เครื่องนี้น่าสน… Dynaudio “Arbiter” monoblock power amplifiers and preamplifier

0

Mongkol Oumroengsri

ความหมายของ Arbiter นั้น แปลความได้ว่า อนุญาโตตุลาการ, ผู้ตัดสิน, ผู้ชี้ขาด ดังนั้นจึงมีคำกล่าวว่า Dynaudio Arbiter, has been the best amplifier in the world through decades. (Dynaudio Arbiter เป็นเครื่องขยายเสียงที่ดีที่สุดในโลกตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา) ด้วยว่า Dynaudio ได้ตั้งใจอย่างมากในการสร้างสรรค์ Arbiter นี้ขึ้นมา เพื่อให้เป็น “ตัวชี้ขาด” ในบรรทัดฐานสำหรับวงการเครื่องเสียง ถึงขนาดยืนยันในเว็ปไซต์ของ Dynaudio เองว่า “A milestone in amplifier design” ซึ่งแปลความได้ประมาณว่า อีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญที่ต้องจารึกไว้ในการออกแบบเครื่องขยายเสียง

เป็นความจริงที่ว่า มีผู้คนในแวดวงน้อยมากๆ ที่รู้จักกับ Dynaudio Arbiter ซึ่งนี่คือ โครงการพิเศษของ Dynaudio (special Dynaudio project) ด้วยจุดประสงค์ของการสรรค์สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นอุปกรณ์ใช้งานในระดับอ้างอิง (Reference) สำหรับการออกแบบและทดสอบระบบลำโพงรุ่นใหม่ๆ ที่ Dynaudio กำลังจะก้าวต่อไป ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจอันใดที่ Arbiter จักได้รับการออกแบบในระดับที่ไร้ซึ่งบุคลิกเฉพาะตัว (characterless) และไม่จำกัดราคาต้นทุนในการออกแบบ-ผลิต (cost no object) ทั้งยังจงใจผลิตขึ้นมาจำนวนจำกัดเพียงแค่ 30 คู่เท่านั้น ด้วยราคาขายปลีก 240,000 ดอลล่าร์ในยุคสมัยนั้น

Arbiter เป็นผลงานสร้างสรรค์ที่ Dynaudio ได้ว่าจ้างให้ Michael Pavischitz จากประเทศเยอรมนี เป็นผู้รับผิดชอบทำการออกแบบ (ทั้งนี้มีข่าวลือว่า Michael Pavischitz มีส่วนเกี่ยวข้องในการออกแบบ Esoteric P-01 และ D-01 อีกด้วย)  ซึ่งปัจจุบัน Michael Pavischitz ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับ Dynaudio โดยได้ผันตัวไปเป็นบริษัทผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของตนเองภายใต้ชื่อ Horch Elektroakustik และได้ทำการสร้างแอมปลิฟายเออร์ โมโนบล็อคในระดับอ้างอิงที่ใช้ชื่อเรียกว่า Power Stage

คุณลักษณะหลายอย่างของ Arbiter นับเป็นจุดเด่นในการออกแบบเครื่องขยายเสียง และยังไม่มีใครเปรียบเทียบได้ แม้ว่า Arbiter นั้นได้รับการพัฒนาขึ้นมาเมื่อกว่า 20 ปีที่แล้ว ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา ผู้คนในวงการได้เห็นการก้าวกระโดดของหลายสิ่งหลายอย่างในการพัฒนาเทคโนโลยี รวมถึงนวัตกรรมต่างๆ อีกนับไม่ถ้วน อย่างไรก็ตาม แม้จะมีความก้าวหน้าเหล่านั้น ก็ยังยากที่จะหาเครื่องขยายเสียงสมัยใหม่ที่สามารถจับคู่กับ Arbiter ได้จนถึงทุกวันนี้ นี่คือ เรื่องจริง !!

ทั้งนี้ Dynaudio นั้นภาคภูมิใจใน เป็นอย่างมาก ถึงขนาดกล่าวว่า “กว่าสองทศวรรษมาแล้ว ที่ Dynaudio ในฐานะบริษัทผู้ผลิตลำโพงต้องการเครื่องขยายเสียงที่ดีที่สุดในโลก เพื่อใช้ในการอ้างอิงระบบลำโพงของเรา ซึ่งจนถึงทุกวันนี้ Arbiter ของเรายังคงไม่เหมือนกับแอมปลิฟายเออร์ใดๆ ที่เคยสรรค์สร้างขึ้นมา เรามุ่งมั่นเพื่อความสมบูรณ์แบบมาโดยตลอด และความทะเยอทะยานของเราคือ การสร้างลำโพงที่สร้างเสียงดนตรีได้อย่างแท้จริงมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เราต้องการให้ลำโพงของเราผลิตเสียงดนตรีให้ใกล้เคียงกับวิสัยทัศน์ของนักดนตรีมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”

ซึ่งในการออกแบบ-สร้างระบบลำโพง Dynaudio จำเป็นต้องมีแอมปลิฟายเออร์ชั้นสุดยอด เพื่อใช้ในการฟังทดสอบลำโพงโดยไม่ขึ้นกับข้อจำกัด หรือคุณลักษณ์ของเสียงในขั้นตอนการพัฒนา จากความต้องการดังกล่าว แนวคิดเบื้องหลังความเป็น Arbiter จึงถือกำเนิดขึ้น ด้วยเป้าหมายให้เป็น “เครื่องมือภายใน” เพื่อพัฒนาลำโพงด้วยคุณภาพเสียงดนตรีที่มีความถูกต้อง-แม่นยำสูงสุด

ทั้งนี้ Wilfried Ehrenholz ผู้ร่วมก่อตั้ง Dynaudio เป็นผู้นำทีมที่อยู่เบื้องหลัง Arbiter ได้กล่าวว่า:- “เราตั้งใจที่จะใช้อุปกรณ์ที่มีมาตรฐานสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ สำหรับการทดสอบการออกแบบลำโพงของเราอย่างสมบูรณ์ แอมปลิฟายเออร์ระดับไฮ-เอนด์ที่รู้จักทั้งหมด ล้วนได้รับการทดสอบเปรียบเทียบซึ่งกันและกัน ซึ่งทุกเครื่องล้วนมีข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพอย่างชัดเจน และฟังดูแตกต่างกันออกไป ดังนั้นการเล่นกลับหรือทำซ้ำที่แท้จริงของดนตรีคืออะไร? (But what was the true reproduction of music?) ซึ่งนั้นเราจึงถูกบังคับให้พิจารณาเทคโนโลยีทางเลือก (alternative technologies) และในท้ายที่สุด เราตัดสินใจว่า เราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องออกแบบเครื่องขยายสัญญาณอ้างอิงของเราเอง“

หลังจาก 3 ปีของการพัฒนา และต้นทุนการพัฒนาสูงกว่า 1.5 ล้านยูโร ชิ้นส่วนทั้งหมดของ Arbiter ได้ถูกนำมารวมกัน และเครื่องขยายเสียงระดับสุดยอดก็ถือกำเนิดขึ้น:- ให้คุณภาพเสียงที่สมจริงที่สุด ไม่มีบุคลิกจำเพาะตัว ไร้การเจือสีสัน และโปร่งใสที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยที่มิได้มีเป้าหมายของการพัฒนาขึ้นมาเพื่อการขายโดยเฉพาะ แต่เพื่อใช้เป็นแอมปลิฟายเออร์อ้างอิงสำหรับการสร้างสัญญาณที่สมบูรณ์แบบ

อย่างไรก็ตาม แม้ว่า เดิมที Arbiter ได้รับการพัฒนาเพื่อใช้เป็นการภายในเท่านั้น ทว่าด้วยความสนใจสำหรับแอมปลิฟายเออร์ชั้นสุดยอดนี้มีอย่างล้นหลาม จึงได้มีการตัดสินใจผลิตแอมปลิฟายเออร์ Arbiter รวมทั้งปรีแอมป์เข้าชุดกันในจำนวน 50 ชุดสำหรับประชาชนทั่วไป ซึ่งด้วยจำนวนการผลิตอันน้อยนิดทำให้ Arbiter กลายเป็นแอมปลิฟายเออร์สุดหายากยิ่งนักในชั่วเวลาไม่นานนัก และยังคงสามารถรักษามูลค่าไว้ได้สูงมากในตลาดมือสอง โดยที่ Arbiter ครบชุดในสภาพที่สมบูรณ์มีการซื้อขายกันสูงถึง 100,000 ยูโรเลยทีเดียว

ใครก็ตามที่ได้ดูข้างในของ Arbiter จะเห็นได้ชัดว่า Arbiter เป็นมากกว่าแค่ประวัติศาสตร์ เพราะมันอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีที่โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบที่ใช้พลังงานแบตเตอรี่, กำลังขับมากกว่า 1,000 วัตต์, ช่วงแบนด์วิดท์ที่กว้างมาก ครอบคลุมตั้งแต่เกือบ DC จนถึง 300kHz ทั้งยังเป็นหนึ่งในการควบคุมระดับความดังเสียง (volume control) ที่ซับซ้อนที่สุดเท่าที่เคยสร้างมานั่นเลยเชียวแหละ

ซึ่งด้วยการใช้พลังแบตเตอรี่ จึงทำให้ได้ผลลัพธ์ทางเสียงอันน่าประทับใจ Arbiter นั้นไซร้ไร้ซึ่งความผันผวนของแหล่งจ่ายไฟ (power supply) อย่างสิ้นเชิง ด้วยการหลีกเลี่ยงผลกระทบจากตัวกรองไฟหลัก (mains filters) ในส่วนปรีแอมป์ของ Arbiter ทำงานด้วยแบตเตอรี่แบบ lead-gel batteries ที่ชาร์จพลังงานก่อนใช้งาน ซึ่งสามารถใช้งานได้นานกว่า 12 ชั่วโมง พร้อมด้วยตัวเก็บประจุคุณภาพสูงขนาดใหญ่ที่มีความจุถึง 1 ฟารัด (farad) ช่วยให้มั่นใจได้ว่า Arbiter มีอิมพีแดนซ์ต่ำสุดของแหล่งจ่ายไฟ

แม้แต่ส่วนของเพาเวอร์แอมป์ Arbiter ก็ยังใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ในส่วนของอินพุต/ไดรเวอร์สเตจ (input/driver stage) โดยมีเพียงแค่ภาค current-delivery stage เท่านั้นที่ถูกป้อนโดยตรงจากแหล่งจ่ายไฟหลัก ซึ่งโหลดด้วยตัวเก็บประจุขนาดพิเศษ 400,000 ไมโครฟารัดในแต่ช่องสัญญาณ ทั้งนี้  Arbiter ยังมีการสำรองพลังงานที่สูงมาก ซึ่งตามมาตรฐานปัจจุบันวัดค่ากำลังขับต่อเนื่องได้มากถึง 1,072 วัตต์ที่ 4 โอห์มและ 620 วัตต์ที่ 8 โอห์ม โดยวัดค่าที่แบนด์วิดธ์ IEC เต็มช่วงความถี่ตอบสนอง 20Hz – 20kHz ในแต่ละช่องสัญญาณ ซึ่งนี่ย่อมหมายถึงพลังแรงขับแบบฉับพลันทันใด (dynamic power) ที่จะยิ่งสูงขึ้นกว่านี้อีกมาก

เมื่อพูดถึงเรื่องของแบนด์วิดท์ Arbiter นับว่า กินขาดคู่แข่งขันทั้งหมด เนื่องจากได้รับการออกแบบมาให้ไม่มีข้อจำกัดสำหรับสัญญาณของตัวมันเอง และให้ไดนามิกและค่าสลูว์ เรต (slew rates) ได้ถึงระดับอุดมคติ (ideal) ซึ่งหมายความว่า Arbiter เกือบจะแตะระดับ DC:- ด้วยช่วงแบนด์วิดท์ตั้งแต่ 0.3Hz ถึง 300kHz

Arbiter ยังมีความแม่นยำอันน่าพิศวง ด้วยการควบคุมระดับความดังเสียงอันล้ำสมัยและให้ความแม่นยำเป็นพิเศษ ด้วยการใช้โพเทนชิโอมิเตอร์แบบลอการิทึม (logarithmic potentiometer) ราคาแพงลิบที่ผลิตโดย British Penny & Gilesสำหรับแต่ละช่องสัญญาณ ซึ่งโพเทนชิโอมิเตอร์แบบลอการิทึมนี้จะถูกควบคุมโดยสเต็ปมอเตอร์ที่มีความแม่นยำสูง (precision stepmotor) ผลิตในสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งจะปรับระดับความดังเสียงด้วยความแน่นอน โดยใช้ second linear potentiometer ที่ปรับเทียบตามระดับอ้างอิง (reference level) ซึ่งจัดเก็บไว้อย่างปลอดภัยในเซลล์หน่วยความจำ EPROM ดังนั้นการควบคุมระดับความดังเสียงของ Arbiter จึงพูดได้ว่า เหนือชั้นกว่าแอมปลิฟายเออร์คุณภาพสูงอื่นใด เมื่อเทียบเคียงกันในด้านความแม่นยำ

Many more features

However, the Arbiter has much more than the above to offer:

  • Clean and fast response with a remarkably fast slew rate and TIM of only 0.0004%
  • The pre-amp Arbiter provides an S/N ratio of > 128dB,
  • Crosstalk of -110 dB @ 1kHz,
  • THD of 0.0003% with even on maximum output level a THD of only 0.005%,
  • Frequency bandwidth from 0 Hz to 6 MHz – no type here, that’s a zero, and Megahertz.
  • Maximum 120 ampere in each Arbiter mono-amp.

Preamplifier’s specs:

  • Pre-Amp Input impedance: 2000Ω (Balanced), 11000Ω (unbalanced) 14-47000Ω (Phono)
  • Output impedance: 100Ω (balanced), 50Ω (unbalanced)
  • each Output level (maximum): 17V (Balanced), 8.5V (unbalanced)
  • Frequency: 5Hz-100kHz (± 0.1dB)
  • THD level (maximum output): less than 0.005% S / N ratio: 128dB or more (line), 78dB or more (Phono)
  • Crosstalk:-127dB (100Hz),-110dB (1kHz),-92dB (10kHz)
  • Consumption power: 25W, 250W (max)
  • Size (WHD): 27.5×27.5×47.5cm
  • Weight: 80kg.

Poweramplifier’s specs:

  • Effective Output: 620W (8Ω), 1072W (4Ω), 1670W (2Ω) 
  • Frequency response: 0.3Hz-300kHz (-3dB) 
  • THD levels: less than 0.005% (8Ω) 
  • S / N ratio: 103dB or more 
  • Input Impedance: 2000Ω 
  • Input Sensivity 2,25V, 6,75V 
  • Damping Factor: 1000 or more (Output 1), 40 or more (output 2) 
  • Power consumption: 120W, 2000W (Max) 
  • Size (WHD): 27.5 × 80 × 67cm 
  • Weight: 140kg each