“เมื่อโลกไม่หมุนเป็นทรงกระบอกอีกต่อไป! ‘แผ่นเสียงแบน’
จากเบอร์ลิเนอร์ ที่เปลี่ยนโลก Hi-Fi ไปตลอดกาล”
ซีรีส์ “10 หมุดหมายแห่งโลก Hi-Fi” ตอนที่ 2
ในยุคที่ทอมัส เอดิสัน ปฏิวัติโลกด้วยกระบอกเสียงของ Phonograph โลกของเสียงบันทึกได้ถือกำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรก แต่ก็ต้องใช้เวลาอีก 10 ปี ก่อนที่ “เสียงที่ถูกบันทึกไว้” จะก้าวจากความน่าทึ่ง…สู่การใช้งานได้จริง
และผู้ชายที่เปลี่ยนเรื่องนั้นให้กลายเป็นจริง คือ Emile Berliner (อีมิล เบอร์ลิเนอร์) กับสิ่งประดิษฐ์ที่ชื่อว่า…Gramophone Disc หรือก็คือ “แผ่นเสียงทรงแบน” ที่เรารู้จักกันดีในทุกวันนี้

ทำไม ‘แผ่นเสียงแบน’ ถึงยิ่งใหญ่กว่าที่คุณคิด?
ย้อนกลับไปปี 1887 ในขณะที่ Phonograph ยังคงใช้กระบอกหมุนที่เสียงสั่นสะเทือนตามแนวตั้ง แต่ Emile Berliner มองเห็นข้อจำกัดของเทคโนโลยีนี้ เขาจึงคิดใหม่…ทำใหม่…
เปลี่ยนจากทรงกระบอก → เป็น แผ่นแบนแนวนอน
เปลี่ยนจากการขูดตามแนวตั้ง → เป็นการขูดแบบด้านข้าง (Lateral-cut)
และนั่นทำให้เสียงที่ได้ นิ่งกว่า เสถียรกว่า และชัดกว่า

5 จุดเด่น ที่ทำให้ Gramophone Disc กลายเป็นหมุดหมายที่ 2 ของโลก Hi-Fi
1. เสียงดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
วัสดุที่ใช้ในยุคแรกคือ ครั่ง (Shellac) และต่อมาก็คือ ไวนิล (Vinyl) ซึ่งให้เสียงที่ สะอาดกว่า และ คมชัดกว่า เมื่อเทียบกับกระบอกดีบุกของเอดิสัน ทำให้เพลงที่เล่นผ่านแผ่นเสียงใหม่นี้ ฟังง่ายขึ้น ชัดเจนขึ้น และ ‘มีชีวิต’ มากขึ้น
2. ระบบเสียงเริ่มเป็นมาตรฐาน
ก่อนหน้านี้ แต่ละค่ายทำแผ่นของตัวเอง เล่นกับเครื่องของตัวเอง แต่เมื่อ Gramophone Disc เข้ามา…โลกเริ่มเข้าสู่ยุคของมาตรฐานแผ่นเสียงแบบ 78 RPM กลายเป็นมาตรฐานทั่วโลกนานนับหลายสิบปี ก่อนจะพัฒนาต่อมาเป็น แผ่น LP (Long Play) ที่เล่นได้นานขึ้น และ แผ่น 45 RPM ที่ให้เสียงดีกว่า
3. เครื่องเล่นเริ่มฉลาดขึ้น
การมาของแผ่นเสียงแบน ทำให้เกิดการพัฒนาในตัวเครื่องเล่นเสียงด้วย หัวเข็ม (Stylus) ถูกออกแบบให้แม่นยำขึ้น โทนอาร์มปรับน้ำหนักเริ่มมีบาลานซ์ และระบบขยายเสียง (Amplification) ก็เริ่มเข้ามามีบทบาท ทำให้ “เสียงจากแผ่น” ฟังเพลินขึ้นเป็นเท่าตัว
4. ดนตรีเข้าถึงทุกบ้าน
จากเดิมที่การฟังเพลงยังเป็นของคนมีฐานะเท่านั้น การผลิตแผ่นเสียงในปริมาณมาก ทำให้ราคาถูกลง เข้าถึงผู้คนได้มากขึ้น และ วัฒนธรรมการฟังเพลงที่บ้าน ก็ถือกำเนิดขึ้นอย่างจริงจังบ้านไหนไม่มีเครื่องเล่นแผ่นเสียง ถือว่า…เอาท์!
5. รากฐานของเสียงดีในอนาคต
ไม่ว่าจะเป็น CD, ไฟล์ FLAC, หรือแม้แต่ระบบ Streaming ในวันนี้ ทุกอย่างล้วนยืนอยู่บนหลักการเดียวกันกับ Gramophone Disc นั่นคือ “การบันทึกเสียงให้มีคุณภาพสูง และเล่นซ้ำได้อย่างแม่นยำ”

บทสรุป: Gramophone Disc ไม่ใช่แค่แผ่น…แต่มันคือโลกใบใหม่ของเสียง
สิ่งที่ Emile Berliner สร้างขึ้นในปี 1887 ไม่ได้แค่เปลี่ยนรูปร่างของแผ่นเสียงจากกระบอกให้เป็นวงกลม แต่เขาได้ ‘วางรากฐาน’ ให้กับอุตสาหกรรมเพลง และ วาง “มาตรฐานแห่ง Hi-Fi” ให้โลกก้าวต่อไปได้ และนั่นคือ หมุดหมายที่ 2 บนเส้นทางของ Hi-Fi ที่เราใช้งานกันทุกวันในวันนี้
_____________________