ฐานิสร์ มหาคุณ
“เปิดประสบการณ์สัมผัสพลังโฮมซีนีม่าขนานแท้”
บ่ายแก่ๆ ของวันทำงานวันหนึ่งในกรุงเทพมหานคร วันนี้เป็นวันที่โชคดีของผู้เขียนอีกครั้ง ที่จะได้มาสัมผัสรับฟังและรับชมชุดโฮมซีนีม่าจากบริษัท GAV (Grand Audio & Visual) แต่ก่อนที่จะเล่าถึงการมารับฟังในครั้งนี้ ผู้เขียนอยากจะขอบ่นอะไรสักเล็กน้อยในฐานะประชากรคนหนึ่งของเมืองหลวงแห่งนี้ ทุกวันนี้การดำรงชีพอยู่ในกรุงเทพมหานครก็นับว่ายากลำบากอยู่ในระดับหนึ่งแล้ว ไม่ว่าจะเป็นค่าครองชีพที่สูง และไหนจะปัญหาการจราจรที่ยังแก้ไม่ตกอีก วันนี้ชาวกรุงอย่างเรายังจะต้องโชคร้ายซ้ำซ้อนมาเผชิญกับปัญหามลพิษฝุ่น PM 2.5 กันอีก ซึ่งไอ้เจ้าฝุ่นที่ว่านี้มันก็ยังร้ายกาจจนเป็นสาเหตุของโรคร้ายแรงได้อีกด้วย ผู้เขียนมีความเห็นใจกับผู้คนที่ต้องทำงานหรือเดินทางกลางแจ้งเสียจริงๆ โดยเฉพาะเด็กนักเรียน นักศึกษาต่างๆ ก็ได้แต่หวังว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะแก้ปัญหาได้โดยเร็ว กว่าต้นฉบับนี้จะได้ถูกตีพิมพ์ลงหนังสือ ปัญหามลพิษฝุ่น PM 2.5 ก็คงจะทุเลาลงไปบ้างแล้ว แต่ตัวผู้เขียนคิดว่าเราก็อย่าพึ่งประมาทไว้จะดีกว่า เราควรจะใส่หน้ากากหรือเครื่องป้องกันต่อไปอีกสักระยะ เพราะว่ายังไงสุขภาพของเราต้องสำคัญที่สุด
กลับมาถึงเรื่องของบริษัท GAV กันต่อนะครับ ต้องขออภัยที่พาออกนอกเรื่องไปสักนิดนึง บริษัท GAV เป็นบริษัทผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าระดับ Hi-End ทั้งในหมวด Audiophile และ Home Cinema ซึ่งตัวบริษัทตั้งอยู่ที่ซอยสุขุมวิท 62 สินค้ายี่ห้อดังๆ ที่บริษัทเป็นตัวแทนอยู่ก็มีอาทิเช่น KHARMA, THETA DIGITAL, ACURUS, PROCELLA AUDIO นอกจากการเป็นผู้นำเข้าแล้ว ทางบริษัท GAV ก็ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มากด้วยประสบการณ์ทั้งด้านภาพและเสียง สำหรับลูกค้าที่มาซื้อสินค้าไปนั้น ก็สบายใจได้แน่นอนว่าจะได้รับคำแนะนำและข้อมูลต่างๆ ที่ถูกต้อง
จุดประสงค์ในการมาเยือนบริษัท GAV ของผมในครั้งนี้ ก็เพื่อมารับชมและรับฟังห้องโฮมซีนีม่าที่ทางบริษัทได้จัดเซ็ตอัพเอาไว้เพื่อเดโมสินค้าของทางบริษัทนั่นเอง ในห้องโฮมซีนีม่านี้ก็มีสินค้าที่น่าสนใจอยู่หลายตัว แต่ก็มีตัวที่น่าสนใจเป็นพิเศษที่ผู้เขียนอยากจะหยิบยกมาให้ท่านผู้อ่านได้รู้จักกัน นั่นก็คือ โปรเจคเตอร์ยี่ห้อ Barco รุ่น Balder Cinemascope , Pre Processor ยี่ห้อ Acurus รุ่น ACT 4 , ลำโพงคู่หน้าและเซ็นเตอร์ยี่ห้อ Procella Audio รุ่น P815, ซับวูฟเฟอร์ยี่ห้อ Procella Audio รุ่น P18 ซึ่งสินค้าทุกตัวที่ว่ามานี้ต่างก็เป็นรุ่นที่โดดเด่นประจำยี่ห้อนั้นๆ เลยทีเดียว
“โฮมซีนีม่า” ต่างจาก “โฮมเธียเตอร์” อย่างไร
แต่ก่อนที่จะกล่าวถึงสินค้าเหล่านี้ ผู้เขียนอยากจะพูดถึงคำว่า “โฮมซีนีม่า” ก่อนสักหน่อยนึง เมื่อไม่กี่ปีมานี้ท่านผู้อ่านก็คงจะได้เห็นคำว่า “โฮมซีนีม่า” เริ่มเข้ามาใช้ในวงการเครื่องเสียงบ้านเรามากขึ้น หลายท่านก็มีข้อสงสัยว่า แล้ว “โฮมซีนีม่า” มันต่างจาก “โฮมเธียเตอร์” อย่างไร อันที่จริงตรงนี้ก็ยังไม่มีใครออกมาให้คำจำกัดความอย่างแท้จริงนะครับ ว่ามันแตกต่างกันอย่างไร แต่จากการที่ตัวผู้เขียนเองได้เคยเห็นมาและลองสังเกตดู ผู้เขียนก็อยากจะให้คำนิยามของความแตกต่างกันระหว่าง โฮมซีนีม่าและ โฮมเธียเตอร์ เอาไว้ดังนี้ (ผิดถูกอย่างไรขออภัยด้วยนะครับ)
- เรื่องของห้องที่นำมาใช้ ถ้าเป็นโฮมซีนีม่าจะเป็นห้องที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นห้องดูหนังโดยเฉพาะ และมีการตกแต่งในด้านความสวยงามและอะคูสติกต่างๆ คล้ายกับโรงภาพยนตร์จริงๆ เพื่อสร้างบรรยากาศให้เหมือนกับเราได้ไปอยู่ในโรงภาพยนตร์ ส่วนโฮมเธียเตอร์นั้น จะเป็นการที่เราเอาห้องที่มีอยู่แล้วในบ้านเช่นห้องนั่งเล่นหรือว่าห้องรับแขก มาติดตั้งเครื่องเสียงเข้าไปเพื่อดูหนัง
- ลำโพงที่นำมาใช้ในโฮมซีนีม่าจะเป็นลำโพงที่ออกแบบมาเพื่อดูหนังโดยเฉพาะซึ่งจะให้เสียงที่ใกล้เคียงกับโรงภาพยนตร์มากกว่าการที่เอาลำโพงฟังเพลงมาใช้ดูหนังในรูปแบบโฮมเธียเตอร์
- Pre Processor ที่นำมาใช้ในโฮมซีนีม่าจะเป็นแบบที่สามารถให้จำนวนแชนแนลสัญญาณได้เยอะๆ บางตัวอาจจะให้ได้ถึง 15 ถึง 20 แชนแนล เพราะห้องโฮมซีนีม่าส่วนใหญ่จะมีขนาดใหญ่ จึงจำเป็นต้องมีจำนวนแชนแนลลำโพงมากกว่าในระบบโฮมเธียเตอร์ เพื่อครอบคลุมพื้นที่การฟังได้ทั้งหมด
Barco – Balder Cinemascope
กลับมาถึงเรื่องตัวสินค้ากันต่อครับ สินค้าที่ผู้เขียนอยากจะกล่าวถึงเป็นอันดับแรกเลยก็คือตัวโปรเจคเตอร์จาก Barco รุ่น Balder Cinemascope เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่าทาง Barco นั้น เป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีของโปรเจคเตอร์มาอย่างยาวนาน ผลิตภัณฑ์ของ Barco จึงต้องมีคุณภาพที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
จุดเด่นที่น่าสนมากของ Balder Cinemascope นั้นก็คือ เป็นโปรเจคเตอร์ที่มีความละเอียดของภาพ 5120 X 2160 พิกเซล เพื่อที่จะรองรับอัตราส่วนภาพของหนังที่ส่วนมากจะเป็นแบบ 2.40 : 1 การที่มีความละเอียดของภาพสูงถึง 5120 X 2160 พิกเซล ทำให้ Balder Cinemascope สามารถฉายภาพที่มีอัตราส่วนเดียวกับโรงภาพยนตร์ได้อย่างสวยงามและมีความละเอียดครบถ้วนถูกต้อง
เมื่อ Balder Cinemascope รับสัญญาณภาพแบบ 4K (3840 X 2160) เข้ามาแล้ว ตัวเครื่องก็จะทำการอัพเสกลความละเอียดของภาพไปที่ 5120 X 2160 พิกเซล เพื่อให้สามารถฉายลงบนจอแบบอัตราส่วน 2.40 : 1 ได้อย่างพอดี คุณสมบัติตรงนี้ทำให้ Balder Cinemascope ได้เปรียบโปรเจคเตอร์ตัวอื่นๆ เมื่อฉายที่อัตราส่วน 2.40 : 1 และจุดเด่นอีกอย่างของ Balder Cinemascope นั้นก็คือการเป็นเลเซอร์โปรเจคเตอร์
โปรเจคเตอร์ที่มีการใช้แหล่งกำเนิดแสงแบบเลเซอร์นั้น มีข้อดีกว่าโปรเจคเตอร์ทั่วๆ ไปอยู่หลายอย่างเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการให้ความสว่างได้มากกว่าและสว่างทั่วกันทั้งจอ การถ่ายทอดระดับ Black Level ที่ดีกว่า เสียงรบกวนที่ต่ำกว่า และรวมไปถึงอายุการใช้งานที่มากกว่าด้วย
Acurus – ACT4 Pre Processor
สินค้าตัวต่อมาที่อยากจะกล่าวถึงนั่นก็คือ Pre Processor ยี่ห้อ Acurus รุ่น ACT4 แบรนด์ Acurus เป็นแบรนด์จากอเมริกาที่ตัวผู้เขียนค่อนข้างจะชอบเป็นพิเศษ เพราะสินค้าจากแบรนด์นี้ตัวผู้เขียนรู้สึกว่าออกแบบได้ดูเรียบง่ายดี แต่ในหน้าตาที่เรียบง่ายนั้น ก็ดูแฝงไปด้วยคุณภาพที่อยู่ภายใน ขนาด Pre Processor ซึ่งเป็นสินค้าที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ซับซ้อน ทาง Acurus ก็ยังสามารถออกแบบหน้าตาเจ้า ACT4 ได้อย่างเรียบง่ายและหรูหราสวยงาม
ACT4 เป็น Pre Processor Hi-End แบบ 20 CH ที่ทันสมัยและความสามารถสูง รองรับเลย์เอาท์ในระบบเสียง Immersive Sound ได้หลายรูปแบบ และส่งเอาท์พุทซับวูฟเฟอร์ได้เพิ่มขึ้นมากถึง 4 เอาท์พุท ACT4 มีจุดเด่นอยู่ที่น่าสนใจที่สุดคือสามารถ Decode สัญญาณแบบ Native ได้สูงถึง 15.1 แชนแนล ในระบบ Dolby Atmos และ 11.1 แชนแนล ในระบบ DTS : X
การออกแบบของ ACT4 นั้นเป็นการออกแบบตัวเครื่องที่เป็นเครื่องเสียง Hi-End อย่างแท้จริง ไม่ใช่เครื่องเสียงแบบ Computer Audio Based เพราะฉะนั้น ACT4 จะไม่มีพัดลมระบายความร้อนมารบกวนและลดทอนคุณภาพเสียงในการทำงาน และข้อดีอีกอย่างหนึ่งของ ACT4 นั้นก็คือการออกแบบตัวเครื่องที่สามารถรองรับการอัพเกรดได้แบบจริงๆ จึงไม่ต้องกังวลว่าเมื่อจ่ายเงินไปแล้ว ตัวเครื่องจะตกรุ่นอย่างรวดเร็ว
Procella Audio
ส่วนลำโพงที่ผู้เขียนจะกล่าวถึงในคราวนี้ก็คือลำโพงจาก Procella Audio ซึ่งเป็นรุ่น P815 ที่จะถูกใช้ในแชนแนลหน้าและเซ็นเตอร์ ส่วนอีกรุ่นหนึ่งก็คือรุ่น P18 ที่เป็นลำโพงซับวูฟเฟอร์ ซึ่งลำโพงทั้ง 2 รุ่นนี้เป็นลำโพงที่ได้ผ่านการรับรองจาก THX มาด้วย และแถมยังเป็น THX แบบ PM3 ซึ่งเป็นการรับรอง THX ที่ใช้กันในระดับสตูดิโอที่มีค่ามาตรฐานที่สูงมาก P815 นั้นเป็นลำโพงที่ถ่ายทอดการออกแบบมาจากลำโพงที่เคยใช้อยู่ในโรงภาพยนตร์ทดสอบเสียงของ DTS มีลักษณะเป็นลำโพงตั้งพื้นขนาดใหญ่ที่ออกแบบมาเป็นลำโพง 2 ตู้วางซ้อนกัน โดยตัวตู้ด้านบนเป็นที่ติดตั้งทวีตเตอร์ขนาด 1.5 นิ้ว แบบโพลีเอสเตอร์ และมิดเรนจ์ขนาด 8 นิ้ว ส่วนตัวตู้ด้านล่างนั้นติดตั้งวูฟเฟอร์ขนาด 15 นิ้ว และตัวตู้ทั้ง 2 นั้นออกแบบมาเป็นแบบตู้ปิด P815 เป็นลำโพงที่ออกแบบมาให้เล่นในระบบไบแอมป์เพียงเท่านั้น โดยมีเพาเวอร์แอมป์รุ่น DA-06DSP ที่แนะนำให้ใช้คู่กันมาด้วย
ซับวูฟเฟอร์รุ่น P18 เป็นซับวูฟเฟอร์ที่ออกแบบมาเพื่อการชมภาพยนตร์ในระดับ Reference ที่สามารถตอบสนองความถี่ได้ลงลึกถึง 18Hz P18 เป็นพาสซีพซับวูฟเฟอร์แบบตู้ปิด ที่ใช้วูฟเฟอร์ขนาด 18 นิ้ว 2 ตัว และเป็นวูฟเฟอร์ที่มีขนาดวอยซ์คอยส์ 4 นิ้ว ในการต่อใช้งานนั้นต้องการเพาเวอร์แอมป์ 2 แชนแนลมาเพื่อแยกขับวูฟเฟอร์แต่ละตัว เพราะฉะนั้นเพาเวอร์แอมป์รุ่น DA-06DSP จึงถูกแนะนำให้ใช้ด้วยกันเพื่อที่จะได้กำลังขับต่อเนื่องที่ 1200 W
เสปคที่น่าสนใจ
Barco Balder Cinemascope
- ความละเอียด 5120 X 2160 px
- ประเภทชิพแสดงผล Single chip 4K XPR DMD 0.9 inch DLP chipset
- ค่าความสว่าง 4000 lumens
- คอนทราสต์ 450 : 1 ANSI Contrast
- แหล่งกำเนิดแสงแบบเลเซอร์
- อายุการใช้งานของเลเซอร์ 20,000 ชั่วโมง
- รองรับ HDMI 2.0a HDCP 2.2
- รองรับระบบ 3D
Acurus ACT4
- ถอดรหัสสัญญาณแบบ Native Dolby Atmos 15.1 ch / DTS X 11.1 ch
- 20 ch Processsor
- SNR > 110 dB (A-wt)
- THD > 0.02% (20-20kHZ)
- รองรับ HDMI 2.0b HDCP 2.1 I/O
- รองรับ App Control
- ขั้วต่อแบบ Balance 20 ch (16 XLR + 4 AUX DB9)
- ผลิตในอเมริกา และรับประกัน 5 ปี
Procella Audio P815
- ความดังสูงสุด 122dB แบบต่อเนื่อง / 126 dB พีค
- ทวีตเตอร์ 1.5 นิ้ว แบบโพลีเอสเตอร์ มิดเรนจ์ขนาด 8 นิ้ว วูฟเฟอร์ขนาด 15 นิ้ว
- ตอบสนองความถี่ 40Hz – 20 kHz
- จุดตัดครอสโอเวอร์ 1.6 kHz และ 150 Hz
- ขนาด 103 X 48 X 23 ซ.ม.
- น้ำหนัก 39.2 กิโลกรัม
Procella Audio P18
- ความดังสูงสุด 133dB ที่ 50Hz แบบต่อเนื่อง / 139 dB พีค
- ตอบสนองความถี่ 18Hz –3 dB
- วูฟเฟอร์ขนาด 18 นิ้ว 2 ตัว แบบช่วงชักยาว วอยซ์คอยส์ 4 นิ้ว
- ขนาด 65 X 105 X 36 ซ.ม.
- น้ำหนัก 60 กิโลกรัม
ผลการรับชม
ก่อนอื่นก็อยากจะขอกล่าวถึงห้องฟังของที่นี่กันก่อน ห้องโฮมซีนีม่าของที่ GAV ค่อนข้างจะถูกใจตัวผู้เขียนมากเลยครับ เพราะเป็นสไตล์ลอฟท์แบบที่ผู้เขียนชอบ ผู้เขียนกำลังฝันเอาไว้ว่าอยากมีห้องโฮมซีนีม่าสไตล์นี้อยู่พอดี พอมาเห็นห้องของที่นี่ก็เหมือนได้เห็นสิ่งที่เรานึกเอาไว้เลยครับ ห้องนี้มีขนาดค่อนข้างใหญ่ (กว้าง 6.5 ม. ยาว 8.5 ม. สูง 3.6 ม.) ทำให้เข้ามาแล้วรู้สึกโปร่ง โล่ง สบายดีครับ การตกแต่งก็ตกแต่งดัวยผนังปูนเปลือยมีไม้เข้ามาแซมบ้างและโชว์ท่อเดินสายต่างๆ ส่วนการตกแต่งทางด้านอะคูสติกก็มีอยู่พอสมควรไม่ถึงกับเยอะมาก แต่ขจัดปัญหาทางด้านอะคูสติกได้ดี การทำห้องสไตล์นี้ผมคิดว่า มันทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายดีครับ ไม่รู้สึกอึดอัดเหมือนกับห้องดูหนังที่ใช้แต่โทนสีมืดๆ และมองไปทางไหนก็เจอแต่วัสดุซับเสียง ถ้าท่านไหนที่กำลังคิดจะทำห้องอยู่ ลองเอาห้องสไตล์นี้ไปพิจารณาดูครับ
สิ่งที่ส่งผลทำให้การดูหนังของเราเกิดอรรถรสและอารมณ์ร่วมได้เป็นอย่างมาก สิ่งนั้นก็คือภาพที่ปรากฏตรงหน้าเรานั่นเอง ยิ่งภาพมีความสวยงามและขนาดใหญ่เท่าไร มันก็จะสามารถยิ่งดึงอารมณ์ของเราให้คล้อยตามไปกับหนังได้มากยิ่งขึ้น ภาพของหนังที่ได้ฉายออกมาในห้องนี้ มันพิสูจน์สิ่งที่ผู้เขียนได้กล่าวไว้เมื่อกี้ได้อย่างถูกต้องจริงๆ ครับ ภาพที่ถ่ายทอดออกมาจากโปรเจคเตอร์ Balder Cinemascope มีความสวยงามและคมชัดมากๆ และยิ่งได้ฉายลงบนจอขนาด 180 นิ้ว แบบอัตรา 2.35 : 1 (สัดส่วนเดียวกับโรงหนัง) ยิ่งทำให้ภาพที่ออกมา มีความใกล้เคียงโรงหนังเป็นอย่างมาก ตัวผู้เขียนต้องยอมรับเลยว่าภาพจากห้องนี้ให้ความรู้สึกได้ใกล้เคียงโรงหนังมากที่สุดเท่าที่ผู้เขียนเคยได้รับชมมาเลยทีเดียว
ในตอนแรกนั้นทาง GAV ได้เปิดหนังเรื่อง LUCY ให้เราได้รับชมกัน เพื่อที่จะได้แสดงศักยภาพของตัวโปรเจคเตอร์ Balder Cinemascope ออกมาให้เราเห็น หนังเรื่อง LUCY นี้ ถึงแม้ว่าจะได้ออกมานานแล้ว แต่ตัวหนังเองนั้นโดยเพราะเรื่องภาพ ต่างก็เป็นที่ยอมรับจากบรรดานักเล่น ว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ให้ภาพออกมาสวยงามจัดอยู่ในระดับยอดเยี่ยม และแผ่นที่ใช้เปิดในตอนนี้ก็ยังเป็นแผ่นเวอร์ชันแบบ 4K อีกด้วย เมื่อแผ่นนี้ได้มาเปิดฉายกับโปรเจคเตอร์ Balder Cinemascope ที่สามารถฉายภาพในอัตราส่วน 2.35 :1 ได้แบบเต็มความละเอียด 5120 X 2160 พิกเซล ภาพที่ออกมาจึงน่าประทับใจเป็นอย่างมาก ความละเอียด 5120 X 2160 พิกเซล ของ Balder Cinemascope เมื่อได้ฉายภาพลงมาบนจอแล้ว ภาพที่ได้ออกมานั้นมีความคมชัดและรู้สึกเนียนตาเป็นอย่างมาก ให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าเราชมภาพจากฟิล์มอยู่เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นภาพจากฉากต่างๆ ภายในเมือง หรือภาพโคลสอัพของหน้าตัวละคร ต่างก็ให้รายละเอียดได้อย่างชัดเจนและสมจริง ส่วนทางด้านสมดุลสีนั้น Balder Cinemascope ก็ให้สมดุลของสีได้อย่างถูกต้องทีเดียว สีผิวของตัวละครหรือสีของต้นไม้ ท้องฟ้า ต่างๆ ได้ถ่ายทอดออกมาอย่างเป็นธรรมชาติมากๆ
ส่วนในการที่ Balder Cinemascope มีจุดกำเนิดแสงที่เป็นเลเซอร์นั้น มันทำให้เราสังเกตเห็นถึงข้อดีของเลเซอร์โปรเจคเตอร์ได้ไม่อยากเลย ผู้เขียนรู้สึกว่าความสว่างที่ได้จาก Balder Cinemascope นั้นมีความสว่างที่เท่ากันทั่วทั้งจอดีมาก ไม่เหมือนกับโปรเจคเตอร์ทั่วไปที่บางทีอาจจะรู้สึกว่าตรงกลางจอนั้นสว่างกว่าจุดอื่น ส่วนการควบคุมแสงสีต่างๆ นั้น ก็ทำได้เป็นธรรมชาติดี ต่างจากพวก TV LED หรือโปรเจคเตอร์บางตัวที่ให้ภาพที่ออกมามีความสดใสหรือแสงสีที่มากจนเกินไป Balder Cinemascope นั้นจะให้ภาพที่ดูเป็นธรรมชาติ อบอุ่น และสบายตา ส่วนเรื่องคอนทราสต์และการไล่ระดับความสว่างนั้นก็เป็นอีกจุดหนึ่งข้อได้เปรียบของเลเซอร์โปรเจคเตอร์ Balder Cinemascope ให้ความดำของภาพที่ดีมากๆ ภาพตรงไหนที่เป็นสีดำก็ให้สีดำได้ดำสนิทดีจริงๆ ส่วนฉากไหนที่มีทั้งความมืดและความสว่างก็สามารถไล่ระดับความสว่างได้ดี ทำให้ภาพที่ออกมาดูมีมิติและมีความตื้นลึก
คุณภาพของเสียง
ส่วนในเรื่องด้านเสียงนั้น ชุดโฮมซีนีม่าจากบริษัท GAV ก็ทำได้น่าประทับใจเช่นเดียวกัน เสียงที่ออกมาจากลำโพง Procella Audio P815 ที่อยู่ในด้านหน้าทั้ง 3 ตัวนั้น (L C R) เสียงโดยรวมมีเสกลเสียงที่ใหญ่ดีมาก มีน้ำหนักและชัดเจนในทุกย่านความถี่ ฟังแล้วให้ความรู้สึกเหมือนเสียงในโรงหนัง เสียงที่ออกมาฟังแล้วจะรู้ได้เลยว่าเป็นเสียงที่ไม่เหมือนกับการนำลำโพงฟังเพลงมาดูหนังเลย ลำโพงที่ออกแบบมาเพื่อดูหนังมันให้บุคลิกหรือคาแรคเตอร์ของเสียงที่ใกล้เคียงกับโรงหนังมากกว่าลำโพงฟังเพลงจริงๆ คือเป็นเสียงที่ฟังแล้วมีน้ำหนัก รวดเร็ว และคมชัดกว่า การตอบสนองต่อไดนามิคและความถี่ต่างๆ ก็ทำได้ดีกว่า ซึ่งแนวเสียงแบบนี้มันทำให้การดูหนังสนุกขึ้น
ส่วนบางท่านอาจจะมีข้อสงสัยว่าลำโพงโฮมซีนีม่าเสียงมันจะจัดไปรึเปล่า หรือว่าเคยไปฟังลำโพงโฮมซีนีม่าที่เสียงจัดมาก่อน ผู้เขียนขอบอกได้เลยว่าชุดโฮมซีนีม่าชุดนี้ไม่มีอาการอย่างนั้นสักนิดเลย เสียงที่ได้ออกมาไม่มีอาการเสียงจัดเลย เสียงต่างๆ นั้นฟังสบาย และฟังได้นานไม่อึดอัด จุดเด่นอีกอย่างของลำโพงโฮมซีนีม่าก็คือ การที่มันสามารถรองรับความดังที่ระดับสูงๆ ได้ดีกว่าลำโพงทั่วไป ทำให้เวลาที่หนังมีเสียงเอฟเฟครุนแรงดังต่อเนื่องเป็นเวลานาน ลำโพงโฮมซีนีม่าก็ยังสามารถถ่ายทอดเสียงต่างๆ ได้อย่างนิ่งสนิท ไร้ซึ่งความผิดเพี้ยน เหมือนกับตอนที่เราดูหนังในโรงหนัง เวลาที่มีเสียงดังมากๆ เราจะไม่ค่อยรู้สึกรำคาญหูเท่าไร ต่างจากการที่เราเอาลำโพงฟังเพลงมาดูหนัง ซึ่งเวลาที่มีเสียงดังมากๆ เราจะมีโอกาสรู้สึกรำคาญหูหรือเกิดอาการเสียงจัดได้มากกว่า
สิ่งที่ประทับใจผู้เขียนมากสำหรับลำโพง P815 นั้นก็คือการที่ลำโพง P815 ให้เสียงสนทนาออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม เสียงสนทนาจากลำโพง P815 มีความใหญ่และเนื้อเสียงที่หนาดีมาก ทำให้เสียงจากนักแสดงฟังดูสมจริงและได้อารมณ์มากๆ แล้วที่สำคัญการติดตั้งลำโพงเซ็นเตอร์ในห้องนี้ยังเป็นการติดตั้งแบบอยู่ด้านหลังจอแบบเดียวกับโรงหนัง ทำให้เสียงสนทนานั้นเหมือนกับว่าออกมาจากปากของนักแสดงจริงๆ นี่ก็เป็นข้อดีอีกอย่างของการเล่นแบบโฮมซีนีม่า เพราะการเล่นแบบโฮมเธียเตอร์ทั่วๆ ไป เราก็คงจะวางลำโพงเซ็นเตอร์ไว้ได้แค่ที่ใต้จอ หรือใต้ TV ต่อให้เซทเสียงได้ดีแค่ไหน ก็ให้ตำแหน่งเสียงที่อยู่หลังจอไม่ได้
นอกจากความยอดเยี่ยมในการถ่ายทอดเสียงเอฟเฟคจากหนังแล้ว ในเรื่องของเพลงประกอบหนัง ลำโพง P815 ก็สามารถทำได้ดีไม่แพ้กัน เสียงดนตรีประกอบจะฟังแยกออกจากซาวด์เอฟเฟคได้ชัดเจน และด้วยความที่เป็นลำโพงที่ให้เสียงได้กว้างใหญ่ เพลงประกอบหนังต่างๆ ที่ส่วนมากจะเป็นเพลงจากวงออเคสตร้า จึงฟังดูมีมิติและรูปวงที่ใหญ่โตสมจริง มีความโอ่อ่า ส่วนหนังเรื่องไหนที่เป็นเพลงร็อคหรือเพลงสมัยใหม่ก็ให้ความรู้สึกสะใจและมันในอารมณ์ ถ้าผู้เขียนได้มีโอกาสกลับไปเยือนที่ GAV อีกครั้ง ก็คงจะไม่ลืมที่จะติดแผ่นหนังเรื่อง Bohimian Rhapsody ไปด้วย เพราะถ้าได้เปิดฉากแสดงคอนเสิร์ตจากหนังเรื่องนี้แล้ว ชุดโฮมซีนีม่าชุดนี้คงจะให้เสียงที่ยิ่งใหญ่อลังการ เหมือนได้ไปอยู่ในคอนเสิร์ตจริงๆ
มาพูดถึงเรื่องความถี่ต่ำที่มาจากซับวูฟเฟอร์ Procella Audio P18 กันบ้าง ในห้องนี้ได้มีการติดตั้งซับวูฟเฟอร์ P18 เข้าไปถึง 4 ตัวด้วยกัน ซึ่งแต่ละตัวก็มีวูฟเฟอร์ขนาด 18 นิ้ว 2 ตัว ทำให้มีวูฟเฟอร์ขนาด 18 นิ้วอยู่ในห้องนี้ถึง 8 ตัวด้วยกัน และแต่ละตัวยังได้กำลังขับต่อเนื่องที่ 1200 W อีกด้วย เสียงเบสที่ได้จากห้องนี้มีความหนักแน่น กระแทกกระทั้นและต่ำลึก ระดับสุดยอดทีเดียว ผู้เขียนต้องยอมรับว่าไม่เคยได้ฟังเสียงเบสที่ดีขนาดนี้จากห้องไหนมาก่อนเลย เสียงเบสที่ออกมานั้นมีมวลหนา และจับตัวกันเป็นลูกๆ เวลาที่ในหนังมีฉากแอ็คชั่นที่รุนแรงและต่อเนื่อง เราจะรู้สึกถึงคลื่นความถี่ต่ำที่ถูกส่งมาถึงตัวเราได้อย่างเป็นจังหวะๆ ตามภาพในหนังเลย
การที่มีวูฟเฟอร์ขนาด 18 นิ้วอยู่ในห้องนี้ถึง 8 ตัว ผู้อ่านบางท่านอาจจะสงสัยว่า ปริมาณของเสียงเบสในห้องนี้มันจะมากเกินไปจนทำให้เกิดอาการเสียงเบสบวมหรือครางได้รึเปล่า ในตอนแรกผู้เขียนก็สงสัยอย่างนี้เหมือนกัน แต่จากการที่ได้คุยกับทาง GAV ก่อนการทดสอบ ทาง GAV ได้พูดให้ฟังถึงบุคลิกของซับวูฟเฟอร์ยี่ห้อ Procella Audio ว่าเป็นซับวูฟเฟอร์ที่มีเสียงรวดเร็ว กระชับ และมีการเก็บตัวที่ดี ในตอนแรกผู้เขียนก็ขอบอกตามตรงว่า ยังไม่ปักใจเชื่อเท่าไร เพราะผู้เขียนยังไม่เคยฟังห้องไหนที่มีวูฟเฟอร์ขนาดใหญ่และมีจำนวนเยอะเท่านี้มาก่อน แต่เมื่อได้ดูหนังไปแค่ไม่กี่ฉาก ผู้เขียนก็ต้องขอยอมรับเลยว่าซับวูฟเฟอร์ยี่ห้อ Procella Audio มีบุคลิกตามที่ GAV ได้กล่าวมาจริงๆ ไม่ว่าเสียงเบสจะออกมารุนแรงแค่ไหน แต่เสียงก็ยังคงความรวดเร็ว กระชับ ฉับไว ไว้ได้ตลอด และที่สำคัญอาการทิ้งตัวให้เสียงเบสค้างอยู่ในห้องจนน่ารำคาญก็ไม่เคยมีให้ได้ยินเลย
ท่านไหนที่ชอบเสียงเบสแบบในโรงหนัง คือเปิดได้ดัง มีความกระหึ่ม กระแทกกระทั้นถึงอกถึงใจ ท่านลองมาฟังซับวูฟเฟอร์ของ Procella Audio ดูครับ ผู้เขียนคิดว่ามันให้เสียงได้ใกล้เคียงเลยทีเดียว
ในการดูหนังนั้นนอกจากน้ำเสียงที่หนักแน่นและชัดเจนแล้ว มิติ ความโอบล้อม และการเคลื่อนไหวของเสียงก็มีผลอย่างมากที่จะทำให้การดูหนังสนุกขึ้น ในส่วนนี้ก็เป็นหน้าที่หลักของ Pre Processor ที่จะมาควบคุมให้เสียงต่างๆ ออกมาเป็นอย่างไร Pre Processor Acurus ACT4 นั้นสามารถทำหน้าที่ตรงนี้ได้อย่างยอดเยี่ยมทีเดียว เสียงที่มีการวิ่งจากลำโพงหนึ่งไปสู่อีกลำโพงหนึ่ง เสียงที่วิ่งนั้นมีความต่อเนื่องดีมาก ไม่รู้สึกว่ามีช่องว่างเกิดขึ้นเลย ลำโพงต่างๆ ที่มีอยู่หลายตัวในห้องก็ทำงานร่วมกันได้อย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน วงจรการประมวลผลของ Acurus ACT4 น่าจะมีความรวดเร็วและแม่นยำมากๆ ถึงสามารถสร้างสนามเสียงที่ดีแบบนี้ได้
นอกจากการโอบล้อมที่ดีแล้ว การแยกแยะแชนแนลต่างๆ ก็ทำได้ดีเช่นกัน เสียงที่มาจากหน้า หลัง ซ้าย ขวา หรือแม้กระทั้งด้านบน เสียงเหล่านั้นมันแยกกันเด็ดขาดมาก และสามารถระบุตำแหน่งได้อย่างชัดเจน รายละเอียดของเสียงก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ขึ้นอยู่กับ Pre Processor เพราะถ้า Pre Processor ไม่สามารถถอดรหัสสัญญาณที่ดีได้ รายละเอียดของเสียงต่างก็จะไม่สามารถถ่ายทอดออกมาจากชุดนั้นได้เลย Acurus ACT4 จัดว่าเป็น Pre Processor ที่ให้รายละเอียดของเสียงได้ยอดเยี่ยมตัวหนึ่งเลยทีเดียว เสียงที่ถ่ายทอดออกมานั้น มีการเปิดเผยรายละเอียดออกมาได้แบบหมดจด แม้กระทั่งเสียงเล็กๆ เบาๆ อย่างเช่น เสียงปลอกกระสุนตกลงพื้น Acurus ACT4 ก็ทำให้เราได้ยินอย่างชัดเจน
ในเรื่องของการฟังเพลง ต้องยอมรับว่าการฟังเพลงอาจจะไม่ใช่งานถนัดของลำโพงโฮมซีนีม่าโดยตรง แต่ว่ามันก็ไม่ได้ถึงขั้นแย่อะไร จริงอยู่ว่ามันอาจจะไม่ได้ให้เสียงที่นุ่มนวล ละเมียดละไม เหมือนลำโพงฟังเพลง แต่ว่ามันก็ยังมีข้อดีของลำโพงโฮมซีนีม่าอยู่ นั้นก็คือความกว้างและใหญ่ของมิติเสียง
ในการชมคอนเสิร์ต Hit Man David Foster & Friend ลำโพง Procella Audio P815 แสดงรูปวงของของเวทีคอนเสิร์ตได้ออกมากว้างสมจริงเลยทีเดียว และขนาดของชิ้นดนตรีต่างๆ ก็มีขนาดที่ใหญ่ ส่วนเสียงร้องนั้นก็ทำได้ดีเป็นพิเศษเหมือนกับเสียงสนทนาเวลาดูหนัง คือมีความชัดเจนและมีเนื้อเสียงที่หนา ถ่ายทอดอารมณ์ของนักร้องได้ดี ส่วนข้อได้เปรียบของลำโพงโฮมซีนีม่าเมื่อเทียบลำโพงฟังเพลงนั้นก็มีอยู่เหมือนกัน ซึ่งผู้เขียนคิดว่านั่นก็คือความหนักแน่นและชัดเจนของเสียง
ข้อได้เปรียบตรงนี้ มันทำให้การฟังเพลงที่ต้องการความหนักแน่นและเน้นจังหวะจะโคน อย่างเช่น เพลงร็อคหรือว่าเพลงสมัยใหม่ ลำโพงโฮมซีนีม่าก็จะได้ดีขึ้นมาทันที
สรุป
ในการดูหนังจากชุดโฮมซีนีม่าที่บริษัท GAV นั้น ต้องยอมรับเลยว่ามันให้ประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่เหนือกว่าชุดดูหนังทั่วไปจริงๆ ทั้งในด้านภาพและด้านเสียง สินค้าที่มีคุณภาพสูงมันถูกออกแบบมาได้อย่างมีเหตุและผลในตัวของมันเอง จริงอยู่ว่าการสร้างห้องโฮมซีนีม่าขึ้นมาสักห้องนึง ก็คงจะใช้งบประมาณอยู่ไม่น้อย แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบดูหนังจริงๆ มันก็คงจะคุ้มค่าต่อการลงทุน เพราะว่ามันอาจจะไม่ใช่แค่ห้องที่เอาไว้ดูหนัง มันจะเป็นห้องที่ทำให้ครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกันอย่างมีความสุข ถ้าท่านที่สนใจหรือว่าอยากได้คำปรึกษาเกี่ยวกับระบบโฮมซีนีม่า ก็ติดต่อทางบริษัท GAV ได้เลยครับ ทางบริษัท GAV มีคำปรึกษาและความรู้ดีๆ ให้ท่านแน่นอนครับ
