What’s Special Interview ? Mr.Simon Hung – Marketing Director ของ MS HD POWER

0

What’s Special Interview ? Mr.Simon Hung – Marketing Director ของ MS HD POWER

ผลิตภัณฑ์ “Power Distributor” ภายใต้แบรนด์ MS HD POWER ที่มีจุดเด่นในการใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพสูงสุด ร่วมกับเทคโนโลยีอันแตกต่างจากใครๆ โดยทำทุกอย่างในทุกขั้นตอนภายในโรงงานของตนเองแบบ In-House Manufacturing มิได้มีการจ้างผลิตจากภายนอก ซึ่งหากจะว่าไป โรงงาน ‘Winbo Industries’ นี้แหละกลับได้รับการว่าจ้างให้ทำการผลิตจำหน่ายแบบ OEM ภายใต้เนมแบรนด์อื่นๆมากมายในปัจจุบัน นับตั้งแต่ได้ก่อตั้งบริษัทขึ้นเมื่อปี คศ.1967

MS HD POWER มีผลิตภัณฑ์หลายหลากรายการ นับตั้งแต่ตัวปลั๊กเสียบ ทั้งแบบตัวผู้-ตัวเมีย, เต้าเสียบต่างๆ (Receptacles & Wall Outlets) รวมทั้งอุปกรณ์ประเภทปลั๊กพ่วง-ปลั๊กราง (Power Distributor) กระทั่งสายไฟเข้าเครื่อง (Power Cord) ที่มุ่งเน้นคุณภาพการนำพากระแสไฟฟ้าให้ไหลผ่านได้อย่างราบเรียบที่สุด โดยไม่มีอุปกรณ์หรือชิ้นส่วนใดๆ เข้าไปยุ่งเกี่ยวต่อการ “กลั่นกรอง” กระแสไฟฟ้าให้ผิดเพี้ยนไปจากที่ควรจะเป็น เพื่อให้สมรรถนะการทำงานของภาคจ่ายไฟ (Power Supply) ในชุดเครื่องเสียงสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน… Mr.Simon Hung – Marketing Director ของ MS HD POWER ได้เดินทางมายัง “Karp Audio” (The Nine Neighborhood Center ย่านถนนพระราม 9 ) ของคุณการุณต์ เปรมโอชา เพื่อเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดในกลุ่ม “78k Products” ซึ่งนับเป็นครั้งแรกสุดที่มีการนำอุปกรณ์ Power Distributor หรือ Power Bar ทั้งตัวไปผ่านกระบวนการแช่แข็งยิ่งยวด อย่างที่เรียกว่า Cryogenic อันจักทำให้เกิดสภาพโมเลกุลที่เบียดตัวกันแนบชิดยิ่งขึ้นอย่างมาก ก่อให้เกิดสมรรถนะการใช้งานอันแตกต่างจากธรรมดา และ ณ โอกาสนี้ทาง what hi-fi ? ของเราได้มีโอกาสสัมภาษณ์กับ Mr.Simon Hung อย่างใกล้ชิดด้วยความเป็นกันเองอย่างมาก จึงขอถือโอกาสนำเรื่องราวการพูดคุยครั้งนี้มานำเสนอครับ

DSC_0094

What HI-FI? : รบกวนช่วยเล่าถึงประวัติของ “MS HD” สั้นๆ สักเล็กน้อยครับว่ามีความเป็นมาอย่างไร?

Mr.Simon Hung : สำหรับ “MS HD Power” ส่วนของโรงงานที่ผลิตสินค้าที่เกี่ยวกับ ปลั๊ก, สายไฟ หรือสินค้าอื่นๆ ที่ใช้ในเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งมีตรามาตรฐาน UK, UL ติดอยู่นั้น ก่อตั้งมายาวนานประมาณ 48-49 ปีแล้ว โดยจุดเด่นของสินค้าของเรา คือมี “Certificate Approved” ทุกตัว…ทำให้มั่นใจได้ในเรื่องของคุณภาพ ที่สำคัญเรามีการผลิต ODM/OEM ถึงกว่า 200 แบรนด์ทีเดียว

 

What HI-FI? : MS HD Power ย่อมาจากอะไร และต้องการบ่งบอกถึงสิ่งใด?

Mr.Simon Hung : MS มีที่มาจากชื่อของโรงงานที่ผลิตสินค้าในส่วนของ ปลั๊ก, สายไฟ และ Power bar ให้กับแบรนด์สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ทั่วๆ ไปไม่ว่าจะเป็น LG, Samsung และแบรนด์ชื่อดังอื่นๆ อีกมากมาย ส่วนตัวผมเองเพิ่งจะเข้ามาอยู่ในบริษัทนี้ได้ประมาณ 10 ปี ซึ่งถูกเจาะจงมาให้ดูแลในส่วนของการพัฒนา MS HD Power ที่เป็นสินค้าสำหรับเครื่องเสียงโดยเฉพาะ

 

What HI-FI? : ในทัศนะของคุณ อะไรคือความพิเศษใน MS HD Power ที่ทำให้เป็นความแตกต่างจากบริษัทอื่นในแวดวงเดียวกัน?

Mr.Simon Hung : มีสิ่งหนึ่งที่ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าสินค้าของเรานั้นเหนือกว่าแบรนด์อื่นๆ ในแวดวงเดียวกัน คือ ” Licensed” ที่ทางโรงงานของเราได้รับมา แถมโรงงานของเราที่มีคนงานอยู่ราว 500 คนยังได้รับการันตีมาตรฐานอุตสาหกรรม ISO 9000 อีกด้วย ซึ่งทางเราเชื่อมั่นว่า มีอยู่ไม่น่าจะเกิน 5 แบรนด์ที่ได้รับใบรับรองเช่นนี้ เนื่องจากทางองค์กรต่างๆ นั้นจะส่งตัวแทนมาตรวจสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์อย่างเข้มงวด เพื่อวัดเกณฑ์คุณภาพของสินค้าว่าได้มาตรฐานตามที่วางไว้หรือไม่? ในเรื่องของคุณภาพ และความปลอดภัย แล้วก็แทบจะไม่มีบริษัทไหนกล้ารับประกันสินค้าแบบ Lifetime แบบเราเลยเท่าที่เห็น

 

What HI-FI? : สำหรับผลิตภัณฑ์ Power Bar รุ่นใหม่ที่คุณนำมาเปิดตัวนี้ เป็นการผ่านกระบวนการ Cryogenic ทั้งตัวในขั้นตอนสุดท้าย หรือว่าเป็นการนำชิ้นส่วนที่ผ่านกระบวนการ Cryogenic เรียบร้อยแล้ว จึงนำมาทำการประกอบสำเร็จในขั้นตอนสุดท้ายครับ?

Mr.Simon Hung : สินค้าของเราทุกตัวไม่ว่าจะเป็น Power bar หรือว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ล่าสุดในกลุ่ม Speaker Cable รวมถึงอุปกรณ์อื่นๆ จะมีการประกอบเสร็จเรียบร้อยแล้วจากโรงงานของเรา แล้วจึงจะทำการส่งไปยังกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เพื่อผ่านกระบวนการ Cryogenic ซึ่งต้องใช้เวลาอย่างมากในการทำขั้นตอนนี้ นับจากระยะเวลาที่ส่งไปจนแล้วเสร็จก็กินเวลาไปประมาณ 1 เดือนเต็ม

 

What HI-FI? : โดยรวมแล้วกระบวนการ Cryogenic ใช้เวลานานเท่าไหร่ครับ?

Mr.Simon Hung : ในช่วงของการพัฒนาโปรเจ็คต์นี้ก็กินเวลาราว 1 ปีได้ ส่วนกระบวนการที่ส่งไปทำที่อังกฤษก็กินเวลาประมาณ 1 เดือน พอส่งกลับมาก็ใช้เวลาราว 2-3 เดือนในการตรวจเช็ค แล้วทำการบรรจุภัณฑ์ให้เรียบร้อย

 

What HI-FI? : มีโรงงานเพียงแห่งเดียวรึเปล่าครับที่สามารถทำกระบวนการนี้ได้?

Mr.Simon Hung : ความจริงแล้วมีให้เลือกมากมายหลายโรงงานที่สามารถทำกระบวนการนี้ได้ แต่สาเหตุหลักๆ เจ้านายของผมเลือกจะทำที่โรงงานแห่งนี้ ก็เป็นเพราะว่า เราสามารถควบคุมระยะเวลาในการทำงานได้ เนื่องจากการที่เรากับทางเชาได้ตกลงเป็นหุ้นส่วน (Partner) กัน จึงสามารถต่อรองได้ในระดับหนึ่ง และสุดท้ายคือคุณภาพงานที่ออกมานั้น เรามั่นใจได้ว่าสินค้าที่ออกมาจากโรงงานแห่งนี้มีคุณภาพที่ยอดเยี่ยม และสมบูรณ์ที่สุดสำหรับลูกค้า

 DSC_0063

What HI-FI? : ส่วนใหญ่ผลิตภัณฑ์ของ MS HD Power จะเป็นในกลุ่มที่เกี่ยวเนื่องกับกระแสไฟฟ้า และสายลำโพง ไม่ทราบว่าแผนงานต่อไปของคุณได้มองไปถึงผลิตภัณฑ์ในส่วนของสายนำสัญญาณ หรือ Interconnectors ไว้ด้วยหรือไม่ครับ?

Mr.Simon Hung : มีความเป็นไปได้ว่าทางเราจะมีการทำอุปกรณ์ในส่วนนี้ออกมา ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลก็ต้องขึ้นอยู่กับทางเจ้าของบริษัท ซึ่งเป็นเจ้านายของผมว่าจะดำเนินธุรกิจต่อไปในทิศทางใด โดยที่บอกว่ามีความเป็นไปได้ก็เพราะว่า ทางบริษัทเองเริ่มมีการมองหาผู้ร่วมทุนที่จะมาดำเนินการในส่วนของสินค้าในไลน์ของ Interconnector เช่นกัน แต่ก็ต้องใช้เวลาสักช่วงหนึ่ง ด้วยสาเหตุที่การแข่งขัน และการลงทุนในสินค้าส่วนนี้จะสูงกว่า “Speaker Cable” ที่ทางโรงงานของเราสามารถผลิตเองได้ นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ประเภทสายนำสัญญาณยังต่างจาก Power bar, สายไฟ และปลั๊ก ที่มีกฎเกณฑ์ชัดเจนในการผลิต เพราะแต่ละประเทศรัฐบาลเป็นคนกำหนดว่า แต่ละประเทศใช้ไฟเท่าไหร่ 220, 100 หรือ 117 โวลต์

 

What HI-FI? : ค่าแรงดันไฟฟ้าระหว่าง 100, 117 กับ 220 หรือ 240 โวลต์ในแต่ละประเทศมีผลต่อคุณภาพเสียงไหมครับ จากประสบการณ์ของคุณที่เคยสัมผัสมา แล้วแบบไหนดีกว่ากัน?

Mr.Simon Hung : ความเห็นส่วนตัวของผมหากเทียบในเรื่องของค่าแรงดันไฟฟ้าที่ส่งจ่ายออกมาสู่บ้านเรือนประชาชนนั้น ผมคิดว่า 220 โวลต์น่าจะเหนือกว่า 110 โวลต์ในเรื่องของเสียงต่ำ จากประสบการณ์ที่เคยไปไต้หวัน (110 โวลต์) และฮ่องกง (220 โวลต์) อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบฮ่องกง กับไทยที่ใช้โวลต์เท่ากันที่ 220 แล้วนั้น ปรากฏว่าคุณภาพเสียงของที่ฮ่องกงกลับดีกว่า อาจเป็นเพราะว่า ฮ่องกงเลือกใช้ปลั๊กมาตรฐานแบบอังกฤษ แต่ไทยกลับเลือกใช้ปลั๊กแบบอเมริกันก็เป็นได้ (หัวเราะ)

 

What HI-FI? : ในส่วนของการ Plating ที่ตอนนี้ดูจะนิยม Rhodium กับ Gold กันมากนั้น เพราะให้ผลลัพธ์ทางเสียงที่ดีจริงๆ …ทางคุณได้มีการวิเคราะห์วิจัยไปถึงการใช้วัสดุอื่นที่ดียิ่งขึ้นกว่านี้ไหมครับ? แล้วน่าจะเป็นวัสดุชนิดใด?

Mr.Simon Hung : ตอนนี้คงยังไม่มีวัตถุดิบไหนดีกว่านี้ในเรื่องของการ Coating อีกแล้ว แต่ในอนาคตอาจจะมีวัตถุดิบอื่นที่ก้าวมาทดแทนในส่วนนี้ก็เป็นได้ ซึ่งทาง MS HD ได้ทดลอง และพิสูจน์แล้วว่า Rhodium นั้นเหมาะที่จะใช้ในระบบ HIFI (2 CH.) ส่วน Gold นั้นเหมาะที่จะใช้กับระบบ AV. System โดยทางเราก็เปิดเผยสเปคให้ลูกค้าได้เห็นอย่างตรงไปตรงมาว่าเคลือบหนาเท่าไหร่ 1 ไมครอน หรือ 3 ไมครอน ส่งผลให้เราได้รับความเชื่อใจจากลูกค้าในเรื่องของคุณภาพเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น Studio อัดเพลงในฮ่องกงหลายๆ แห่งก็เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา เนื่องจากพิสูจน์แล้วว่าให้เสียงที่ดีขึ้นจริงๆ

 

What HI-FI? : จำนวนของสวิตซ์ควบคุมส่งผลต่อคุณภาพหรือปลั๊กไฟ หรือไม่อย่างไร?

Mr.Simon Hung : ในส่วนของข้อมูลในเรื่องของเทคนิคในการผลิตภัณฑ์ คงจะไม่ใช่งานถนัดของผมในการให้ข้อมูลสักเท่าไหร่นัก คงต้องเป็นเจ้านายของผมมากกว่าที่จะตอบได้ตรงตามประเด็นที่ต้องการ…เนื่องจากผมเข้ามาทำแค่ในส่วนของการตลาด และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเครื่องเสียงเท่านั้น เนื่องจากผมมีประสบการณ์ในการเล่นเครื่องเสียงมากกว่า 40 ปี หน้าที่ของผมอีกอย่าง คือ คอยเช็คว่าผลิตภัณฑ์ตัวนี้ผ่าน หรือไม่ผ่าน ดีหรือไม่ดี ด้วยการใช้หลักการใหม่ อย่างเช่น การถามความคิดเห็นของพนักงานผู้หญิงที่ไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับเครื่องเสียงเลยว่า หลังจากได้ฟังแล้วรู้สึกเป็นอย่างไร? แตกต่างกันไหม ดีหรือไม่ดีอย่างไร? ที่เลือกทำแบบนี้ก็เพราะว่า ถ้าถามเอาข้อมูลจากนักวิจารณ์ หรือนักเล่นแล้ว มักจะได้ข้อมูลที่ดูเสกสรรปั้นแต่ง และดูเหมือนว่าจะเชื่อถือไม่ค่อยได้ซะเป็นส่วนมาก (หัวเราะ)

 

What HI-FI? : มีแบรนด์ไหนบ้างครับที่คุณชื่นชอบเป็นพิเศษ?

Mr.Simon Hung : ความจริงผมชื่นชอบเครื่องเสียงหลายแบรนด์มาก ไม่สามารถเจาะจงลงไปได้จริงๆ ว่าชอบแบรนด์ไหนเป็นพิเศษ แต่ส่วนตัวแล้วผมชอบลำโพงที่มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ ยกตัวอย่าง เช่น ลำโพงฮอร์น เป็นต้น เพราะรู้สึกว่า มันให้เสียงที่ครบถ้วน และถึงใจมากกว่าลำโพงตัวเล็กๆ

DSC_0055

What HI-FI? : คิดที่จะทำสินค้าที่เป็นพลังงานสะอาดที่กำลังเป็นที่นิยมออกมาขายหรือไม่?

Mr.Simon Hung : ก็อาจจะมีความเป็นไปได้ในอนาคตครับ แต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับเจ้านายของผมจะเป็นคนตัดสินใจตามที่บอกไปข้างต้น…ถ้าเขาดีไซน์สินค้าตัวไหนเสร็จผมก็จะทำหน้าที่โปรโมทเท่านั้น แต่ในฮ่องกง และสิงคโปร์ โดยเฉพาะเมืองกัวลาลัมเปอร์แล้วนั้น สินค้าของเราขายดีเอามากๆ ขนาดเซลล์ที่เคยขายสินค้าของแบรนด์หนึ่งซึ่งโด่งดังมากๆ ล้วนๆ ยังเปลี่ยนมาขายเฉพาะสินค้าของเราทั้งหมดเลย

 

What HI-FI? : ในความเห็นของคุณระหว่าง Vinyl กับ ไฟล์ High Resolution แบบไหนที่คุณคิดว่ามีคุณภาพเสียงที่ดีกว่ากันครับ?

Mr.Simon Hung : ความเห็นส่วนตัวของผมทั้งสองอย่างไม่สมควรถูกนำมาเปรียบเทียบกันได้เลย เนื่องจากเป็นคนละระบบกัน ต่างฟอร์แมตกัน อันหนึ่งเป็นอะนาลอก อีกอันหนึ่งเป็นดิจิตอล เอาเป็นว่าดีทั้งคู่สำหรับผม แต่คนอื่นๆ จะมีความคิดเห็นอย่างไรนั้นก็ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบส่วนบุคคลจะดีกว่า บางทีกระแสตลาดจะเป็นตัวบอกคุณเองว่าอะไรกำลังมา หรืออะไรกำลังลดความนิยมลงไป แต่หากมองดูในตอนนี้ฟอร์แมตต่างๆ กลับมีให้เลือกกันครบครัน ดังนั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลแล้วว่าชอบแบบใดมากกว่า…สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับตัว Source คือ ต้องบันทึกมาดีตั้งแต่แรก ไม่ว่าจะอยู่ในฟอร์แมตใดก็ตาม ย่อมฟังได้ไพเราะอย่างแน่นอน

 DSC_0142

What HI-FI? : มีอะไรอยากทิ้งท้ายไปถึงแฟนๆ ในประเทศไทยบ้างไหมครับ?

Mr.Simon Hung : สิ่งที่ผมอยากฝากไปถึงแฟนๆ ในเมืองไทย คือ “อย่าไปเชื่อความคิดเห็นของคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวคุณ ต้องลองฟังด้วยตัวเองก่อน” เพราะว่า คนที่จ่ายเงินจริงๆ แล้วก็คือคุณ ดังนั้นคนที่จะตัดสินใจว่าชอบ และไม่ชอบอะไรได้ดีที่สุดย่อมเป็นตัวคุณเองเท่านั้น แล้วของที่ราคาแพงก็ไม่จำเป็นต้องเป็นของที่ดีกว่าเสมอไป ทุกอย่างตัดสินกันที่รสนิยมส่วนบุคคลว่าชอบแบบไหนในท้ายที่สุดแล้ว