Test Report: Wharfedale REVA-1

0

Test  Report: Wharfedale REVA-1

(เสน่ห์แห่งเสียงหนัง)

ไมตรี ทรัพย์เอนกสันติ

            ลำโพง Wharfedale REVA-1 ลำโพงวางหิ้งตระกูลล่าสุด รุ่นเล็กสุด ระบบ 2 ทาง ตู้เปิด รูระบายอากาศยิงลงล่างรอบๆ ฐานล่าง ทำให้ไม่มีปัญหาการวางชิดผนังที่จะปิดรูระบายด้านหลัง

ดอกลำโพงเสียงแหลม เป็นโดมนิ่มขนาด 25 ซม. มีจานเอียงโดยรอบโดม ทำหน้าที่ช่วยถ่างมุมกระจายเสียงให้กว้าง

ดอกกลางทุ้ม กรวย Kevla สาน ขอบยางขนาด 115 มม. มีหัวจรวดตันอยู่ตรงกลาง

ตัวตู้แข็งแรง มีการเสริมภายใน ด้านข้างโค้ง เพื่อลดคลื่นค้างภายใน ผิวตู้สีเชอรี่ ขัดเงาระดับงานเฟอร์นิเจอร์ชั้นดี หน้ากากสีดำระบบแม่เหล็กดูด

ขั้วลำโพงขนาดใหญ่ แบบไบ-ไวร์ (biding post)

สเปคจากโรงงาน

ความถี่ตอบสนอง                       52Hz-20 kHz (+/-3 dB)

จุดแบ่งความถี่                            2 kHz

ความต้านทาน                            8 โอห์ม (ต่ำสุด 4.3 โอห์ม)

ความไว                                     84 dB/2.83 V/m

แนะนำใช้กับภาคขยาย                20-60 W

ให้ระดับเสียงได้สูงสุด                 95 dB SPL

ขนาดตู้ (ก x ส x ล)                    172 x 317 x 235 มม.

หนัก                                          5.6 กก./ตู้

การทดสอบ

จากเครื่องเล่นบลูเรย์ OPPO BDP 105 (ยกสายดิน, ปรับปรุงภาคจ่ายไฟ โดย Power Perfect) สายไฟ AC ยกจากอินทีเกรตแอมป์ Mark Levinson No.383 สายภาพ Monster HDMI รุ่น HD 2000 (เดินย้อนทิศ) เข้าจอ LCD Toshiba 24 นิ้ว full HD (แต่ผมปล่อยสัญญาณภาพความละเอียดต่ำสุด) 480/576i (จะให้ทรวดทรงดีที่สุด ภาพมีมิติที่สุด) สายเสียงใช้ Madrigral CZ-GEL 2 (บาลานซ์) เข้า input B-1 ของ No.383 อินทีเกรตแอมป์บาลานซ์แท้ 100 Wrms/ch ที่ 8 โอห์ม, 200 Wrms/ch ที่ 4 โอห์ม ออกสายลำโพง FURUKAWA S-2 (ตามทิศ) หัว WBT หางปลาเงิน (ด้านแอมป์) หัว WBT บานานา ล็อกได้ ด้านลำโพงเข้า REVA-1 ด้วยสาย S-2 สองชุด แยกอิสระไบ-ไวร์ REVA-1 วางบนขาตั้ง Target 24HJ เอาหน้ากากลำโพงออก เอียงลำโพง (toe-in) ปรับจนได้ทั้งมิติ และสุ้มเสียงครบ สายไฟ AC ใช้ Nordost รุ่นเล็กสุดเข้า No.383

สายไฟ AC 1 ทั้งหมดต่อผ่านตัวกรองไฟ PHD Power Station สายไฟ AC เข้า ใช้ FURUKAWA CB-10 สามเส้นแยก (ทิศทางถูกต้อง) หัว WATTGATE เสียบที่กำแพง (เต้ารับตัวเมีย Monitor Acoustic สีเทารุ่นสูงสุด)

ยกสายลำโพง S-2 สูงหนีพื้นห้องด้วยตั้งกระดาษพิมพ์ดีด (ใหม่) 1 คืบ เอาอีก 1 รีมคั่นสาย S-2 ที่เข้าแหลมกับกลางทุ้ม และอีก 3 รีมทับบนสุด ระวังไม่ให้สายต่างๆ ทุกเส้นแตะต้องกัน

ที่กล่อง PHD มีการทำระบบระบายกระแส EDDY ลงกระทะเหล็กหล่อ (ซ้อนกัน 3 ใบ) สายพ่วง CB-10 9K,MBl

ที่ OPPO 105 มีแผ่นรัตนชาติ อาเกตขนาดประมาณ 7 นิ้ว เกือบกลมวางอยู่ มีแท่งออบซีเดียนสูง 1 คืบวางอยู่บน รวมทั้งก้อนออบซีเดียนกลมขนาด 3 นิ้ววางอยู่ด้วย มีแท่งควอตซ์สูงเกือบคืบ 3 แท่งวางรอบๆ ทั้งหมดนี้มีโครงควอตซ์รูปพีรามิดสูง 1 ศอกคร่อมครอบอยู่ มีพุ่มก้อนอะมิทิสขนาด 2 ฝ่ามือวางอยู่บนซ้ายหลัง ผลึกทั้งหมดนี้ไม่แตะกัน มีก้อนอะมิทิสอีก 6 ฝ่ามือใหญ่วางห่างออกไปจาก OPPO ด้านขวาครึ่งเมตร อีก 1 ก้อน 2 ฝ่ามืออยู่ที่พื้นด้านขวาที่นั่งฟัง

แท่งแร่ทัวมาลีนขนาดประมาณสูงเกือบคืบอีก 7 ก้อนวางตามสายไฟ AC เครื่อง (เข้า, ออก) ฟังทดสอบทิศทางแล้ว

กล่องตัวอย่างผลึก 12 เม็ดเล็กของ Judy Halls วางในห้องอีก 5 กล่อง (กลางห้อง 1, หลังที่นั่งฟังอีก 4)

ใต้เครื่องเล่น OPPO มีแท่นรองของ Tombo PSC-01 และขาตั้ง Magic Spike (ตัดการสั่นของเครื่อง OPPO เวลาเล่นแผ่นบลูเรย์จนเครื่องนิ่งสนิทได้ ! )

มีหัวปลั๊กเสียบกรองไฟ PHD 2 วางในห้อง 4 ตัว, แผงไฟ AC เข้าห้องเสียงอีก 3 หัว (ฟังทิศทางแล้ว)

ลำโพงซ้าย, ขวา ห่างกันประมาณ 2.20 เมตร ห้องขนาด 3.85 x 9 x 2.5 เมตร ผนังมีฟองน้ำเก็บเสียง SONEX สีขาว, พื้นพรม ของเยอะ (แผ่น, หนังสือ) ไม่ก้องแน่ นั่งฟังห่างจากลำโพง 3.6 เมตร ปัดลมแอร์ 25 องศาเซลเซียส, ลม low ลงด้านหลังลำโพง

ภายในห้องไม่มีจอ LCD อื่นๆ, WiFi/LAN, PC/โน้ตบุ๊ก, วิดีโอเกมส์, กล้องดิจิตอล, นาฬิกาไฟฟ้า (ผนัง, ข้อมือ), รีโมทอื่นใด (แม้แต่รีโมทแอร์) เหลือแต่รีโมท OPPO, ไม่มีกล้องดิจิตอล, โทรศัพท์ไร้สาย, โทรศัพท์มือถือ, iPad, Galaxy, การ์ดแม่เหล็กในกระเป๋าเสื้อ, สร้อยคอ

แผ่นระนาดเอก (ไทลำภู) เพลง 2 เสียงตีระนาดเป็นชิ้นเป็นอันดี แต่ยังไม่เป็น “เม็ดๆ” มวลอากาศจากดอกกลางแหลมและกลางทุ้มยังไม่หล่อหลอมเป็นก้อนเดียวกันเต็มที่ (ยังไม่เป็น point source) เพลง 3 ก็เช่นกัน เสียงฉิ่งยังไม่ควบแน่นพอจนเป็นรูปลักษณ์ 3D ได้ รายละเอียดแหลมยังพื้นๆ น้ำหนักของเสียงปานกลาง ยังไม่ขนาดเน้นควบแน่นกระแทกออกมา (โดยเฉพาะเสียงกลางต่ำ) เพลง 4 ขึ้นต้นเงียบปานกลาง เสียงระนาดยังขาดการกระแทกกระทั้น (impact) ออกรอมชอม ฟังสบายๆ ผู้ดี ช่องไฟระหว่างตัวโน้ต (intersilence) ยังไม่ดีนัก ทำให้ฟังแยกแยะน้อยลง ดูเป็นพืดกลืนๆ กันไป หัวโน้ตไม่คมชัดนัก เพลง 5 ขึ้นต้นสงัดใช้ได้ เสียงตีระนาดยังไม่ impact นัก เพลง 6 ขึ้นต้นระนาดลึกไป หลังเวทียังตื้นไปหน่อย ไม่ลึกเท่าที่ควร แต่ละเสียงดังพอๆ กันไปหมด (dynamic contrast ยังไม่ดีนัก) โดยรวมๆ ฟังจากแผ่นนี้ อยากให้ REVA-1 สดขึ้นอีก ช่องไฟระหว่างโน้ตดีกว่านี้ dynamic contrast มากกว่านี้ แต่ถ้าจะฟังแบบสบายๆ ไม่เน้นคม, ชัด, สด เปิดโปร่ง ก็โอเค

แผ่น Rhythm Basket, A Tasket, A Tisket, A Child’s ของ Brent Lewis

REVA-1 ให้เสียงกันเองเช่นเคย คุณไม่อาจเรียกร้องความสด ความมีประกายระยิบระยับได้จากมัน ดูเหมือนว่า มันถูกเจาะจงให้อยู่ในกลุ่มลำโพงที่ฟังสบายๆ ไม่ต้องคิดมาก ขอให้ใส่อะไรเข้าไปก็ไม่มีวันให้ความระคายหูออกมา มันไม่ใช่ลำโพงที่จะดีดดิ้นอะไรเป็นตัวๆ เม็ดๆ กระเด็นออกมาหาคุณ ทุกเสียงออกสงบ ราบเรียบ แต่มีลีลาความเป็นดนตรีให้คุณเพลินได้ก็แล้วกัน

กับแผ่นนี้ เพลง 6 นาทีที่ 4 ให้เสียงกว้างดีแต่ไม่ขนาดแผ่ออกมาโอบซ้าย, ขวาไปถึงหลังเรา เพลง 7 เสียงตีกลองท่อยังแค่อยู่เหนือลำโพงนิดหน่อยไม่สูงถึงเพดานห้อง เช่นเดียวกับเพลง 10 ที่ทำได้แค่ระดับเรี่ยลำโพง ไม่ไปวิ่งวนที่เพดานห้อง

แผ่น Wood ของ Briant Bromberg เพลง 1 ให้เสียงดับเบิลเบสที่เป็นเส้นสายพอใช้ แต่ยังขาดรายละเอียดเสียงผิวสาย, ทุ้มยังลงได้แค่แถวๆ 80-100 Hz ตามขนาดดอกกลางทุ้ม เสียงโดยรวมยังไม่แผ่หลุดลอยอกมาหาเรา เหมือนกับว่า ความตื้นลึกของวงยังจำกัด ไม่ลึกลงไปมาก และไม่แผ่ออกมาหาเรามากนัก (ตรงนี้แหละ ทำให้การกดเลือก absolute phase ที่ OPPO มีผลน้อยมากกว่าที่ควรจะเป็น)

อย่างไรก็ตาม โดยรวมๆ เสียงก็ยังฟังได้ลื่นหูดี ไม่เร่งเร้า ออกสงบๆ สบายๆ หวานผ่อนคลาย มีความเป็นดนตรีดี

ผมยังได้ฟังอีกหลายแผ่น พอสรุปได้ว่า

การฟังเพลง ต้องตกลงกันก่อนว่า นี่เป็นลำโพง “เป็นมิตร” มันฟังง่าย ฟังเพลิน แบบไม่มาเพ่งพินิจจับผิดกัน เน้นการถ่ายทอดอารมณ์เพลงและลีลา มากกว่ามิติเสียง เวทีเสียง (แต่ก็ให้บรรยากาศที่ยอมรับได้) ถ้าคุณหูซาดิสม์ ชอบอะไรที่ตึงตัง โครมคราม ถึงลูกถึงคน รสแซบละก็ เมินมันได้เลย ไม่ใช่แนวคุณแน่

การดูหนัง (ฟังด้วย REVA-1 คู่เดียว) เชื่อไหมว่า เห็นเป็นลำโพงสงบเสงี่ยมเจียมตัวอย่างนั้น กลับเอามาฟังเสียงหนังได้เพลินดีมากๆ เสียงพูดเป็นธรรมชาติดีมาก เสียงอื่นๆ ก็เที่ยงตรง ถูกต้องตามภาพที่ปรากฏ อาจเป็นเพราะคนเราเวลาดูหนัง มักเร่งโวลลุ่มมาก เพื่อเสียงสมจริง ซึ่ง REVA-1 ดูจะชอบให้ถูกเร่งดังมากสักหน่อย มันอาจไม่ใช่เสียงต่ำที่มหึมา แต่รับประกันว่า คุณจะไม่รู้สึกว่า มีอะไรขาดไปจนหงุดหงิด (ผมนั่งดู-ฟังเกือบ 10 เรื่อง) มันให้บรรยากาศน้องเซอราวด์ได้เลย เสียงวิ่งอยู่ที่เพดานห้อง, ด้านหลังเรา มากันครบ ฟังคอนเสิร์ตก็โอเคมากเลย ไม่กระหึ่มสุด แต่พอเพียง (ยกเว้นเอาไปฟังเพลงร็อก, แร็ป ก็ข้ามมันไปเลย)

สรุป

ดูจากหน่วยก้านของ REVA-1 ผมเชื่อว่า เราสามารถปรับปรุงแก้ไขแยกสายภายในไม่ให้แตะกัน ฟังทิศทางหัวเสียบตัวยูทุกๆ จุด (ด้านหลังรูเสียบสายลำโพงด้วย) ถ้าทำได้ ผมมั่นใจว่า เสียงและมิติจะยิ่งดีขึ้นอีกมาก แต่ผมไม่อยากยุ่ง เพราะดูๆ แล้ว ต้องงัดวงขาวรอบลำโพงออก จึงจะเข้าถึงนอตขันดอกลำโพง ไม่อยากงัด กลัวตู้เป็นรอย ก็ขอทิ้งไว้ให้ท่านเจ้าของลองทำดูเอาเอง

ขอขอบคุณ บริษัท ไฮไฟ ทาวเวอร์ จำกัด โทร. 0-2881-7273-7 ที่เอื้อเฟื้อลำโพง Wharfedale REVA-1 มาให้ทดลองฟังในครั้งนี้