Canton Elektronik GmbH เป็นผู้ผลิตลำโพงในประเทศเยอรมนี ที่มีฐานการผลิตในเมือง Weilrod ก่อตั้งขึ้นในปี 1972 โดยชื่อบริษัทมาจากภาษาละตินและภาษาเยอรมันผสมกัน โดย “Can” มาจากภาษาละตินว่า “Cantare” ซึ่งแปลว่า “ร้องเพลง” และ “Ton” มาจากภาษาเยอรมันที่แปลว่า “เสียง” ปัจจุบัน Canton ได้ผ่านวาระครบรอบ 50 ปี ไปแล้ว Canton ซึ่งเป็นผู้ผลิตลำโพงที่สมบูรณ์แบบที่สุดในเยอรมนี ยังคงตั้งอยู่ในเขตชุมชนเล็กๆ ที่บริษัทเริ่มต้นขึ้น โดยมีโรงงานผลิตอยู่ใน Czech Republic
ทุกวันนี้ Canton ได้ปรับปรุง Reference Series อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งปัจจุบัน Canton ‘Reference Series’ ที่เป็นระดับท็อปของกลุ่มผลิตภัณฑ์ มีอยู่ด้วยกัน 7 รุ่น โดยที่ GS Edition นับเป็นระดับ Flag Ship ตามติดมาด้วย Reference Series ที่ระบุรุ่นอย่างง่ายๆ ด้วยตัวเลข ได้แก่ 1, 2, 3, 5, 7 และ 9 โดยที่ Reference 9 เป็นรุ่นที่เล็กที่สุด และเป็นแบบ 2-ทาง วางขาตั้ง นอกจากนี้ยังมี Reference Center และ Reference Sub สำหรับการใช้งานทางด้านโฮม ซีนีม่า
ในครั้งนี้ผมได้มีโอกาสทดลองฟัง Reference 5 ซึ่งเป็นลำโพงตั้งพื้นแบบ 3-ทาง ที่มีน้ำหนัก 79.3 ปอนด์ หรือ 36 กก. ความสูง 39.7 นิ้ว ความกว้าง 11.8 นิ้ว และความลึก 18.1 นิ้ว ดังนั้นจึงเป็นตู้ลำโพงที่ใหญ่แต่ไม่ใหญ่มาก เรียกได้ว่า ไซซ์กำลังเหมาะกับห้องโดยทั่วไป โดยไดรเวอร์ที่ใช้ทั้งในส่วนของวูฟเฟอร์และมิดเรนจ์เป็นวัสดุพิเศษอย่างที่ Canton เรียกขานว่า BCT Diaphragm (Black Ceramic Tungsten) วูฟเฟอร์ขนาด 6.85 นิ้ว จำนวน 2 ตัว และมิดเรนจ์ขนาด 6.85 นิ้ว จำนวน 1 ตัว ซึ่งมาพร้อมกับทวีตเตอร์แบบ BC (Black Aluminium Oxide Ceramic) ขนาด 1 นิ้ว ซึ่งทั้งหมดทำให้ Reference 5 สามารถครอบคลุมช่วงความถี่ตอบสนองได้ตั้งแต่ 21 จนถึง 40,000 Hz ด้วยค่าความไวเสียง 88 dB กำหนดจุดตัดกรอง/แบ่งช่วงความถี่ (Crossover Frequencies) อยู่ที่ 170/3,000 Hz ค่าอิมพีแดนซ์ 4/8 โอห์ม ภายใต้ระบบการทำงาน 3-ทาง Bass Reflex System โดยท่อเปิดยิงลงพื้น หรือ Downfiring กระจายไปทางด้านหน้าและด้านหลังตัวตู้ลำโพง ด้วยสิ่งที่เรียกว่า Bass-Guide
อนึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า Canton ยังได้จับรุ่น Reference 5 นี้มาจัดทำในแบบฉบับของ GS Edition อีกด้วย ซึ่งนับว่า Reference 5 ต้องมีความน่าสนใจมากๆ ซ่อนอยู่ มิเช่นนั้น Canton คงไม่เจาะจงจับเอามายกระดับเป็น GS Edition แต่เพียงรุ่นเดียว (ด้วยการปรับเปลี่ยนไปใช้เป็น DLC-Diamond Like Carbon) Dome Tweeter ควบคู่กับ Crossover ใหม่เอี่ยมอ่องที่เน้นใช้ MKP Capacitors ของ Mundorf และตัวตู้ที่พิเศษยิ่งขึ้น)
Canton ออกแบบและสร้างไดรเวอร์ทั้งหมดภายในบริษัท ส่งผลให้กระบวนการพัฒนาเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทนี้แตกต่างจากบริษัทอื่น ๆ ในปี 2015, Canton เริ่มใช้ส่วนผสมของเซรามิก, ทังสเตน และไททาเนียมในการผลิตไดอะแฟรมลำโพง วัสดุที่ใช้ใน Reference Series ในทวีตเตอร์ ไดรเวอร์เสียงกลาง และวูฟเฟอร์ เรียกว่า “Black Ceramic” (BC) โดยเริ่มต้นด้วยกรวยอะลูมิเนียม ในส่วนของโมเลกุลบางส่วนจะถูกแปลงเป็นโครงสร้างเซรามิก ซึ่งจาก White Paper ของ Canton ระบุว่า “กระบวนการออกซิเดชันทางเคมีไฟฟ้าเฉพาะทางจะจับ (Binds) โมเลกุลออกซิเจนทั้งสองด้าน ทำให้เกิดโครงสร้างเซรามิก” ทั้งนี้ไดอะแฟรมเสียงกลางและวูฟเฟอร์จะเพิ่มทังสเตน (Tungsten) ลงในส่วนผสม วัสดุเซรามิกที่ได้ จึงยังคงข้อดีของเซรามิกไว้โดยเปราะบางน้อยกว่า ซึ่งนี่ Canton จึงเรียกวัสดุเหล่านี้ว่ากรวย “Black Ceramic Tungsten” (BCT)
BCT เป็นผลลัพธ์ที่ได้ ซึ่งทำให้เป็นวัสดุกรวยที่แข็งมาก และมีน้ำหนักเบามากในขณะเดียวกัน สามารถควบคุมตัวได้ง่ายด้วยเครื่องขยายเสียงทั่วไป ทั้งยังส่งผลทางด้านความเร็วและความแม่นยำในการตอบสนองต่อเสียงดนตรี ไดรเวอร์เซรามิกของ Canton มีความเร็ว และความแม่นยำตามที่ต้องการ แต่มีการหน่วงหนืด (Damping) เล็กน้อย เพื่อให้ความถี่เสียงสูงฟังดูหวานและเป็นธรรมชาติ
Canton มีกรรมวิธีขึ้นรูปไดอะแฟรมในลักษณะที่เรียกว่า “Triple Curved Cone” (TCC) โดย “รูปร่างของไดอะแฟรมประกอบด้วยรัศมีสามส่วนต่อเนื่องกัน ทว่าแตกต่างกัน ทำให้ไดรเวอร์มีโครงสร้างที่แข็งแรงขึ้นมาก และลดการบิดเบือน นอกจากนี้ ไดรเวอร์ ‘TCC’ ยังมีคุณลักษณะการกระจายเสียงที่ดีขึ้น พร้อมทั้งแบนด์วิดท์ที่สูงขึ้นด้วย ไดรเวอร์แต่ละตัวใน Reference 5 จะได้รับการติดตั้งอยู่ในตู้แยกของตัวเอง โดยที่ทวีตเตอร์จะมีสิ่งที่เรียกว่า “Isolated Mid-High Frequency Wave-Guide Grille” และ “Ultra-light Single Wire Voice Coil” เป็นคุณสมบัติเฉพาะตัว
Reference 5 จะขับขานจากความถี่ต่ำที่ 21Hz ครอสโอเวอร์จะตัดกรอง/แบ่งช่วงความถี่ที่ 170Hz แล้วส่งต่อไปยังไดรเวอร์เสียงกลาง ซึ่งไดรเวอร์เสียงกลางจะครอบคลุมย่านความถี่ตั้งแต่ 170Hz จนถึง 3kHz จากนั้นครอสโอเวอร์จะตัดกรอง/แบ่งช่วงความถี่ที่ 3,000Hz แล้วส่งต่อไปยังทวีตเตอร์และขยายไปจนถึง 40kHz
…ลักษณะพิเศษเฉพาะประการหนึ่งของครอสโอเวอร์ของ Canton คือ สิ่งที่เรียกขานว่า “Displacement Control” หรือ DC โดย Frank Göbl ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคได้อธิบายว่าเป็น “โซลูชันทางนวัตกรรม (Innovative Solution) ซึ่งขยายช่วงเสียงเบสของลำโพง ด้วยการใช้ฟิลเตอร์ไฮ-พาสเฉพาะทาง เพื่อควบคุมการเคลื่อนที่ของวูฟเฟอร์ (Excursion) ทำให้ Canton เลื่อนความถี่ตัดต่ำ (Lower Cutoff Frequency) ของวูฟเฟอร์ลงได้อย่างมีประสิทธิภาพหนึ่งอ็อกเทฟ ทำให้ได้ครอสโอเวอร์ที่ลึกกว่า และเป็นเส้นตรงมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไปยังไดรเวอร์เสียงกลาง ซึ่งช่วยสนับสนุนบทบาทสำคัญของไดรเวอร์เสียงกลางในการบรรลุประสิทธิภาพการทำงานแบบบรอดแบนด์”
ลำโพง Canton ‘Reference Series’ ตั้งอยู่บนฐานรองสองส่วน โดย “Bass-Guide” จะวางอยู่บนช่องว่างระหว่างแผ่นฐานด้านล่างกับส่วนล่างของตู้ลำโพง ซึ่ง Frank Göbl ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคได้อธิบายว่า “การออกแบบนี้ผสานเบสรีเฟล็กซ์ พอร์ตเข้ากับตู้ลำโพง โดยทำงานบนหลักการรวมด้านหน้าและด้านหลังเข้าด้วยกัน กระแสลมจะถูกนำผ่านช่องที่เว้าเข้าไปในแผ่นฐาน โดยส่งไปยังด้านหน้าและด้านหลังของตู้ลำโพง วิธีนี้ช่วยให้เสียงเบสมีความเสถียรอย่างน่าทึ่ง ไม่ว่าลำโพงจะวางอยู่ในห้องใดก็ตาม” ได้รับการรองรับด้วยขาปรับระดับได้ พร้อมแผ่นดิสก์ (ไม่ใช่เดือยแหลม)
รูปลักษณ์ภายนอกของ Reference Series ที่ปรับปรุงใหม่ ทำให้ตู้ลำโพงมีความโค้งมนมากขึ้น กระทั่งพูดได้ว่า มีรูปทรงโค้งมนโดยรอบอย่างสมบูรณ์ ไม่มีเหลี่ยมมุม ณ ส่วนใดเลย รวมถึงแผงด้านหน้าและด้านหลัง ตัวตู้ทำจากแผ่นใยไม้อัดหลายชั้น (Laminated Ply) ที่ประสานติดกันแน่น ประกบด้วยวัสดุลดแรงสั่นสะเทือน (Damping Material) จากนั้นกดอัดเพื่อให้ได้รูปทรงโค้งตามต้องการ ข้อดีของตู้โค้งมนก็คือ การลดคลื่นสั่นค้างภายใน และให้ความแข็งแกร่งที่น่าประทับใจ ตัวตู้โค้งมนเหล่านี้มีให้เลือกสีสันตัวตู้ได้ 3 สี :- White Satin กับ Black Piano High-Gloss และ Walnut ดูเรียบหรู พร้อมตะแกรงหน้ากากผ้าที่ติดด้วยแม่เหล็ก ซึ่งโค้งมนเข้ากันกับตู้ลำโพง
แผงหลังตัวตู้ติดตั้งขั้วเสียบต่อสายลำโพงคุณภาพสูง ซึ่งเป็นของ WBT Nextgen และเป็นแบบ Bi-Wire โดยมี “สะพานต่อเชื่อม” ชุบทองอย่างดี (Gold-Plated Bridges) ให้มาด้วย ที่สำคัญ Reference 5 ยังมี “Physical Taps” จำนวน 2 ชุด ติดตั้งมาให้อีกด้วย เพื่อเอื้ออำนวยให้ผู้ใช้สามารถเพิ่ม หรือ ลดเอาต์พุตทวีตเตอร์ รวมทั้งมิดเรนจ์ได้+หรือ -1.5dB โดยเป็นอิสระจากกัน ซึ่ง Canton อธิบายว่า นี่คือเทคโนโลยี “การชดเชยห้อง” (Room Compensation หรือ RC) ซึ่งแน่นอนว่า ทั้งหมดเป็นแบบอะนาลอก
การปรับ “Physical Taps” ด้วยสะพานต่อเชื่อม (Bridges) จำนวนสองชุดที่แยกเป็นอิสระจากกันนั้น จะเป็นการเพิ่ม หรือ ลดระดับความดัง (เอาต์พุต) ของทวีตเตอร์และไดรเวอร์เสียงกลาง ด้วยการเพิ่ม หรือ ลดความต้านทานของครอสโอเวอร์ โดยที่เอาต์พุตของไดรเวอร์เสียงกลางสามารถปรับเปลี่ยนได้ในช่วง 100Hz-400Hz และระดับเอาต์พุตของทวีตเตอร์สามารถปรับได้ในช่วงเสียงแหลมเกือบทั้งหมด ระหว่าง 3kHz และ 20kHz
ซึ่งการปรับเพิ่ม หรือ ลดระดับความดัง (เอาต์พุต) ของทวีตเตอร์และไดรเวอร์เสียงกลางนั้น เพื่อให้ผู้ฟังได้ใช้สำหรับการปรับจูนลักษณะเสียงของ Reference 5 ให้เข้าได้กับ หรือ เหมาะเจาะลงตัวกับห้องฟังที่ Reference 5 ตั้งวางอยู่ เพราะนี่คือ การปรับ “ค่าชดเชยห้อง” (Room Compensation) ที่ Canton ออกแบบไว้ให้ผู้ใช้ได้ปรับตั้งค่าเหล่านี้ขึ้นอยู่กับห้องเป็นหลัก
ซึ่งหากคุณมีห้องที่สดสว่าง (Bright) และมีพื้นผิวแข็งที่สะท้อนเสียงได้มาก การปรับเสียงแหลมให้เบาลงเล็กน้อยอาจให้เสียงที่น่าฟังยิ่งขึ้น ในทางกลับกัน หากห้องที่คุณฟังมีพรม เฟอร์นิเจอร์ ผ้าม่าน และอื่นๆ ที่มีการดูดซับเสียงมาก คุณอาจพบว่าการเพิ่มเสียงแหลม 1.5 เดซิเบล นั้นเหมาะสมพอดี และการเพิ่มทั้งทวีตเตอร์และเสียงกลาง รวมถึงเพิ่มระดับเสียงเพียงเล็กน้อยก็สามารถช่วยควบคุมเสียงดั่งที่ต้องการได้ แต่กระนั้นบางห้องก็ไม่จำเป็นต้องทำการชดเชยใดๆ ดังนั้นการรับฟังอย่างระมัดระวังจึงเป็นสิ่งสมควรกระทำ เนื่องเพราะส่งผลต่อผลลัพธ์ทางเสียงที่รับฟังอย่างแท้จริง มิใช่เรื่องเล่นๆ
ผลการรับฟัง
ขอชี้แจงสักนิดนะครับว่า นี่เป็นการเดินทางมาฟังเทสต์นอกสถานที่ โดยได้ใช้โชว์รูมของ Innovative Audio Video Co.,Ltd. (IAV) ณ อาคารตั้งฮั่วปัก ละแวกหัวลำโพงในการรับฟังของผมครั้งนี้ ภายในโชว์รูมได้ซ่อนห้องฟังขนาดกว้าง 4.93 ม., ยาว 7.75 ม. และสูง 2.79 ม. โดยประมาณที่ได้รับการทรีตเมนต์สภาพอะคูสติกเอาไว้อย่างดี
…นับเป็นความประทับใจอีกครั้งสำหรับผมครับ กับการรับฟังหลากหลายรุ่นใน Reference Series ของ Canton รวมทั้ง Reference GS Edition ซึ่งในครั้งนี้ “Reference 5” ก็ยังคงตอกย้ำได้ถึงความโดดเด่นที่สำคัญในความเป็น Reference Series ที่แม้จะเป็นรุ่นรองน้องเล็ก ทว่าฤทธิ์เดชที่ “Reference 5” สำแดงออกมาให้ได้ประจักษ์นั้น ไม่ใช่เล็กๆ เลยครับ กลับได้รับบางอย่างที่ให้ความแตกต่างจากการรับฟังรุ่นใหญ่ใน Reference Series เป็นที่น่าทึ่ง
แต่เรื่องหนึ่งที่สำคัญและไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยก็คือ “ความกลมกลืนกัน” ของช่วงย่านเสียงกลาง/ต่ำที่เป็นเนื้อเสียงเดียวกันอย่างนวลเนียนไร้ตะเข็บช่วงรอยต่อ (Seamless) ทำให้รับฟังรายละเอียดต่างๆ ในช่วงย่านเสียงกลางที่แยกแยะรายละเอียดได้ดี ให้ความมีมิติ มีตัวตน กลมมน มีเนื้อมีหนัง ฟังเพลงร้องได้ด้วยความเพลิดเพลินใจ และยังสอดประสานเข้ากับช่วงภาระขับขานของทวีตเตอร์ได้อย่างเหมาะเจาะ เสียงกีตาร์-เสียงเปียโน-เสียงไวโอลิน-เสียงเครื่องสายทั้งหลายเรียกได้ว่าแทบจะมองเห็นเป็นเส้นสายที่กำลังสั่นไหวเลยเชียวละ
ในขณะที่ทวีตเตอร์แบบ BC (Black Aluminium Oxide Ceramic) ขนาด 1 นิ้ว ของ “Reference 5” สามารถส่งมอบบุคลิกเสียงที่สดใส ฉับไว เปล่งประกาย ให้ความกังวานของปลายหางเสียงสูงที่กระจ่างชัด และทอดตัวยาวไกล พร้อมๆ กับความฉ่ำชุ่ม นุ่มนวลอย่างเป็นธรรมชาติ ให้ความมีตัวตน มีชีวิตชีวา ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นเสียงนักร้อง หรือ เครื่องดนตรีชิ้นใดก็ตามจะถูกถ่ายทอดออกมาด้วยองค์ประกอบต่างๆ ได้อย่างเป็นธรรมชาติ
ส่วนในช่วงย่านเสียงต่ำของ “Reference 5” ก็ให้ความตราตรึงใจในเสียงเบสอันดื่มด่ำ สามารถตอบสนองลงไปได้ล้ำลึกอย่างแท้จริง มิใช่เป็นเพียงแค่ฮาร์โมนิกเสียง วูฟเฟอร์แบบ Black Ceramic Tungsten (BCT) ขนาด 6.82 นิ้ว จำนวน 2 ตัว ของ Reference 5 ให้การเคลื่อนตัวได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำในช่วงจังหวะเวลา สามารถผลักดันมวลอากาศให้เคลื่อนที่ได้เป็นปริมาณมาก เสริมเข้ากับระบบทำงานแบบ Bass-Guide® Bass Reflex System ทำให้ช่วงความถี่ต่ำที่ออกมาจาก Reference 5 นั้น รับฟังอย่างอิ่มเอมใจ
ทั้งยังเก็บตัวได้ไวไม่รุ่มร่าม ยืดขยายลงไปได้ลึกล้ำ ให้ความหนักแน่น และเปี่ยมในพลังกระแทกกระทั้น รับรู้ในเสียงเบสที่ให้ความกระชับในจังหวะจะโคน และยังสามารถติดตามท่วงทีลีลาของการไล่คอร์ดเบสได้อย่างมันในอารมณ์ สามารถแยกแยะเสียงเบสกับกลองกระเดื่องได้ด้วยน้ำหนักเสียงที่ต่างกันชัดเจน นอกเหนือจากเสียงเบสที่เปี่ยมในพละกำลัง ควบคุมตัวได้ดี และยังทิ้งทอดตัวลงไปได้ลึกล้ำเต็มที่อย่างแท้จริงดังที่บอกไว้ตอนต้นแล้วนั้น “Reference 5” ยังให้ไดนามิกเสียงอันฉับไว ให้ความกระชับ กระฉับกระเฉงในท่วงท่า-จังหวะจะโคนของดนตรี
ที่สำคัญ “Reference 5” ยังทำให้สัมผัสได้ถึงสภาพบรรยากาศ (Atmosphere) ในสถานที่ที่บันทึกเสียงนั้นๆ อีกทั้งสรรพเสียงต่างๆ ที่รับฟังล้วนมีความอบอุ่น อิ่มฉ่ำ ให้ความมีตัวมีตนของเสียง สมจริงสมจังอย่างเสียงที่ได้ยินได้ฟังในธรรมชาติ…ยิ่งรับฟัง ยิ่งยืนยันว่า Reference 5 ให้ความอิ่มเอิบ สดใส และฉับไวมากจริงๆ ครับ พร้อมกับสำแดงให้รับรู้ถึงสมรรถนะในการส่งมอบไดนามิกอันน่าประทับใจจริงๆ ให้ความละเมียดละไมของเสียงที่ดีมาก อ่อนหวาน กังวาน นวลนุ่ม และให้ความมีตัวตน เป็นลักษณะน้ำเสียงที่เปี่ยมในความมีชีวิตชีวา
“Reference 5” ส่งมอบท่วงทำนองดนตรีที่หนักแน่น แม่นยำ เข้มข้น รุกเร้า ไม่แช่มช้าฟังได้มันส์ซะใจ ถึงขั้นเรียกได้ว่า-ส่งมอบออกมาอย่างครบเครื่อง-ทั้งเรื่อง “แรงปะทะ” (Impact), “น้ำหนัก” (Weight) และ “ความไหลลื่น” (Dynamic) พร้อมๆ กับสร้างความประทับใจในสุ้มเสียงที่นวลเนียน ละเอียด สดใส ควบคู่ความฉับพลันทันใดกันเลยทีเดียว รับฟังรายละเอียดของเสียงเครื่องเคาะจังหวะได้ทุกเม็ดไม่มีพลาด ทั้งยังแยกแยะระยะความลึก-ใกล้-ไกลของแต่ละชิ้นดนตรีได้ดีมาก เหลื่อมไปทางซ้ายนิด เยื้องไปทางขวาหน่อย ไม่มีอาการซ้อนทับกัน
ซึ่งน่าจะเป็นอานิสงส์ที่ได้รับจากวงจรครอสโอเวอร์ชั้นดี ที่มีการตัดกรอง/แบ่งความถี่ช่วงเสียงต่ำเอาไว้ 2 ค่าด้วยกัน (170 กับ 3,000 เฮิรตซ์) ทั้งนี้เพื่อให้วูฟเฟอร์ 2 ตัว รับภาระในการขับขานความถี่ที่เสมือนว่าซ้อนทับกันอยู่ก็จริง ทว่าต่างกันอยู่ช่วงหนึ่ง ซึ่งวูฟเฟอร์ตัวบนจะรับภาระในการขับขานเป็นช่วงย่านความถี่ที่กว้างกว่าวูฟเฟอร์ตัวล่าง ส่งผลให้ได้มาซึ่งเสียงเบสตอนบน (Upper Bass) ราว ๆ 300 เฮิรตซ์ ขึ้นมาที่ “ไม่หนา” เกินไป แต่ยังคงไว้ซึ่งความอิ่มแน่น แผ่ใหญ่ และลึกล้ำยิ่งนักของเสียงความถี่ต่ำโดยรวม
“Reference 5” ส่งมอบเสียงเพลงและดนตรีได้อย่างอลังการสมความเป็นลำโพงระดับ Reference Series ของ Canton รับฟังแล้วช่างน่าชื่นใจยิ่งนัก โดยเฉพาะรายละเอียดเสียงเล็กๆ น้อยๆ ที่อุบัติขึ้นอย่างปุ๊บปั๊บ ฉับพลัน ไม่เพียงแค่ประกายเปล่งปลั่งของเสียงนะครับ การค่อยๆ จางหายไปของเสียงต่าง ๆ (Decay) ก็ถูกจาระไนออกมาได้ดีมาก ฟังสมจริงอย่างเป็นธรรมชาติ การแยกแยะระยะห่าง-ช่องว่างระหว่างชิ้นดนตรีก็มีความจะแจ้งมาก ให้ระดับความลึกที่เพิ่มขึ้นกว่าธรรมดาจากที่เคยรับฟัง รวมถึงความอวบอิ่มมีน้ำมีนวล และความมีตัวตนของทุกสรรพเสียง สามารถจำแนกรายละเอียดเสียงต่ำๆ อย่างลีลาการโซโลกลองได้ชัดเจนมาก ทั้งยังให้ความกลมกล่อม ละมุนละไม มีสภาพมวลบรรยากาศ (Airy) การบ่งบอกความลึกในเวทีเสียงก็ทำได้ดีมาก
หากเป็นการรับฟังจากแนวเพลงแสดงสด (Live) “Reference 5” จะส่งมอบบรรยากาศของฮอลล์ หรือสถานที่ที่ใช้แสดงนั้นได้อย่างอบอวลมาก เสียงปรบมือของผู้ชมเวลาชื่นชอบถูกใจในการแสดง ช่างยิ่งใหญ่โอฬาร!! และเกลี่ยระยะชัดลึกแผ่ออกไปไกลมาก ฟากซ้ายจรดฟากขวา ทั้งไม่จับตัวเป็นปึกเป็นก้อนนะครับ เรียกว่าแทบจะเห็นมือไหวๆเลยทีเดียว อีกทั้งยังทำให้รับรู้ได้ถึง “มวล” ที่มากขึ้น น้ำหนักเสียงเป็นตัวเป็นตนชัดเจนขึ้นทั้งเสียงร้องและของชิ้นดนตรี
“Reference 5” ได้ทำให้การรับฟังเพลงและดนตรีรับรู้ได้ถึงสิ่งต่างๆ ที่มีอยู่จริงจากสรรพเสียงที่กำลังรับฟัง รายละเอียดเสียงสารพัดพรั่งพรูออกมาอย่างจะแจ้ง สำแดงศักยภาพความเป็น 3 มิติของเสียงได้อย่างครบถ้วนโดยไม่ต้องใช้จินตนาการ ทั้งในแง่ความแผ่กว้าง-ความสูง และความลึกในสภาพซาวด์สเตจ พร้อมทั้งบรรยากาศห้อมล้อม หรือ Atmosphere อันอบอวลสมจริง ให้การรับรู้ได้ถึงเลเยอร์ในเวทีเสียง และสนามเสียงที่แผ่กว้าง-แยกแยะแถวชั้น-ตำแหน่งเสียงที่ไม่ซ้อนทับกัน และไม่มีเสียงใดๆ ที่ล้ำหน้าเกินกว่าแนวตำแหน่งตั้งวางลำโพงออกมา (Laid Back) บรรยากาศของโถงแสดงดนตรีเป็นอีกสิ่งที่ชัดเจนมาก ให้การรับรู้ถึงความโอฬารของสถานที่บันทึกเสียง พร้อมด้วยความกังวานของเสียงช่วยให้การรับฟังมีความอบอวลของมวลอากาศอย่างสมจริงในเหตุการณ์ที่รับฟัง
“Reference 5” จะทำให้คุณรับรู้ได้ถึงสเกลเสียงอันสมจริง ไม่ใหญ่-ไม่เล็กผิดไปจากสภาพอันเป็นจริงอย่างที่เราเคยได้ฟังเสียงนั้นๆ ในธรรมชาติ ด้วยขนาดเวทีเสียงที่แผ่กว้างเลยตำแหน่งตั้งวางลำโพงซ้าย-ขวาออกมาข้างละร่วมเมตร ซึ่งถ้าลองฟังกับแนวดนตรีแสดงสด คุณจะรู้สึกราวกับเข้าไปอยู่ท่ามกลางสภาพเสียงในเหตุการณ์จริง ณ ขณะนั้นเลยทีเดียวเชียวละ ยิ่งกว่านั้นทางด้านของเสียงร้อง (Vocal) ไม่ว่าชายหรือหญิงก็ฟังดูอิ่มเอิบ มีชีวิตชีวา ราวกับว่านักร้องนั้นกำลังปรากฏกายอยู่ท่ามกลางเสียงเพลงและดนตรีที่กำลังรับฟัง
“Reference 5” สามารถให้ช่วงย่านเสียงความถี่สูงอันพละพลิ้ว ลอยตัว เต็มเปี่ยมในความมีชีวิตชีวา และทิ้งทอดตัวได้ยาวไกล ในขณะที่ปลายหางเสียงสูงๆ อย่างฉิ่ง-ฉาบ-เหล็กสามเหลี่ยมก็เปี่ยมในความกังวาน-ยาวไกลไปสุดตัว และยังบ่งบอกเสียงลมพ่น-กัดหูน้อยๆ ของเครื่องดนตรีประเภท Brass และเสียงลมเป่า-เป็นละอองของเครื่องดนตรีประเภท Woodwind ได้เป็นธรรมชาติสมจริงมาก สามารถให้ความแจ่มชัด และสดสว่าง ควบคู่ด้วยความสะอาดสะอ้านของเสียง จนขอบอกว่า รู้สึกทึ่งมาก ด้วยว่าสามารถจับเสียงดนตรีโน่น-นี่-นั้นได้ถนัดหูราวกับมองเห็นเป็นตัวเป็นตนเลยทีเดียว
ต้องยอมรับครับว่า “Reference 5” ให้ความแม่นยำในท่วงท่า-จังหวะจะโคนของดนตรีได้ดีมากๆ รวมทั้งความสดสะอาด ความโปร่งกระจ่างก็ทำได้ดีเยี่ยมเช่นกัน…นี่คือ ลำโพงยุคใหม่ สมรรถนะสูงที่ให้คุณภาพเสียงได้ในระดับที่เยี่ยมยอด ภายใต้ระดับราคาที่นับว่า ไม่ไกลเกินคว้า พร้อมด้วยศักดิ์ศรีความภาคภูมิใจที่ได้ครอบครองมัน และรู้สึกปลื้มปิติใจในทุกครั้งที่รับฟังมัน ด้วยความเพลิดเพลินใจอย่างตราตรึงใจไปนานเท่านาน…
สรุปส่งท้าย
Reference 5 มีความสวยงามทั้งในด้านรูปลักษณ์และคุณลักษณ์ทางเสียง การออกแบบไดรเวอร์ที่สร้างสรรค์อย่างมีนัยสำคัญ ร่วมกับตัวตู้ลำโพงที่ประณีตระดับงานฝีมือของยุโรป ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นในหมวดหมู่ที่มีคู่แข่งมากมาย “Bass-Guide” ของ Reference 5 ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดวางในห้อง ทั้งยังสามารถทำการปรับเอาต์พุตในระดับเสียงสูงและกลางด้วย Room Compensation ของ Canton ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้อีกขั้นสำหรับการรับฟังที่เหมาะสมกับแต่ละห้องฟัง
การจัดวางตำแหน่งไดรเวอร์ของ Reference 5 วางวูฟเฟอร์คู่ 2 ตัว ไว้ที่ด้านล่าง ทวีตเตอร์อยู่ตรงกลาง และไดรเวอร์เสียงกลางอยู่ด้านบน ซึ่งการจัดวางแบบนี้ไม่ค่อยพบเห็นบ่อยนัก เมื่อเทียบกับการจัดวางทวีตเตอร์ไว้ที่ด้านบน ซึ่งทีมออกแบบของ Canton ได้อธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “ไดรเวอร์เสียงกลางมีหน้าที่หลักในการโฟกัสเชิงพื้นที่ (Spatial Focus) ควบคู่การแสดงภาพเวทีเสียง ด้วยเหตุนี้ Canton จึงมุ่งมั่นที่จะออกแบบให้มีแบนด์วิดท์กว้างที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ และวางตำแหน่งไดรเวอร์ให้เหมาะสมที่สุดสำหรับงานที่มีความสำคัญต่อการระบุตำแหน่งดังกล่าว”
ในความเป็นจริงเชิงประจักษ์ เสียงของ Reference 5 มีลักษณะที่หนักแน่น เปี่ยมในพลัง ซึ่งยังคงความเป็นธรรมชาติ แม้จะเปิดเร่งความดังมากๆ และยังสามารถรับรู้ได้ถึงจินตภาพเสียง รวมทั้งโฟกัสได้ดีอย่างคงเส้นคงวา และมีเลเยอร์ที่เหมาะสม…คงไม่มีใครปฏิเสธคุณภาพของการสร้าง หรือ แม้กระทั่งความชาญฉลาดของเทคโนโลยีต่างๆ ที่ Canton ได้บรรจุไว้ใน Reference 5 จนเป็นลำโพงที่สมควรได้รับการแนะนำ
ขอขอบคุณ : Innovative Audio Video Co.,Ltd. โทร. 02 238 4078-9 ที่อนุเคราะห์ CANTON : Reference 5 และสถานที่ในการรับฟังครั้งนี้
__________________________
