What Hi-Fi? Vocabulary 5

0

ศัพท์เครื่องเสียง ตอน สรรพเรื่องเสียง

…ยังอยู่ในหมวดหมู่ของศัพท์เครื่องเสียงเช่นที่เป็นมาละครับ ทว่าขอพักสมองกับศัพท์แสงยากๆ ที่อาจจะทำให้ปวดหัวเอาไว้ก่อน ครั้งนี้จึงมาว่ากันในตอน ‘สรรพเรื่องเสียง’ ที่เปรียบเหมือนเป็นศัพท์ในเรื่องเฉพาะทางของการรับฟัง ที่หลายท่านอาจได้ยินได้ฟังคำเหล่านี้ในบางครั้งที่พูดถึงเวลาฟังเพลงแบบซีเรียสกัน…เพียงแต่ว่า ครั้งนี้จะมิได้ไล่เรียงไปตามลำดับตัวอักษรนะครับ เนื่องเพราะแต่ละคำที่พูดถึงนี้มีความสอดคล้องต่อเนื่องกันของความหมาย

– Timbre

คำนี้ จะพบเห็น หรือ ได้ยินบ่อยมากในทุกวันนี้ โดยมีความหมายทั่วไปในทำนองว่า ลักษณะ หรือ คุณภาพของเสียงดนตรี หรือเสียงร้องที่แตกต่างจากระดับเสียง (Pitch) และความเข้มข้นของเสียง (Intensity) ซึ่งในทางการฟังเพลงและดนตรีนั้น “Timbre” จะบ่งบอกถึงลักษณะจำเพาะของเสียงนั้น ๆ …กีตาร์ตัวนี้กับกีต้าร์ตัวนั้นสุ้มเสียงต่างกัน…ทรัมเป็ตตัวนี้กับทรัมเป็ตตัวนั้นสุ้มเสียงต่างกัน…คนนี้กับคนนั้นสุ้มเสียงต่างกัน ฯลฯ ที่เรา-ท่านรับรู้ใน “ความต่าง” เป็นอย่างนี้-อย่างนั้นระหว่างกัน เหล่านี้ได้ก็เนื่องเพราะ Timbre ที่มีความเฉพาะตัวนี่ละครับ

จริง ๆ แล้ว Timbre เกี่ยวโยงไปถึงศัพท์เรื่องเสียงอื่น ๆ ที่มีความหมายคล้าย ๆ กันอีกหลายคำ อย่างเช่น Sound, Tone, Voice เป็นต้น

“เสียง” (Sound) โดยทั่วไปสามารถจำแนกได้โดยใช้ระดับเสียง (Pitch), ความดัง (Loudness) และคุณภาพ (Quality) ซึ่งบางที “คุณภาพเสียง” หรือ Sound Quality อธิบายได้ด้วย “Timbre” ซึ่งหมายถึงลักษณะของเสียงที่ทำให้หูสามารถแยกแยะเสียงที่มีระดับเสียงและความดังเท่ากันได้ ‘Timbre’ จึงเป็นคำทั่วไปที่ใช้เรียกลักษณะเฉพาะของโทนเสียงต่าง ๆ ทั้งนี้ ‘Timbre’ ถูกกำหนดโดยเนื้อหาฮาร์โมนิกของเสียง (Harmonic Content) และลักษณะไดนามิกของเสียง (Dynamic Characteristics) เช่น การสั่นของเสียง (Vibrato) และลักษณะการจู่โจม-การสลายตัว (Attack-Decay) ของเสียง

– Harmonic Content

ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อคุณภาพเสียง หรือ Timbre ของเครื่องดนตรี ได้แก่ เนื้อหาฮาร์โมนิก (Harmonic Content), การจู่โจม-การสลายตัว (Attack-Decay) ของเสียง และการสั่นของเสียง (Vibrato) สำหรับโทนเสียงที่ต่อเนื่อง ปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือ เนื้อหาฮาร์โมนิก, จำนวนคู่-คี่ (Number) และความเข้มข้นสัมพันธ์ (Relative Intensity) ของฮาร์โมนิกช่วงบน (Upper Harmonics) ที่มีอยู่ในเสียงนั้นๆ

– Attack and Decay

อย่างที่ได้บอกไปตอนต้น, ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อคุณภาพเสียง หรือ โทนของเครื่องดนตรี ได้แก่ เนื้อหาฮาร์โมนิก (Harmonic Content), การจู่โจม-การสลายตัว (Attack-Decay) ของเสียง และการสั่นของเสียง (Vibrato/Tremolo)

ภาพประกอบด้านบนแสดงถึง การจู่โจม-การสลายตัว (Attack-Decay) ของเสียงจากสายกีตาร์ที่ดีด การดีดทำให้สายกีตาร์มีการจู่โจมอย่างกะทันหัน (Sudden Attack) ซึ่งมีลักษณะเฉพาะคือ มีแอมปลิจูด (Amplitude) พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจนถึงจุดสูงสุด (Peak) ในขณะที่การสลายตัว (Decay) จะยาวนาน และค่อยเป็นค่อยไปเมื่อเปรียบเทียบกัน หูจะไวต่ออัตราการจู่โจม-การสลายตัวเหล่านี้ และ (อาจ) ใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อระบุเครื่องดนตรีที่สร้างเสียงได้

ภาพนี้แสดงให้เห็นลักษณะเสียงของการตีฉาบด้วยไม้ การจู่โจม (Attack) เกิดขึ้นแทบจะทันทีทันใด แต่ลักษณะเสียงสลายตัว (Decay) นั้นยาวนานมาก ช่วงเวลาที่แสดงนั้นอยู่ที่ประมาณครึ่งวินาที ช่วงเวลาที่โชว์นี้ร่วมกับสายกีตาร์ด้านบนนั้นก็อยู่ที่ประมาณครึ่งวินาทีเช่นกัน แต่เนื่องจากความถี่ (Frequency) นั้นต่ำกว่ากันมาก คุณจึงสามารถแยกแยะช่วงเวลาแต่ละช่วงในลักษณะเสียง (Sound Envelope) นั้นได้

– Vibrato / Tremolo

อย่างที่ได้บอกไปตอนต้น, ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อคุณภาพเสียง หรือ โทนของเครื่องดนตรี ได้แก่ เนื้อหาฮาร์โมนิก (Harmonic Content), การจู่โจม-การสลายตัว (Attack-Decay) ของเสียง และการสั่นของเสียง (Vibrato/Tremolo) คำจำกัดความทั่วไปของการสั่นของเสียง (Vibrato) คือ “การเปลี่ยนแปลงเป็นระยะๆ ในระดับเสียง” และคำว่า เทรโมโล (Tremolo) ใช้เพื่อระบุการเปลี่ยนแปลงเป็นระยะๆ ในแอมปลิจูด (Amplitude) หรือ ความดังของเสียง (Loudness) ดังนั้น Vibrato อาจเรียกได้ว่าเป็น FM (Frequency Modulation-การปรับความถี่) ของเสียง ในขณะที่ Tremolo อาจเรียกว่า AM (Amplitude Modulation-การปรับแอมปลิจูด) ของเสียง ทั้งนี้ในความเป็นจริงแล้ว ทั้งสองอย่างนี้มักจะปรากฏอยู่ในเสียงร้อง (Voice) หรือ เสียงของเครื่องดนตรี

การสั่นของเสียง (Vibrato) ถือเป็นลักษณะที่พึงประสงค์ของเสียงมนุษย์ หากไม่มากเกินไป โดยสามารถใช้ในการแสดงออก (Expression) และเพิ่มความอิ่มอุดม (Richness) ให้กับเสียงพูด-เสียงร้อง (Voice) หากสามารถถ่ายทอดเนื้อหาฮาร์โมนิกของเสียง (Harmonic Content) ที่ต่อเนื่องกันจากเสียงพูด หรือ เครื่องเป่าลมได้อย่างแม่นยำ หูจะรับรู้ความแตกต่างของเสียงได้ง่าย เนื่องจากลักษณะเสียงสั่น (Vibrato) นี่แหละ เสียงสังเคราะห์ (Synthesized Tones) จะมีความสมจริงมากขึ้น เมื่อได้เพิ่มเสียงสั่น (Vibrato) และ/หรือ เทรโมโล (Tremolo) บางประเภท เข้าไปก็จะเป็นการสร้างโทนเสียงอันสมจริงยิ่งขึ้น

– Ambience

ในเวลาที่เราฟังเพลงและดนตรีอย่างใส่ใจ สิ่งหนึ่งที่มักจะมีการพูดถึงกันบ่อยๆ ก็คือ คำนี้ละครับ เนื่องเพราะมันมีนัยแห่งความหมายที่บ่งบอกถึงลักษณะและบรรยากาศของสถานที่ “Ambience” เป็นสิ่งที่ทำให้เรารับรู้ในสิ่งแวดล้อม, สภาวะรายรอบ ณ สถานที่ที่ทำการบันทึกเสียงนั้นอย่างให้ความสมจริง…ทำให้เรารู้สึกได้ถึง การโอบล้อมของเสียงในสตูดิโอ ในคอนเสิร์ต ฮอลล์ ในโบสถ์ ในอารีนา หรือว่า อยู่ริมถนน  กระทั่งบรรยากาศอันเย็นฉ่ำผ่อนคลายของค็อกเทล เลานจ์ ก็สามารถบ่งบอกออกมาให้รู้สึกได้

พูดง่าย ๆ ว่า Ambience นั้นจะสร้างสภาพความรู้สึกได้ถึง Environment (สภาพสิ่งแวดล้อมรายรอบ) ของสถานที่ที่ได้รับการบันทึกเสียงการแสดงดนตรีไว้

– Beat

ความหมายโดยทั่วไป คือ การตี การหวด (คนหรือสัตว์) ซ้ำๆ และรุนแรง เพื่อทำร้ายหรือทำให้บาดเจ็บ โดยที่จะใช้เครื่องมือ เช่น กระบองหรือแส้เป็นเครื่องมือทำร้าย

แต่สำหรับในทางเพลงและดนตรี “Beat” จะหมายถึง หน่วยสำเนียงหลัก หรือ ช่วงจังหวะในดนตรีหรือบทกวี โดยเกี่ยวโยงถึง Rhythm และ Tempo

– Rhythm

ความเข้าใจโดยทั่วไป จะหมายถึง ท่วงทำนองเพลงและดนตรี แต่จริงๆ แล้ว “Rhythm” บ่งบอกถึง รูปแบบ หรือ ลีลาการเคลื่อนไหว หรือของเสียงที่ซ้ำ ๆ กัน เป็นช่วงเป็นตอนอย่างชัดเจน และสม่ำเสมอ คล้ายคลึงกับ Pattern

– Tempo

แน่นอนว่า ค่อนข้างจะคุ้นเคยกับคำศัพท์นี้ เพราะในทางเพลงและดนตรีจะหมายถึง ความช้า-เร็วของท่วงทำนองในการเล่น (หรือควรจะเป็น) บทเพลงหนึ่ง ๆ คล้ายคลึงกับ Speed

– Bright

ความหมายโดยทั่วไป คือ สดใส, สว่างไสว และแม้กระทั่งฉลาดปราดเปรื่อง ซึ่งนับว่า สื่อไปในทางที่ดี ไม่มีอะไรส่อไปในทางที่แย่ หรือไม่ดี จัดจ้า แต่ทว่าถ้าเป็นในแง่ของการฟัง บางครั้งเอ่ยคำว่า “Bright” ขึ้นมา จะกลายเป็นส่อถึงว่า สุ้มเสียงที่รับฟังนั้น มันรู้สึกจัดจ้ากว่าธรรมดา ฟังแล้วไม่ระรื่นชื่นมื่น (นัก) เฉพาะอย่างยิ่งช่วงเสียงแหลม…มิใช่แค่ว่า เสียงที่รับฟังนั้นแจ่มชัด สดใส (หรอกนะ)

– Bloom

ในขณะที่ Bright ส่อไปในทางช่วงเสียงสูงที่ฟังไม่ระรื่น (นัก) ทว่ากับคำว่า “Bloom” จะเป็นในแง่ดีงามของเสียงเพลงและดนตรีที่มีความเบ่งบาน สะพรั่ง เปล่งปลั่งน่าฟัง รู้สึกชื่นมื่น อิ่มเอิบใจในขณะรับฟัง

– Echo

ในยุคสมัยหนึ่ง การเล่นการฟังเครื่องเสียงจะเป็นที่นิยมกับคำๆ นี้ ที่มีความหมายถึง ความก้องกังวานของเสียง เฉพาะอย่างยิ่งกับเสียงร้องเพลงที่เพิ่มระดับในลักษณะการสะท้อนของเสียงซ้ำ ๆ ให้มีช่วงเวลายาวนานขึ้นกว่าปกติ (ทำนองเลียนแบบเสียงสะท้อนในถ้ำ) ความหมายคล้ายคลึงกับ Reverb

– Lean

ความหมายโดยทั่วไปกับความหมายในทางการรับฟังสำหรับคำนี้-ไม่ต่างกัน คือ ผอม ลีบ บาง ความหมายคล้ายคลึงกับ Thin ซึ่งสื่อไปในทางเสียงที่รับฟังนั้น ขาดความเอิบอิ่ม ฟังดูไร้เนื้อหนัง ทว่าบางทีคำๆ นี้ก็แปลว่า พิง หรือ เอน ก็ได้เช่นกัน ทำนองเดียวกับ Recline, Lie

– Pitch

ในขณะที่ Tempo หมายถึง ความช้า-เร็วของท่วงทำนองในการเล่น (หรือควรจะเป็น) บทเพลงหนึ่งๆ สำหรับ “Pitch” แล้วไซร้ จะหมายถึง ระดับสูง-ต่ำของเสียง ซึ่งบ่งบอกถึง สมบัติของเสียงที่เป็นเสียงทุ้มและเสียงแหลม ซึ่งสัมพันธ์กับความถี่ เช่น เสียงแหลมเป็นเสียงที่มีความถี่มาก จึงเป็นเสียงที่มีระดับเสียงสูง/เสียงทุ้มเป็นเสียงที่มีความถี่น้อย จึงเป็นเสียงที่มีระดับเสียงต่ำ ความถูกต้องของ Pitch จะส่งผลต่อช่วงเสียงสูง-ต่ำในเพลงและดนตรีที่ไม่ผิดเพี้ยน จนขาดซึ่งความกลมกล่อมน่าฟัง

– Texture

คำนี้นับว่า มีนัยที่สำคัญ เพราะมีความหมายบ่งบอกถึง แก่นสาร, เนื้อสัมผัส, ความรู้สึกต่อลักษณะที่ปรากฏ, องค์ประกอบ, ส่วนประกอบ กระทั่งว่า ลักษณะเนื้อแท้ หรือพื้นผิวของชิ้นงาน แต่อีกนัยหนึ่งจะบ่งบอกถึงลักษณะทางกายภาพ อย่างเช่น ความหยาบความละเอียดของดิน (ที่เป็นส่วนประกอบของดินนั้น) ในแง่ของเสียงและการฟัง “Texture” จึงบ่งบอกถึงรายละเอียดของสรรพเสียงที่รับฟังว่า ยิบย่อยได้ขนาดไหน, สามารถทำให้จำแนกส่วนประกอบของเสียงเพลงและดนตรีได้ระดับไหน คล้ายคลึงกับ Quintessence, Grain

………………………………………