Mongkol Oumroengsri
Primare ก่อตั้งขึ้นในสวีเดน ช่วงกลางทศวรรษที่ 80 โดย Bo Christensen – นักออกแบบอุตสาหกรรมชั้นนำของเดนมาร์กและยังเป็นออดิโอไฟล์ผู้หลงใหลในเสียงเพลง ได้ร่วมกับ Bent Nielsen – วิศวกรที่มีพรสวรรค์ และทีมนักออกแบบหัวก้าวหน้าสร้างเป็นบริษัทผู้ผลิตเครื่องเสียงรูปแบบใหม่ที่ชื่อว่า Primare Systems AB โดยเน้นใช้ส่วนประกอบระดับไฮ-เอ็นด์สรรค์สร้างเป็นนวัตกรรมใหม่ขึ้นมา ซึ่งที่ผ่านมาผลิตภัณฑ์ของ Primare ได้รับการยกย่องทั้งในด้านคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม และรูปลักษณ์ที่ดูหรูหรา ทันสมัย
ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของ Primare ครอบคลุมในส่วนของ Network Players – CD Players – Phono Preamplifiers – Integrated Amplifiers – Preamplifiers – Power Amplifiers และ Modules ซึ่งในส่วนของ Modules นั้นก็คือ โมดูลาร์ (modular) ที่ทีมนักออกแบบของ Primare ได้ทุ่มเทออกแบบไว้ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถทำการเลือกคุณสมบัติการใช้งานตามที่จำเป็นต่อความต้องการของระบบได้อย่างหลายหลาก
– แล้วโมดูลาร์คืออะไร?
โมดูลาร์ หรือ modular design หรือ modularity นับเป็นแนวทางที่ใช้ในการออกแบบผลิตภัณฑ์ หรือการใช้งานต่างๆ ด้วยการแบ่งเป็นส่วนๆ หรือแยกส่วนกัน โดยที่ชิ้นส่วนแต่ละชิ้นสามารถใช้สำหรับฟังก์ชั่นเดียวกันในระบบ หรือร่วมกับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในระบบได้ “modular design” ช่วยให้สามารถกำหนด (customize), นำกลับมาใช้ใหม่ (reuse), อัปเกรด (upgrade) รวมทั้งบำรุงรักษา (maintain) การออกแบบผลิตภัณฑ์ได้ นอกจากนี้ ชิ้นส่วนอิสระของผลิตภัณฑ์โมดูลาร์นั้นยังเป็นไปตามอินเทอร์เฟซมาตรฐาน เพื่อให้เข้ากันได้เป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปได้อย่างง่ายดาย “modular design” จึงนับเป็นเรื่องง่ายที่จะปรับแต่ง หรือบำรุงรักษา
ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ “modular design” ที่มีอยู่ในทุกวันนี้ มีอยู่สารพัดอย่าง และมักใช้อยู่ในสินค้าอุปโภค-บริโภคต่างๆ หรือ consumer products อย่างเช่น รถยนต์, สมาร์ทโฟน, คอมพิวเตอร์, และโทรทัศน์ ตัวอย่างการออกแบบโมดูลาร์อื่นๆ ได้แก่ วิศวกรรมซอฟต์แวร์ (software engineering) และการออกแบบผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ (software product design) ทั้งนี้ทั้งนั้นตัวอย่างที่มีชื่อเสียงของโมดูลาร์ ก็คือ LEGO ซึ่งชิ้นพลาสติกของเล่นเหล่านี้มีส่วนประกอบที่สามารถประกอบและนำกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างง่ายดาย เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปต่างๆ ได้หลายหลาก
Primare ได้เริ่มนำเอา “modular design” มาใช้กับการออกแบบผลิตภัณฑ์เป็นครั้งแรกในช่วงปี 2010 สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่ม 30 และ 20 Series ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ Primare ในทุกวันนี้มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีรุดล้ำเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังได้ก้าวไปสู่ความเป็น Prisma อีกด้วย
– แล้วอะไรคือ Prisma?
Prisma คือ กลุ่มเทคโนโลยีที่ Primare สร้างสรรค์เพื่อให้ทุกคนในครอบครัวได้สำรวจ (explore), ค้นพบ (discover) และแบ่งปัน (share) ประสบการณ์ที่น่าพึงพอใจอย่างยิ่งในการเล่นกลับ (รับฟัง) เพลงประสิทธิภาพสูง (high-performance music playback) โดยให้การเชื่อมต่อแบบหลายห้อง/หลายโซน และการควบคุมสื่อที่จัดเก็บและสตรีม ไม่ว่าจะมีสายหรือไร้สาย ซึ่งทั้งหมดนั้นสามารถจัดการได้จากอุปกรณ์พกพา (mobile devices) ร่วมกับแอปควบคุม (control app) ระบบโดยเฉพาะ จึงเอื้ออำนวยประโยชน์ในการใช้งานให้มีความสะดวกสบายและง่ายดาย
คุณลักษณ์
“I25 Prisma” ก็คือ modular integrated amplifier & network player ที่ควบรวมการใช้งานด้านดิจิทัลสารพัดอย่างเอาไว้เสร็จสรรพในตัวเอง ที่สำคัญ “I25 Prisma” ได้ผนวกรวมเอาทั้งภาคแปลงข้อมูลดิจิตทัลเป็นรูปสัญญาณแอนะล็อก หรือ DAC “DM35” และโมดูลเครื่องเล่นเครือข่าย หรือ network player modules “SM35 Prisma” เข้าไว้กับแพลตฟอร์ม modular integrated amplifier “I25” ที่เคยคว้ารางวัลมาครองด้วยการใช้เทคโนโลยีภาคขยายเสียงอันทันสมัย “UFPD 2” ของ Primare ซึ่งสามารถให้กำลังขับได้ถึง 100 วัตต์ต่อแชนแนล ส่งผลให้ “I25 Prisma” กลายเป็นศูนย์ควบคุมระบบเสียงดิจิทัลอันหลายหลากที่มีความพิเศษมาพร้อมด้วยพลังขับในตัว
ทั้งนี้ UFPD (Ultrafast Power Device) ก็คือ เทคโนโลยี Class-D แบบแอนาล็อกล้วนๆ (all-analog Class-D technology) ของ Primare ที่เคยได้รับรางวัลมาทำการปรับปรุงใหม่อย่างสิ้นเชิงในส่วนของภาคจ่ายไฟ (power supply) สู่ความเป็นรุ่น MK2 ของ I25 นั่นคือ “UFPD 2” ซึ่งให้ประสิทธิภาพได้สูงถึง 94% มาบรรจุไว้ใน “I25 Prisma” โดยที่วิศวกรของ Primare ใช้เวลาปรับปรุง Class D technology นี้นานกว่าสิบปีจาก UFPD มาสู่ “UFPD 2” ที่สามารถจ่ายกำลังขับได้เต็มๆ 100 วัตต์ต่อข้างที่ 8 โอห์ม และเพิ่มขึ้นเป็น 200 วัตต์ต่อข้างที่ 4 โอห์ม ซึ่งให้การครอบคลุมได้ตลอดทั้งช่วงย่านความถี่เสียงที่รับฟัง (audible bandwidth) ด้วยความฉับไวของเสียงที่รวดเร็วเป็นธรรมชาติ เต็มเปี่ยมในความสดสะอาด และลื่นไหลทำให้ได้มาซึ่งเสียงดนตรีที่มีชีวิต โดยที่ amplifier module “UFPD 2” นี้มีลักษณะเป็น balanced configuration ของ discrete amplifiers จำนวน 4 ตัว – สองตัวต่อหนึ่งช่องสัญญาณ ซึ่งนี่ทำให้ “I25 Prisma” สามารถสร้างไดนามิกเสียงระดับคอนเสิร์ตได้อย่างน่าทึ่ง
DM35 
SM35 Prisma
ในขณะที่ “DM35” ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวแปลงข้อมูลดิจิทัลเป็นรูปสัญญาณแอนะล็อกนั้นใช้ชิปของ AKM “AK4497” ทำให้มีคุณสมบัติครบถ้วนของการถดรหัสข้อมูลดิจิทัลเป็นรูปสัญญาณแอนะล็อก (full-featured digital to analog converter stage) ทำให้สามารถแปลงข้อมูลดิจิทัลได้ถึงระดับ PCM 768kHz/32bit และ DSD 256 นอกจากนี้ในส่วนของ network player modules “SM35 Prisma” ยังควบรวมเอา AirPlay 2, Bluetooth®, Roon Ready (จำเป็นต้องอัปเดตเฟิร์มแวร์) และ Spotify Connect® มาบรรจุไว้ในตัว ทั้งนี้ “I25 Prisma” ยังมี Chromecast ผนวกอยู่ในตัวเสร็จสรรพ ซึ่งเป็น streaming portal ที่ไม่เหมือนใคร ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อโดยตรงกับแอปพลิเคชันและบริการการสตรีมมิ่งได้อีกหลายร้อยรายการ รวมถึงการควบคุมด้วยเสียง (voice control) เพื่อประสิทธิภาพและประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุด โดยที่ Chromecast ในตัวของ “I25 Prisma” จะทำการสตรีมเสียงโดยตรงจากระบบคลาวด์ (cloud) จึงได้คุณภาพเสียงสูงสุด และยังสามารถเพลิดเพลินกับ high-res music ได้สูงสุด 24-bit/96kHz จากบริการต่างๆ เช่น TIDAL และ Qobuz ที่สำคัญ “I25 Prisma” ยังรองรับกับ DLNA and UPnP™ (Universal Plug ‘n’ Play) ทำให้ผู้ใช้สามารถรับฟัง high-resolution wireless streaming จากคอมพิวเตอร์ Windows หรือ Mac หรือว่าจาก NAS drive ได้อีกด้วย
“I25 Prisma” ได้รับการออกแบบรูปลักษณ์ที่เน้นความเรียบง่ายตามสไตล์นอร์ดิก (Nordic design) ผลิตในประเทศสวีเดน บนแผงหน้าเครื่องมีเพียงปุ่มหมุนเดี่ยวโดดทางด้านขวา และปุ่มกดเล็กๆ 3 ปุ่มทางด้านซ้าย พร้อมด้วยจอแสดงผลขาวดำตรงกลาง ทั้งนี้ “I25 Prisma” มาพร้อมกับรีโมต คอนโทรลสีดำที่ดูดีมีความหรูหรา บนแผงหลังตัวเครื่องของ “I25 Prisma” นอกจากจะมีที่เสียบเสา 2 เสาสำหรับระบบไฮ-ไฟแล้ว ก็ยังได้ติดตั้งช่องเสียบต่อใช้งานต่างๆ ไว้ดังนี้: 6 digital audio inputs (รองรับสูงสุด PCM 24-bit/192kHz; DSD 5.6MHz); 4 Toslink optical; 2 coaxial; 1 USB Type-B input (สำหรับเชื่อมต่อกับ PC หรือ Mac รองรับสูงสุด PCM 32-bit/768kHz; DSD 11.2MHz); 1 USB Type-A input (สำหรับเชื่อมต่อกับ thumb drive รองรับสูงสุด PCM 24-bit/192kHz; DSD 5.6MHz); 2 Ethernet ports (LAN in/LAN out) สำหรับเชื่อมต่อกับ home network รองรับสูงสุด PCM 24-bit/192kHz; 5.6MHz); 1 coaxial digital audio output; 5 stereo RCA analog inputs; 2 stereo RCA analog outputs (ชุดหนึ่งใช้งานเป็น line out w/fixed volume สำหรับ dubbing; อีกชุดหนึ่งใช้งานเป็น pre-out w/volume control สำหรับเสียบต่อกับพาวเวอร์ แอมป์ข้างนอก หรือ powered subwoofer) ในส่วนของขั้วต่อสายลำโพงมีให้หนึ่งชุด เป็นแบบ gold-plated binding post ที่ใช้ได้กับทั้งสายเปลือย, banana plugs และ pin connectors
ผลการรับฟัง
บอกได้เลยว่า โมดูลภาคขยาย UFPD 2 ในตัวของ “I25 Prisma” ให้สุ้มเสียงที่มีความเปิดโปร่ง สดกระจ่าง จะแจ้งมากทีเดียว ในขณะเดียวกันก็รับรู้ได้ถึงความเนียนนุ่มไปพร้อมกัน เสียงทุกเสียงมีความลอยตัวไม่มีความอัดอั้น ช่วงย่านเสียงสูงสะอาด สดใส และทอดตัวไปยาวไกลสุดๆ รับรู้ได้ถึงมวลบรรยากาศที่อบอวลอยู่รอบๆ ชิ้นดนตรีได้ดีมากๆ
จากการรับฟังครั้งนี้ “I25 Prisma” ได้ส่งมอบเสียงเพลงและดนตรีอย่างมีมนต์ขลัง …เป็นเสียงที่มีเสน่ห์ ฉ่ำชุ่ม ตราตรึงใจ …เป็นเสียงที่ฟังแล้วรู้สึกอิ่มเอิบใจ …เป็นเสียงที่ผ่อนคลายเข้าถึงห้วงอารมณ์ดนตรี …เป็นเสียงที่เปี่ยมด้วยไดนามิกความฉับพลัน- ทั้งยังไหลลื่นและต่อเนื่องน่าฟัง …เป็นเสียงที่ยังคงดำรงไว้ซึ่งกลิ่นอายของความเป็นแอนาล็อคไว้ได้อย่างน่าทึ่ง
“I25 Prisma” เมื่อจับคู่กับลำโพงที่แมทช์กันจะให้เสียงที่มีมิติ มีตัวตน มีห้วงอารมณ์ความรู้สึกของดนตรี รวมถึงความเป็นธรรมชาติของเสียงแต่ละเสียงที่บังเกิดขึ้นมาอย่างมีชีวิตชีวา สามารถจับตำแหน่งการแยกแยะแถว-ชั้นของเสียง พร้อมด้วยความโปร่งโล่งในมวลบรรยากาศ สารพัดเสียงสอดแทรกต่างๆ ก็สดสะอาด กระจ่างมาก และให้ทิศทางที่มาของเสียงนั้นๆอย่างแจ่มชัด สารพัดเสียงเครื่องดนตรีอย่างเช่น ไวโอลินให้ความเป็นตัวเป็นตน เสียงเปียโนก็กังวานน่าฟัง เสียงดับเบิ้ล เบสนี่อิ่มแน่น ส่งเรี่ยวแรงปะทะ และน้ำหนักเสียง ทั้งยังให้รับฟังได้ถึงความกังวานแว่วเป็นระลอกจากเสียงสะท้อนของสภาพอะคูสติคในห้องบันทึกเสียง ที่ให้ออกมาเป็นมวลบรรยากาศอบอวล เหมือนเรากำลังเข้าไปนั่งฟังสดๆ ราวกับ ‘live’ อยู่ต่อหน้า เมื่อครั้งทำการบันทึกเสียงกระนั้น
“I25 Prisma” จะบ่งบอกสภาพเสียงที่มีมวลอากาศห้อมล้อม อบอวล ทำให้รับรู้ได้ถึงสภาพบรรยากาศของโถงแสดงดนตรีที่ถูกบันทึกเสียงมา ได้ราวกับเรา-ท่านกำลังนั่งฟัง-ดื่มด่ำในอรรถรส ท่ามกลางห้วงอารมณ์ดนตรี ณ โถงแสดงดนตรีนั้นๆ ได้อย่างสมจริงมาก สามารถรับรู้อิมเมจเสียงที่แยกแยะอยู่ตรงโน้น ตรงนี้ ตรงนั้น ตรงนู้น ราวเป็น 3 มิติที่แยกเข้าไปเป็นชั้นๆ (Layered) ในสภาพเวทีเสียงอันแผ่กว้าง ถอยลึก และสูงอย่างครบถ้วน พร้อมทั้งความรู้สึกโอบล้อมทางเสียงอย่างเสมือนจริง ทั้งเสียงร้องและเสียงดนตรี (หรือสรรพเสียงใดก็ตาม)
“I25 Prisma” ให้ความระรื่นโสตประสาทเป็นอย่างมาก พร้อมด้วยความกลมกล่อม มีน้ำมีนวลชวนฟัง ให้ความผ่อนคลาย สบายใจ การแยกแยะตำแหน่งแห่งที่ของเสียงที่อยู่ชิดติดกัน จะไม่ปรากฏอาการมั่วหรือสับสน แออัด ประดังประเด ซ้อนทับกัน – ความกระชับ ฉับไว แม่นยำในช่วงจังหวะจะโคน ทำให้การรับฟังมีความเสมือนจริง ด้วยความสดสะอาด โปร่งกระจ่าง ไหลลื่นต่อเนื่อง รวมไปถึงการผุดโผล่ของเสียงอันฉับไว
“I25 Prisma” จะทำให้คุณประทับใจในไดนามิก-ความฉับพลันในเสียงดนตรีที่ส่งมอบออกมา พร้อมด้วยน้ำหนักเสียงของชิ้นดนตรีแต่ละตำแหน่งแห่งที่-ที่ให้ความมีตัวมีตนของเสียง เปล่งออกมาจากตำแหน่งตรงนั้นตรงนี้จริงๆ แม้แต่เสียงเพอร์คัสชั่นอันแผ่วเบา ที่ยังปรากฏเข้าไปลึกอยู่ชั้นหลังสุดของวงเวทีเสียง-ฟังดูสมจริงมาก อิมเมจที่ปรากฏแจ่มชัดอยู่ต่อหน้า ไล่ระดับเป็นแถวชั้นตื้น-ลึก พร้อมด้วยอาณาบริเวณเสียงอันแผ่กว้าง แม้ในเสียงที่เกิดขึ้นซ้อน-แทรกพร้อมๆกัน ก็ยังสามารถจับตำแหน่งของแต่ละเสียงนั้นๆ ได้ ไม่ถูกบดบัง หรือกลบเกลื่อนจนกลมกลืนจางหายไป ยังคงดำรงไว้ซึ่งความชัดเจน สดใส สามารถเปิดเร่งระดับความดังเสียงที่รับฟังอยู่นั้นได้มากขึ้น-มากขึ้น โดยที่มิได้รู้สึกอึดอัดรำคาญหรือหนวกหูแต่อย่างใด
ที่สำคัญช่วงย่านเสียงกลางต่อเนื่องไปจนปลายสุดโต่งของช่วงย่านเสียงสูงที่รับฟังได้นั้น ให้ความหวานใส นวลเนียน เปิดโปร่ง ลอยตัว หางเสียงกังวานทอดยาวไกล มีความไหลระรื่นเป็นละอองอณูเสียงอย่างน่าฟัง …ยิ่งเมื่อรับฟังจากเพลงร้องด้วยแล้ว “I25 Prisma” จะให้ลักษณะเสียงร้องอันน่าทึ่ง ที่เปล่งออกมาจากปากอย่างมีลมหายใจ (breathing) มีวิญญาณ มีทรวดทรง สัมผัสได้ถึงห้วงอารมณ์ของการร้อง (emotional) พร้อมการแยกแยะอาณาบริเวณเสียงของกลุ่มนักร้อง เสียงนักร้องแต่ละคนล้วนมีมวลมีน้ำหนักมีตัวตน การออกอักขระเสียงชัดเจนทุกถ้อยคำที่เปล่งออกมา
“I25 Prisma” สามารถทำให้เราได้เข้าถึงซึ่งความสมจริงแห่งเสียงดนตรี ที่เปี่ยมไปด้วยพลัง พร้อมด้วยความฉับพลันทันใด รวมทั้ง “เนื้อเสียง” อย่างที่เครื่องยุคใหม่บางเครื่องให้ไม่ได้เยี่ยงนี้…
สรุปส่งท้าย
สรุปชัดๆ ลงไปได้ว่า น่าทึ่ง และ น่าประทับใจในทุกๆ สิ่งที่รับฟังได้จาก “I25 Prisma” …จริงอยู่ที่ “I25 Prisma” นับเป็นรุ่นน้องนุชสุดท้องในกลุ่ม Network Player ของ Primare ทว่าในด้านสมรรถนะการใช้งาน เฉพาะอย่างยิ่งคุณภาพเสียงของ UFPD 2 นั้น นับว่า ไม่เป็นสองรองใครในเครื่องระดับเรือนแสนทั้งหลาย …ขอบอกจากใจจริงครับ
TECHNICAL SPECIFICATIONS
- Type: Integrated amplifier with optional internal streamer and DAC
- Power output: 2 × 100W into 8 Ohms, 2x 200W into 4 Ohms
- Analogue Inputs: 5 × unbalanced (RCA) stereo inputs
- Digital inputs: 2x RCA digital inputs, 4x Toslink (up to 24/192), 1x USB A, 1x USB-B up to 768kHz/32 bit; DSD 256/11.2MHz, 2x Ethernet RJ45, 2x WiFi antennas
- Line level Output: 2 × unbalanced variable (RCA)
- Digital output: 1x RCA
- Multiroom connectivity: IR 3.5mm jack, 12v 3.5mm jack, RS232
- Prisma’s Audio formats supported: WAV, LPCM, AIFF, FLAC, ALAC, WMA, OGG: Up to 192kHz/24bit MP3, MP4 (AAC): Up to 48kHz/16bits, VBR & CBR 320kbps, DSD: Up to DSD128 (5.6MHz)
- Streaming: Airplay, Bluetooth, Chromecast built-in, Spotify Connect, DLNA/UPnP
- Frequency response: 20Hz–20kHz -0.2dB
- Signal-to-noise ratio: > 100dB
- THD+N: < 0.05%, 20Hz–20kHz, 10W at 8Ω
- Finish: black or titanium
- Dimensions (H×W×D): 10.6 × 43 × 42cm
- Weight: 11kg
