รีวิว Marantz MODEL 40n Network Intrgrated Amplifier

0

Dawn Nathong

หวนสู่น้ำเสียงคลาสสิคพร้อม HEOS สตรีมมิ่งอัจฉริยะ

มาร้านท์ได้เปิดตัว MODEL 40n อินทิเกรตแอมป์รุ่นใหม่ล่าสุดที่ติดตั้ง HEOS แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอัจฉริยะมาให้ในตัว ซึ่งดีไซน์โฉมใหม่ที่ดูโมเดิร์นเรียบหรู ตามรอยรุ่นพี่อย่างอินทิเกรตแอมป์ MODEL 30 ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกไปแล้วช่วงต้นปีก่อน แต่ครั้งนี้ MODEL 40n มีการปรับมาใช้ภาคขยาย Class A/B แทน Class D พร้อมเสริมด้วย HEOS เมื่อเข้าไปดูในเวปไซต์ของทางมาร้านท์ MODEL 30 ยังคงวางจำหน่ายอยู่เช่นเดิมและมีระดับราคาสูงกว่า MODEL 40n ราว 500 เหรียญสหรัฐ ถือว่าทั้ง MODEL 30 และ MODEL 40n เป็นอินทิเกรตแอมป์ระดับบนที่เข้ามาเติมเต็มช่องว่างระหว่าง PM-KI Ruby และ PM8006

ดีไซน์ภายนอกของ MODEL 40n ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจาก MODEL 30 มาในมิติที่เท่า ๆ กัน ตัวเครื่องมีทั้งสี Black และ Silver Gold โครงสร้างตัวถังมีความบึกบึนแข็งแรงมากผลิตจากอลูมิเนียมทั้งแผงหน้าและปุ่มต่าง ๆ  โดยเฉพาะแท่นเครื่องนั้นเป็นแบบสองชั้นเพิ่มความนิ่งเข้าไปอีก ส่วนวัสดุที่ใช้ทำโครงสร้างภายในเป็น SECC หรือแผ่นเหล็กชุบกัลวาไนซ์ด้วยไฟฟ้า

บริเวณแผงหน้าฝั่งซ้ายและขวามีไฟ LED ที่เวลาเปิดแล้วจะสะท้อนกับเส้นสายของแผงหน้า (สามารหรี่หรือปิดได้) และมีจอแสดงผลวงกลมอยู่ตรงกลาง พร้อมปุ่มควบคุม Input, Source Direct, Tone Control, Balance, และโวลุ่มเรียงอยู่ด้านล่าง ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือขั้วต่อสายลำโพงเกรดพรีเมียมมีขนาดใหญ่แข็งแรงเรียกว่า Marantz SPKT-1 รองรับสายลำโพงเบอร์ใหญ่ เน้นการส่งผ่านสัญญาณที่มีประสิทธิภาพและที่สำคัญคือสามารถรองรับการเชื่อมต่อด้วยหัวบานาน่า, หางปลา หรือแบบสายเปลือยได้อย่างแน่นหนาปลอดภัย

มร. Joel Sietsema ประธานของมาร้านท์คนปัจจุบันได้กล่าวว่า “เราตั้งใจสร้าง MODEL 40n ให้มีความสมดุลของน้ำเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของมาร้านท์ ดีไซน์ที่มีเสน่ห์ การอัพเกรดที่ทันสมัย และพละกำลัง เหมาะใครที่ต้องการประสิทธิภาพอันโดดเด่น ควบคู่ไปกับความเรียบง่ายและสะดวกในการใช้งาน”  

การติดตั้ง HEOS แพลตฟอร์มลงไปทำให้ MODEL 40n ใช้งานด้านตรีมมิ่งมิวสิคได้อย่างครบครัน อาทิ Spotify Connect, Tidal, Deezer, Soundcloud, Internet Radio และอีกมากมาย รวมถึงเล่นเพลงจาก Music server และการใช้งานในลักษณะของ  Multi-Room ส่วนการเชื่อมต่อแบบไร้สายรองรับ Apple AirPlay2, Bluetooth และ WiFi และอีกฟีเจอร์สำคัญที่แอมป์ยุคนี้ควรมีก็คือช่องเชื่อมต่อ HDMI (ARC) หากทีวีรองรับก็สามารถดึงสัญญาณเสียง (เฉพาะ PCM) มาออกที่ MODEL 40n ได้ทันทีผ่านสาย HDMI นอกจากนี้สำหรับคอไวนิลก็ยังใส่ภาคโฟโนสเตจสำหรับหัวเข็ม MM มาด้วย

รายละเอียดที่น่าสนใจ

MODEL 40n มาพร้อมภาคขยาย Class A/B กำลังขับ 2×70 วัตต์ที่ 8 โอห์มและ 2×100 วัตต์ที่ 4 โอห์ม กำลังขับอาจจะดูกลาง ๆ แต่บอกเลยว่าอย่าปรามาสพละกำลังอัดฉีดของแอมป์ตัวนี้ เพราะอุปกรณ์ที่ใช้ภายในนั้นต้องบอกว่าเกินสเปกตัวเลขกำลังขับไปไกล จ่ายกระแสได้เหลือเฟือที่จะรองรับการขับโหลดลำโพงที่ซับซ้อน

ทางมาร้านท์กล่าวว่า พื้นฐานวงจรภาคขยายของรุ่นนี้นำมาจากรุ่น PM8006 แต่อัพเกรดอุปกรณ์และภาคจ่ายไฟขึ้นไปเท่าตัว ฝั่งซ้ายเป็นส่วนของวงจรภาคจ่ายไฟ ใช้หม้อแปลงเทอรอยด์หุ้มชิลด์ 2 ชั้น ขนาดใหญ่พอ ๆ กับในเพาเวอร์แอมป์ตัวเขื่อง ตรงกลางเครื่องเป็นฮีตซิ้งค์อะลูมิเนียมหนาหนัก ติดตั้งเอาต์พุตทรานซิสเตอร์จำนวนสี่ตัวต่อแชนแนล (สองเท่าของ PM8006) พร้อมรางจ่ายไฟทองแดงขนาดใหญ่ ออกแบบทางเดินกระแสไฟสั้นและมีค่าความต้านทานต่ำ รวมถึงใช้ HDAM-SA3 (Hyper-Dynamic Amplifier Module) ในภาคเอาต์พุตแทนการใช้ opamp เพื่อไม่ให้อั้นกระแส

Marantz MODEL 40n Phono Board
Marantz MODEL 40n Digital Board

ฝั่งขวาของเครื่องเป็นส่วนของภาคดิจิทัล แอบเสียดายนิด ๆ ว่าไม่มีฟังก์ชั่น USB DAC มาให้ และไม่ใช้ภาค DAC ระดับเทพของมาร้านอย่าง MMM-Stream converter ไม่อย่างนั้นรุ่นใหญ่กว่าอาจมองค้อนพร้อมราคาที่คงขยับอีกไปไกล แต่ชิปแด็คสำเร็จรูปที่เลือกใช้คือ ESS ES9016K2M ก็ถือว่ามีคุณภาพดี สามารถเลือกปรับดิจิทัลฟิลเตอร์ได้ 2 รูปแบบ (Filter 1: short impulse response / Filter 2: asymmetrical impulse response) รองรับไฟล์ความละเอียดสูงสุด PCM 24-bit/192kHz และ DSD 5.6MHz มีการหุ้มเฮาส์ซิ่งอย่างดีเพื่อชิลด์ป้องกันการกวน รวมถึงแยกส่วนจ่ายไฟต่าง ๆ เพื่อให้ได้ไฟสะอาดที่สุด

คุณสมบัติเด่น

  • จูนเสียงโดย Marantz Sound Master
  • มีเทคโนโลยี HEOS built-in รองรับ Multi-Room
  • กำลังขับ 2×70 วัตต์ที่ 8 โอห์ม / 2×100 วัตต์ที่ 4 โอห์ม
  • ภาคขยาย Class A/B และภาคจ่ายไฟขนาดใหญ่ หม้อแปลงเทอรอยด์
  • วงจรเอกสิทธิ์ HDAM-SA3
  • ชิปแด็ค ESS ES9016K2M
  • Source Direct Mode ตัดภาคโทนคอนโทรล
  • ช่อง HDMI ARC (เวอร์ชั่น 1.4)
  • ช่อง USB-A ต่อแฟลชไดร์ฟหรือ Extenal HDD
  • ช่อง Pre-out ต่อซับวูฟเฟอร์พร้อม bass management
  • ช่องเพาเวอร์แอมป์อินพุต (home theater bypass mode)
  • รองรับ Roon Tested (เล่นกับ Roon ผ่าน AirPlay2)
  • รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 2.4GHz/5GHz dual band, Ethernet
  • Bluetooth 4.2
  • ควบคุมด้วยคำสั่งเสียง Google Assistant และ Amazon Alexa

การเซ็ตอัพ

เพื่อรีดประสิทธิภาพสูงสุดจากภาคขยายของอินทิเกรตแอมป์ ผู้เขียนจะทำการเซ็ตอัพในส่วนของเมนูการปรับแต่ง (จากค่า Default มาตรฐาน) โดยสั่งงานจากรีโมทคอนโทรล ดังต่อไปนี้

Audio –> Lock Range เลือก ‘Narrow’

General –> Lighting เลือก ‘Off’

Network –> Network & USB-A เลือก ‘Off’

                Wi-Fi เลือก ‘Off’

                Bluetooth เลือก ‘Off’

ผลจากการปรับแต่งจะช่วยลดการรบกวนเล็ก ๆ ที่อยู่ในระบบโดยรวมลง น้ำเสียงจะโฟกัสขึ้น นิ่งขึ้น ช่วยให้มีการย้ำเน้นและเป็นตัวตนดีขึ้นอีกเล็กน้อย ซึ่งในการใช้งานแบบปกติซึ่งท่านต้องการใช้ฟังก์ชั่น HEOS ให้ปรับ Network & USB-A เลือก ‘On’ หรือจะใช้ฟังก์ชั่นอื่นเช่น Wi-Fi และ Bluetooth ก็เลือกให้เป็น ‘On’ แต่กรณีนี้ผู้เขียน จะใช้งานร่วมกับสตรีมเมอร์ภายนอกแทนเพื่อทดสอบภาคขยายเพียว ๆ ก่อน หลังจากนั้นจึงเปิดใช้งานภาคเน็ตเวิร์คในตัว MODEL 40n อีกครั้งเพื่อฟังและสรุปผลโดยรวมอีกครั้ง

การเซ็ตอัพ HEOS

ในกล่องจะมีเสารับส่งสัญญาณ Bluetooth และ WiFi มาให้ นำมาติดตั้งตรงขั้วต่อแบบเกลียวบริเวณท้ายเครื่องทั้งสองฝั่งให้เรียบร้อยเสียก่อน ในการควบคุม MODEL 40n นอกจากจะใช้รีโมทคอนโทรลแล้วยังสามารถสั่งงานด้วยแอพพลิเคชั่น HEOS ผ่านมือถือหรือแท็บเล็ตได้ การใช้งานครั้งแรกนั้นจำเป็นต้องลงแอพ HEOS บนมือถือหรือแทปเล็ตแล้วทำการเชื่อมต่อ MODEL 40n กับวง LAN ในบ้านให้เรียบร้อย แนะนำว่าให้เชื่อมกับ Ethernet พอร์ตด้วยสาย LAN ไปเลยจะสะดวกและได้คุณภาพเสียงดีกว่าการเชื่อมต่อด้วย Wi-Fi ทำตามขั้นตอนบนแอปพลิเคชั่น HEOS ไปเรื่อย ๆ ไม่กี่นาทีก็เป็นอันเสร็จ สำคัญคือการเชื่อมต่อต้องอยู่ในวง LAN เดียวกันทั้ง Wi-Fi และ Ethernet

เสียง

ต้องบอกว่าน้ำเสียงของ MODEL 40n มีโทนเสียงแบบยุคคลาสสิคของมาร้านท์มาเต็ม ๆ ชวนให้นึกถึงน้ำตอนที่เคยได้ทดสอบอินทิเกรตแอมป์รุ่น PM-KI Ruby หลายส่วน นั่นคือความอบอุ่นของเสียงที่ครอบคลุมตลอดย่านความถี่ ซึ่งความอบอุ่นที่ว่านี้ถูกเติมเข้ามาอย่างพอเหมาะพอเจาะ ไม่ได้มากจนรบกวนความสะอาดชัดใสของตัวเสียง ปลายเสียงยังคงความพลิ้ว สว่างกังวาน ไม่ขุ่นทึบหรือห้วนสั้น ไม่เช่นนั้นอรรถรสของการฟังเพลงคงจะถูกกลบไปด้วยความอบอุ่นที่มากเกินงาม กลายเป็นบุคลิกเดียวกันไปหมดไม่ว่าฟังแนวเพลงประเภท เรียกกว่าผสมผสานทั้งความอบอุ่น ความใส และรายละเอียดได้อย่างลงตัว อันนี้ต้องขอยกเครดิตให้กับการจูนเสียงของคุณ Yoshinori Ogata ผู้รับหน้าที่เป็น Marantz Sound Maste คนปัจจุบัน

การฟังสตรีมมิ่งคอนเท้นต์ผ่าน MODEL 40n จึงมีความน่าฟังมากเป็นพิเศษ เพราะโดยพื้นฐานแล้วเวลาฟัง Lossless สตรีมมิ่งจากคลาวด์เซอร์วิส เช่น TIDAL จะสัมผัสได้ว่าเนื้อเสียงจะติดไปทางบอบบางและอ่อนความต่อเนื่องลื่นไหลไปเล็กน้อย เมื่อเทียบจากการฟังจากแหล่งโปรแกรมประเภทซีดีเพลเยอร์ชั้นดี เมื่อผนวกรวมกับความต่อเนื่องลื่นไหลฟังสบาย ความอิ่มเข้มของมวลเสียง และน้ำหนักเสียงที่ดีของภาคขยาย Class A/B ชั้นดีในตัว อินทิเกรตแอมป์เครื่องนี้ กลายเป็นความลงตัวที่ยากจะปฎิเสธ และหากชอบเสียงที่มีความ analog like เพิ่มขึ้นอีก ยอมแลกกับโฟกัสความชัดคมที่อ่อนลงเล็กน้อย แนะนำให้ทดลองปรับดิจิทัลฟิลเตอร์ไปที่ ‘Filter 2’ การตอบสนองแบบอิมพัลส์ (Impulse response) จะปล่อยหางเสียง post-echo ยาวกว่าหัวเสียง pre-echo ทำให้ได้อรรถรสสีสันความน่าฟังสไตล์แอนะล็อกเพิ่มขึ้นไปอีกสเต็ปกว่าการใช้ ‘Filter 1’ ซึ่งเป็นค่ามาตรฐาน

จากการทดลองขับลำโพงหลากหลายต้องตอกย้ำว่ากำลังขับของอินทิเกรตแอมป์เครื่องนี้ ‘หายห่วง’ ตัวเลขกำลังขับ 70 วัตต์ที่โหลด 8 โอห์มและ 100 วัตต์ที่ 4 โอห์มนั้นให้มาอย่างถ่อมตน และเหนือชั้นกว่าอินทิเกรตแอมป์รุ่นรองที่มีตัวเลขกำลังขับเท่า ๆ กันอย่างชัดเจน ทั้งเรื่องของน้ำหนักเสียง การย้ำเน้น ความมั่นคงในการควบคุมย้านทุ้มที่เด็ดขาดและมั่นคงตั้งแต่ทุ้มต้นลงไปถึงทุ้มต่ำ หนักหน่วง ทุ้มต้นมีแรงปะทะหัวเสียงทีดี ชัดเจนไม่คลุมเครือ ในขณะเดียวกันก็ยังมีความนุ่มนวลแบบเป็นธรรมชาติ รวมถึงไดนามิกของเสียงที่ไต่ระดับสูงต่ำได้อย่างราบรื่น ฉับไว

ย่านเสียงกลางยังคงเป็นทีเด็ดของมาร้านท์ มีความสะอาดใส เนื้อเสียงที่อิ่มแน่น มีความเป็นตัวตนที่กระชับมั่นคง นิ่งไม่วูบวาบ เสียงของนักร้องชายหญิงถ่ายทอดจังหวะจะโคนในการขับร้องที่มีลีลาชวนติดตาม มีรายละเอียดและมีพลังในการขับขานแทบจะสะกดออกมาเป็นคำ ๆ อย่างชัดเจน อาจจะไม่ขึ้นรูปเป็นตัวชัดเท่ากับ PM-KI Ruby แต่ก็ไปในแนวทางเดียวกัน รวมถึงการถ่ายทอดบรรยากาศแอมเบี๊ยนซ์ของการบันทึกที่บางเบาออกมาได้อย่างครบชัด ทำให้เกิดมิติของการฟังที่ยิ่งดึงให้เราจมอยู่ในบทเพลงได้ง่ายขึ้น ย่านปลายแหลมก็มีโฟกัสที่ชัดแน่นเป็นตัว เก็บปลายหางเสียงได้ดีไม่ฟุ้งฝอยเป็นเส้นเล็ก ๆ มีความกังวานและการทอดหางเสียงที่ทอดยาวออกไปและจางหายอย่างพอเหมาะไม่ห้วนสั้นเกินไป ทั้งหมดนี้การออกแบบวงจรโดยรวมต้องถึงจริง ๆ เพราะให้ความรู้สึกคล้ายกำลังฟังเสียงของเพาเวอร์แอบป์คลาสเอที่มีสเถียรภาพในการขับลำโพงสูง

สุดท้ายคือการทดลองนำ MODEL 40n มาใช้งานในรูปแบบเพาเวอร์แอมป์สเตอริโอ ซึ่งเหมาะกับการใช้งานร่วมกับซิสเต้มที่มีลำโพงคู่หน้าคู่เดียวใช้งานทั้งชุดดูหนังฟังเพลงร่วมกัน โดยนำสัญญาณปรีเอาต์จากเอวีรีซีฟเวอร์แชนแนลซ้ายและขวามาเข้าที่ช่องเพาเวอร์แอมป์อินพุตของ MODEL 40n แล้วเลือกอินพุตซีเล็คเตอร์ไปที่ PWR พบว่าช่วยเสริมพละกำลังขับให้ดีขึ้นกว่าการใช้เอวีรีซฟเวอร์ขับคู่หน้ามากพอสมควร ได้คุณลักษณะของน้ำเสียงตามที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นทุกประการ

อัลบั้มบางส่วนที่ใช้ทดสอบ

  • JT – James Taylor
  • 1996 – Ryuichi Sakamoto
  • Trittico – Dallas Wind Symphony
  • A Show of Hands 15 – Victor Wooten
  • Hajimenashou – Mola Mola Sunshine!
  • Girl at Her Volcano – Rickie Lee Jones

สรุป

“Just add speakers!” เป็นนิยามของ Marantz MODEL 40n ตามที่ทางผู้ผลิตระบุมาทุกประการ ด้วยความพร้อมทั้งด้านฟังก์ชั่นการใช้งานรวมถึงพละกำลังขับที่ไม่เกี่ยงลำโพง ทำให้การจัดซิสเต็มเพื่อความบันเทิงภายในบ้านด้วยการฟังเพลงนั้นเป็นเรื่องที่ง่าย สะดวก และได้คุณภาพแบบเนื้อ ๆ แทบไม่มีข้อจำกัดในการเลือกใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ต่าง ๆ อินทิเกรตแอมป์ตัวนี้ถือว่าใช้งานเป็นศูนย์กลางของซิสเต็มได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุดในระดับราคานี้


ขอขอบคุณ M.I. Engineering Co. LTD. โทร. 0-2254-3316-9 ที่เอื้อเฟื้อสินค้าเพื่อการทดสอบ