้วยการกดปุ่ม “P/S Pairing” ที่อยู่บนแผงด้านหลังของตัวลำโพง กับต่อแบบใช้สาย LAN ที่แถมมาในกล่องบรรจุภัณฑ์ เสียบเข้าที่ช่อง LAN ที่เขียนว่า “TO P/S” ที่อยู่บนแผงด้านหลังของตัวลำโพงซ้ายและขวา ซึ่งหลังจากเสียบสาย LAN แล้ว ลำโพงทั้งสองตัวจะใช้เวลาเพียงเล็กน้อยในการเชื่อมต่อกัน

สำหรับ LS50 Wireless II วิศวกรของ KEF ได้ทำการปรับปรุงแอพลิเคชั่นที่ใช้ในการควบคุมสั่งงานขึ้นมาใหม่ โดยจับเอาการควบคุมสั่งงานฟังก์ชั่นต่างๆ ของตัวเครื่องกับการควบคุมการเล่นไฟล์เพลงมาไว้ในแอพฯ ตัวเดียวกัน โดยใช้ชื่อว่า “KEF Connect” ซึ่งถือว่าเป็นพัฒนาการที่กระโดดขึ้นมาอีกขั้น ทำให้การควบคุมสั่งงาน LS50 Wireless II ทำได้สะดวกมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งปรับตั้งและเลือกใช้ฟังก์ชั่นต่างๆ รวมถึงการเล่นไฟล์เพลงได้ง่ายดายขึ้นมาก โดยที่แอพ KEF Connect เป็นแอพฯ ที่ KEF พัฒนาขึ้นมาให้ผู้ใช้ลำโพง LS50 Wireless II สามารถโหลดมาใช้ได้ฟรี ซึ่งมีให้เลือกทั้งเวอร์ชั่น Android และ iOS

คุณลักษณ์

ความเป็น fully active wireless stereo speaker system ที่เป็นระบบ all-in-one ล่าสุดของ KEF ไม่ต้องสงสัยเลยว่า “LS50 Wireless II” เป็นมรดกของ KEF ที่น่าภาคภูมิใจอย่างมากๆ นับจาก LS50 Wireless ได้เปิดตัวครั้งแรกในปี 2016 โดยเป็นระบบลำโพงแบบแอคทีฟ ซึ่งใช้แทนลำโพง LS50 แบบพาสซีฟในตำนานของ KEF ด้วยความเป็นลำโพงระบบสเตอริโอไร้สาย ที่มีแอมปลิฟายเออร์ในตัว และการสตรีมระดับอัจฉริยะ

แต่สำหรับลำโพง “LS50 Wireless II” ใหม่นี้ ไม่ได้ปรับปรุงใหม่แค่ระบบเชื่อมต่อเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับแอพใหม่ที่ได้รับการออกแบบมาอย่างดี “LS50 Wireless II” ไม่เพียงแค่แก้ไขความไม่สมบูรณ์ของรุ่นก่อนเท่านั้น แต่ยังได้รับการออกแบบเพื่อรีดประสิทธิภาพให้มากยิ่งขึ้นจากตัวเครื่องที่คุ้นเคย และการจัดเรียงไดรเวอร์ Uni-Q ผ่านนวัตกรรมทางเทคโนโลยีใหม่ของ KEF ที่เรียกว่า  Metamaterial Absorption Technology (MAT).

ซึ่งโดยพื้นฐานแล้ว “MAT” เป็นวิธีที่ชาญฉลาดในการดูดซับคลื่นเสียงที่แผ่ออกมาจากด้านหลังของโดมทวีตเตอร์ เพื่อไม่ให้บิดเบือนเอาต์พุตไปข้างหน้าของ Uni-Q driver โดยในทางกายภาพ เทคนิคนี้มองเห็นพลาสติกชิ้นกลมที่มีโครงสร้างคล้ายเขาวงกตที่ติดตั้งวางอยู่ด้านหลังทวีตเตอร์ ซึ่งแต่ละ ‘เส้นทาง’ (path) ในโครงสร้างมีขนาด และความยาวที่แน่นอน ที่จะ ‘ปรับ’ (tuned) เพื่อดูดซับช่วงความถี่เฉพาะ ทั้งนี้ KEF ได้กล่าวว่า เมื่อรวมกันแล้ว เส้นทางต่างๆ จะทำหน้าที่เป็น ‘หลุมดำอะคูสติก’ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยดูดซับเสียงที่ไม่ต้องการได้ถึง 99 เปอร์เซ็นต์

ทั้งนี้ได้มีการใช้เทคนิคการดูดซับนี้ในสาขาอื่นๆ มาก่อน แต่การริเริ่มร่วมกันนี้กับบริษัทวัสดุอัจฉริยะและอะคูสติก “Acoustic Metamaterials Group” ถือเป็นการใช้งานครั้งแรกในลำโพง โดยถูกนำไปใช้ในลำโพงแบบพาสซีฟ KEF LS50 Meta ใหม่เป็นครั้งแรก

Uni-Q driver ใหม่ได้รับการจดสิทธิบัตรของ KEF เป็นเจนเนอเรชั่นที่ 12 ไม่เพียงกำหนดโดย MAT เท่านั้น แต่ยังเป็นระบบแม่เหล็กขับเคลื่อนที่ปรับปรุงใหม่ ซึ่ง KEF ได้ปรับปรุงระบบอัลกอริธึมการประมวลผลสัญญาณดิจิทัล (digital signal processing algorithm system) สะท้อนการกำหนดค่าของ LS50 Wirelesses ด้วยแอมปลิฟายเออร์ คลาส A/B ใหม่ ที่ให้พลังงานแก่ทวีตเตอร์ 100 วัตต์ ในขณะที่กำลังขับสำหรับไดรเวอร์มิด/เบส นั้นอยู่ที่ 280 วัตต์

ในปี 2018 เมื่อ KEF เปิดตัวระบบลำโพงรุ่น LSX ซึ่งเป็นรุ่นเล็ก (miniature version) ของ LS50 Wireless โดยแทนที่สายต่อเชื่อมระหว่างลำโพง ด้วยการเชื่อมต่อแบบไร้สาย ที่สามารถเล่นไฟล์ (สูงสุด 24-bit /192kHz) ค่าความละเอียดสูงสุด 24- bit/48kHz …ไม่แปลกใจเลยที่จะเห็นวิธีที่สะดวกกว่านี้ มีใช้อยู่ใน LS50 Wireless II แม้ว่าขีดจำกัดในระบบไร้สายจะเพิ่มเป็นที่ 24-bit /96kHz ซึ่งหมายความว่า จะทำการลดรูปตัวอย่างไฟล์ที่สูงกว่าความละเอียดนั้นลงมา – โดยรองรับไฟล์สูงสุดอยู่ที่ 24-bit/384kHz . การเชื่อมต่อลำโพงตัวหลัก (ด้านขวา) และตัวรอง (ด้านซ้าย) ผ่านสายอีเธอร์เน็ต (ethernet cable) ที่จัดให้มาพร้อมเครื่อง จะสามารถเพิ่มการเล่นแบบเนทีฟ (native playback) เป็น 24-bit/192kHz

นอกจากนี้ยังรองรับ DSD256 ด้วยเช่นกัน เช่นเดียวกับการถอดรหัส MQA สำหรับการเล่นไฟล์ที่ดาวน์โหลดมาและ Tidal Masters ความละเอียดสูง ทั้งนี้ Tidal เป็นหนึ่งในบริการสตรีมมิ่งที่เข้าถึงได้โดยตรงจากแอพ KEF Connect ใหม่ โดยที่สามารถรับฟัง Amazon Music, Qobuz, Deezer และ Spotify รวมถึงวิทยุอินเทอร์เน็ตและเซิร์ฟเวอร์ UPnP ได้ด้วยปลายนิ้วของคุณเช่นกัน ผู้ใช้สามารถใช้งาน KEF เหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย และยังไม่ต้องการแอปเฉพาะอีกด้วย เนื่องจาก “LS50 Wireless II” รองรับ AirPlay 2, Google Chromecast และ Bluetooth และยังรองรับ Roon Ready อีกด้วย

KEF ยกเลิกการใช้ USB Type-B เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์สำหรับ LS50 Wireless II และ KEF ก็ได้ติดตั้ง HDMI eARC เพื่อให้เป็นมิตรกับทีวีมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีอินพุตแบบ coaxial (24-bit/192kHz), optical (24-bit/96kHz) และอินพุต aux ขนาด 3.5 มม.รวมถึงเอาต์พุตซับวูฟเฟอร์ก็พร้อมสรรพด้วยเช่นกัน เมื่อพิจารณาถึงการออกแบบ LS50 ระบบพาสซีฟ ซึ่งเป็นหนึ่งในลำโพงที่เป็นที่รู้จักและโดดเด่นที่สุดของ KEF

ผลการรับฟัง

ผลลัพธ์ของ MAT นั้นได้ยินชัดเจนในแง่ของความสะอาดจากช่วงย่านเสียงแหลม แม้ว่า “ความแตกต่าง” ของความบริสุทธิ์สะอาด (purity) จะได้ยินตลอดช่วงย่านความถี่ก็ตาม เสียงกลางนั้นสะอาดขึ้น และเสียงเบสที่ชัดเจนยิ่งขึ้น การปรับแต่งเพิ่มเติมทำให้เสียงต้นฉบับดูหยาบกระด้าง (touch crude) บ้างเล็กน้อย การนำเสนอโดยรวมได้รับการเปิดเผยอย่างชัดแจ้ง เต็มไปด้วยรายละเอียดที่ละเอียดกว่าและแม่นยำกว่า ส่งผลช่วยให้สามารถแยกชิ้นเครื่องดนตรีได้มากขึ้น

ขอยืนยันว่า LS50 Wireless II นั้น “ชอบ” ที่จะถูกตั้งวางให้ “หนีห่างจากผนัง” ทุกด้าน (พื้น-ผนัง) เพื่อหลีกเลี่ยงเสียงสะท้อนจากบริเวณรอบข้าง พร้อมด้วยการตั้งวางแบบหน้าตรงหรือขนานกับผนังห้องด้านข้าง มากกว่าที่จะโท-อิน (toe-in) หรือวางเฉียงเอียงสอบหน้าตัวลำโพงเข้าหากัน อันจะทำให้ได้มาซึ่งลักษณะ “สนามเสียง” ที่กว้างขวาง แผ่ใหญ่ กระจายตัว (spacious) มีการโอบล้อมของบรรยากาศรายรอบ (ambience) พร้อมด้วยความลึกของเวทีเสียงที่เด่นชัดและนิ่งสนิท ไม่ไหวตัววูบวาบแกว่งไปมา สามารถส่งมอบการรับรู้ได้ถึงสภาพเสียงที่มีหน้า-มีหลัง ให้ความรู้สึกถึงความถอยลึกเข้าไปในเวทีเสียงอย่างเด่นชัด สามารถรับรู้ได้ถึงตำแหน่งแห่งที่-การวางตัวของเสียงแต่ละเสียง และมีระดับสูง/ต่ำได้อย่างชัดแจ้งครบถ้วนส่งมอบสภาพ-ลักษณะเวทีเสียงที่ทั้งแผ่กว้างและลึก (อย่างน่าทึ่ง) ทั้งยังรับรู้ได้ถึงสภาพการโอบล้อมทางเสียงอย่างโดดเด่นอีกด้วย

ซึ่งในระดับการรับฟังที่ความดังปกติ (ไม่เร่งเสียงดังมากๆ) คุณจะสัมผัสได้ในสภาพความแผ่กว้างของเสียงเต็มพื้นที่ห้อง ถอยลึกเลยผนังหลังห้องฟังเข้าไป แยกเป็นแถว/ชั้นของเสียงชัดเจน บ่งบอกตำแหน่งแห่งที่ของเสียงที่เกิดขึ้นได้แน่นอน โดยไร้ซึ่งอาการเสียงเดินหน้า (forward) หรือว่า จัดจ้า หรือแม้กระทั่งอาการที่มักเรียกกันว่า ขึ้นขอบ “LS50 Wireless II” สามารถส่งมอบรายละเอียดเสียงเล็กๆ น้อยๆ ออกมาให้ได้รับฟัง เฉพาะอย่างยิ่งกับความรู้สึก-รับรู้ถึงมวลอากาศรายรอบ และความมีชีวิตชีวาของชิ้นดนตรีอะคูสติกชนิดต่างๆ ชนิดที่ว่า มีความรู้สึกอันสมจริงยิ่งนัก

“LS50 Wireless II”  จะส่งมอบเสียงของชิ้นดนตรีชนิดต่างๆ เสมือนลอยล่องออกมา ผลุดโผล่จากตรงโน่นตรงนี้ มีตำแหน่งแห่งที่ชี้ชัด ไม่ว่าจะเป็นเสียงกีต้าร์-เสียงเปียโน-เสียงไวโอลิน-เสียงเครื่องสายทั้งหลายเรียกได้ว่า แทบจะมองเห็นเป็นเส้นสายที่สั่นไหวกันเลยทีเดียว

ซึ่งนี่สำแดงให้เห็นถึงสมรรถนะทางเสียงของ  Uni-Q driver ใหม่ ที่ได้รับการจดสิทธิบัตรของ KEF เป็นเจนเนอเรชั่นที่ 12 จึงทำให้ “LS50 Wireless II” ถ่ายทอดสรรพเสียงที่เปี่ยมด้วยรายละเอียด ให้การจำแนกแยกแยะลักษณะเสียงจำเพาะ-เฉพาะตัวของแต่ละเสียง (timbre) ได้อย่างดีทีเดียว ทั้งยังสามารถส่งมอบการผุดโผล่ของรายละเอียดเสียงระยิบระยับ รวมทั้งสัญญาณเสียงฉับพลันได้อย่างทันทีทันใด ให้ทั้งความจะแจ้ง-แจ่มชัด-สดใส พร้อมการเปิดโปร่ง-โล่งกระจ่าง ไร้สภาพ “หมอกควัน” ปกคลุม

อันสืบเนื่องจาก Uni-Q driver เจนเนอเรชั่นที่ 12 อันโดดเด่น ผลลัพธ์ทางเสียงที่ได้รับ จึงโดดเด่นอย่างมากในด้าน “ความเปิดโล่ง-โปร่งกระจ่าง-ฉับไว” สามารถตอบรับกับสัญญาณฉับพลันได้อย่างทันทีทันใด รับฟังแล้วสะใจมากเรื่องของไดนามิก-ความไหลลื่น และเรี่ยวแรงปะทะ (impact) รวมทั้งรายละเอียดเสียง (detail) พร้อมด้วยเวทีเสียงที่แผ่กว้าง ไล่ระดับความลึก ให้ตำแหน่งแห่งที่อันแจ่มชัดในจินตภาพเสียง (image)

“LS50 Wireless II” ให้สุ้มเสียงโดยรวมไปในทาง-สดใส-กระชับ น้ำหนักเบสที่พอดีๆ ไม่มีล้น หรือ บวม จับจังหวะจะโคน-ท่วงทีลีลาได้ถนัด ที่สำคัญนอกจากจะไม่ปรากฏอาการคลุมเครือ ตีรวน แบ่งแยกช่วงเสียงต่างๆแล้ว ‘เนื้อเสียง’ ทั้งแหลม-กลางและต่ำยังกลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกัน “LS50 Wireless II” ให้ลักษณะเสียงโดยรวม ที่มีมวลมีน้ำหนัก เพียบพร้อมด้วยความอิ่มฉ่ำ (มีมวลบรรยากาศห้อมล้อมไม่แห้งผาก) และกระจ่างชัดในทุกสรรพเสียง …แน่นอนละครับ “LS50 Wireless II” ส่งมอบเสียงร้องเพลงทั้งชายและหญิงได้อย่างชนิด “สมจริง” เป็นน้ำเสียงของมนุษย์จริงๆ มีตัวมีตน มีวิญญาณ มีลมหายใจราวกับกำลังยืนร้องให้เราฟังกันสดๆอยู่ต่อหน้าเลยจริงๆ น่าประทับใจ ….พร้อมด้วยบุคลิกเสียงที่สดใส ฉับไว เปล่งประกาย ให้ความกังวานของหางเสียงสูงที่แจ่มชัด ทอดตัวยาวไกล พร้อมๆกับความฉ่ำชุ่มนุ่มนวลอย่างเป็นธรรมชาติ

สรุปส่งท้าย

ลักษณะน้ำเสียงของ “LS50 Wireless II” ต้องขอบอกว่า เป็นความโดดเด่นที่สำคัญ โดยเป็นเสียงที่มีความกลมกลืนต่อเนื่องนวลเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน สดใส สะอาด มีมวลมีน้ำหนัก (แรงกระทบ-ปะทะ) ให้ความมีตัวตน มีลมหายใจ พร้อมด้วยความคึกคัก กระฉับกระเฉง ไม่โฉ่งฉ่าง ฟังแล้วรู้สึกคึกคัก รุกเร้าใจ สามารถให้การจำแนก-แยกแยะเสียงดนตรีที่ซ้อนทับกันนั้นได้แจ่มชัดมาก รวมถึงสมรรถนะการถ่ายทอด-บ่งบอกจินตภาพและสภาพเวทีเสียงที่ดูจะมีความโดดเด่นมากเป็นพิเศษ

“LS50 Wireless II” สามารถให้การรับรู้ถึงสภาพเสียงที่นอกจากจะแผ่กว้าง – จนสามารถสร้างความรู้สึกโอบล้อมของบรรยากาศเสียงแล้ว ยังถอยลึกเข้าไปหลังตำแหน่งตั้งวางระบบลำโพงเป็นปริมณฑลเสียงอยู่หลังตำแหน่งตั้งวางลำโพง สามารถจำแนกแยกแยะแถวชั้นของตำแหน่งชิ้นดนตรีได้อย่างมีอาณาบริเวณเป็นอิสระ ปราศจาการเบียดบัง กลบซ้อนทับกัน ทั้งยังไล่ระดับความสูง/ต่ำในตำแหน่งแห่งที่ของสรรพเสียงได้อย่างสมจริง –ราวเป็นเสียง 3 มิติพร้อมด้วยมวลอากาศรายรอบของสภาพบรรยากาศเสียง

ขอขอบคุณ Vgadz Corporation Co.,Ltd ที่กรุณาเอื้อเฟือลำโพง KEF: LS50 Wireless II ในการรับฟังครั้งนี้