…อย่างที่ทราบกันดีว่า LS3/5a นับเป็นลำโพงยอดนิยมของวงการ มีประวัติสืบค้นย้อนหลังไปได้ยาวไกล ในยุค 70-80 จนเรียกได้ว่า เป็นหนึ่งในลำโพงมีตำนาน และกลับมาได้รับความนิยมในช่วงยุค 90 ต่อปี 2000 กระทั่งถึงปัจจุบัน แม้ว่า ในความเป็นจริง ลำโพงรุ่นนี้ มีเป้าหมายการออกแบบเพื่อการใช้งานเป็น Mobile Monitor ขนาดเล็กของ BBC ซึ่งถ้าจะเรียกขานให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ที่ BBC เป็นผู้กำหนด จะต้องระบุว่า ‘LS3 /5a’
BBC LS3 /5a Specifications
Description :
• Two-Way, Sealed-box, Stand-mounted loudspeaker.
• Drive-Units : 0.75″ (25mm) Mylar-dome tweeter, 4.5″ (110mm) Bextrene-cone woofer.
• Crossover Frequency : 3kHz.
• Crossover Slopes : not specified.
• Frequency Response : 80Hz-20kHz ±3dB at 1m with grilles on.
• Sensitivity : 82dB/W/m.
• Nominal Impedance : 16 Ohms (1977-1984); 10 Ohms (1989 onward).
• Amplifier Requirements : 50W maximum.
Dimensions :
• 12H by 7.5″ W by 6.25″ D.
• Enclosure Volume : 5 liters.
• Weight : 11.7 lbs each.
ประวัติศาสตร์
BBC Research Department ได้รับมอบหมายให้ทำการออกแบบลำโพงมอนิเตอร์ตัวน้อยขึ้นมา เนื่องจากไม่พบลำโพงขนาดเล็กซึ่งผลิตเชิงพาณิชย์ที่ตรงตามข้อกำหนดด้านความเป็นธรรมชาติ และความเป็นกลางของเสียงอย่างที่ BBC ต้องการ เพื่อใช้งานในการตรวจเช็คคุณภาพเสียงสำหรับบางรายการทีวีที่อยู่ในสถานการณ์บังคับมีขีดจำกัดด้านพื้นที่บริเวณใช้งาน ทั้งยังไม่เหมาะกับการใช้งานตรวจเช็คคุณภาพเสียงโดยหูฟัง (Headphones) อย่างเช่น ในห้องคอนโทรลของรถถ่ายทอดโทรทัศน์เคลื่อนที่ (TV Mobile Control-Room) ซึ่งโปรดิวเซอร์ต้องการตรวจเช็คคุณภาพเสียงของรายการต่าง ๆ ในขณะกำลังส่งออกอากาศตรงจากสัญญาณขาออกของ Sound Mixer ด้วยระดับความแรงสัญญาณที่ต่ำกว่าที่เคยใช้อยู่ในขณะผสมสัญญาณเสียง (Mixing) ทำให้เป็นความจำเป็นในการใช้งานลำโพงมอนิเตอร์ขนาดเล็กเท่านั้น
ทางฝ่ายวิศวกรรมของ BBC จึงได้รับมอบหมายให้ทำการคิดค้นและพัฒนาลำโพงมอนิเตอร์ตัวน้อยขึ้นมาในช่วงต้นทศวรรษ 1970 ซึ่งในขณะนั้นอยู่ภายใต้การดูแลของ Dudley Harwood จึงออกแบบลำโพงให้ได้มาซึ่งคุณภาพเสียงโดยรวมที่เป็นธรรมชาติ และมีช่วงไดนามิกที่ดี สำหรับการเป็นมอนิเตอร์การออกอากาศในพื้นที่จำกัด หรือนอกสตูดิโอโดยเฉพาะ ภายใต้ชื่อกำกับ LS3/5
โดยที่ชื่อผลิตภัณฑ์นี้มาจากหลักการตั้งชื่อของ BBC : คำว่า “LS3” หมายความว่า เป็นลำโพงที่ออกแบบมาเพื่อการออกอากาศนอกสถานที่ ต่างจากลำโพง “LS5” ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานเป็นมอนิเตอร์ในสตูดิโอ ตัวเลขหลังขีดคือ หมายเลขกำกับรุ่น ดังนั้น LS3/5 ก็คือ ลำโพงที่ออกอากาศภายนอกสตูดิโอลำดับที่ 5 ส่วนตัวอักษรที่ตามมาหมายถึง การเปลี่ยนแปลงจากข้อกำหนดเดิม ซึ่งในกรณีนี้มีเพียงหนึ่งครั้งหลังจาก LS3/5 ดังนั้นจึงเป็นตัวอักษร “a” ต่อท้ายรุ่น
ทั้งนี้การออกแบบ ‘LS3 /5’ ได้อ้างอิงกับผลงานการค้นคว้า-วิจัยที่มีอยู่ในมือของหน่วยงานฝ่ายวิศวกรรม BBC ได้กำหนดประเด็นสำคัญในความเป็น LS3/5 ให้มีช่วงค่าความถี่ตอบสนอง (Frequency Range) ที่เหมาะสมครอบคลุมในช่วงจาก 400 เฮิรตซ์ จนถึง 20 กิโลเฮิรตซ์ ภายใต้มิติตัวตู้ สูง12 นิ้ว กว้าง 7.5 นิ้ว ลึก 6.25 นิ้ว โดยที่ BBC Research Department ได้ทำการสร้าง LS3/5 ขึ้นมาทดลองและใช้งานจริงจำนวนหนึ่ง ซึ่งจากการวิเคราะห์พบว่า ลักษณะจำเพาะตรวจวัดในแนวแกน (Axial Response/Frequency Characteristic) ของ LS3/5 สามารถส่งมอบความถี่ต่ำลงมาได้ถึง 100 เฮิรตซ์ ด้วยคุณภาพเสียงที่มีความถูกต้อง-แม่นยำสูง กระทั่งเป็นที่ยอมรับในระดับใช้งานจริง เพื่อติดตั้งใน TV Mobile Control-Room
Rogers LS3/5a, “Subjective” Frequency Response.
ทว่าต่อมาทางบริษัทผู้ผลิตตัวขับเสียงที่ BBC Research Department ระบุเลือกใช้ (ซึ่งก็คือ KEF) ได้มีการปรับเปลี่ยนค่ารายละเอียดเฉพาะ (Specification) ของทั้งตัวขับเสียงต่ำ (KEF B110) และตัวขับเสียงสูง (KEF T27) ทำให้จำเป็นต้องมีการ Re-Design ลำโพงมอนิเตอร์ตัวน้อยนี้กันใหม่ (เฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของวงจรตัดกรอง/แบ่งช่วงความถี่) ภายใต้การดำเนินงานร่วมกับทาง BBC Designs Department จึงเป็นที่มาของ “LS3 /5a” ซึ่งได้รับการผลิตขึ้นใช้งานจริง โดยอยู่ในสายพานการผลิตของทั้ง BBC Equipment Department รวมถึงอีก 3 บริษัท ที่ได้ลิขสิทธิ์ในการผลิต (อย่างเป็นทางการ) ได้แก่ Swisstone, Rogers และ Chartwell ดังนั้น เรา-ท่านจึงรู้จักมักคุ้นกับ “LS3/5a” มากกว่า LS3/5 ที่ได้รับการจัดทำขึ้นในจำนวนจำกัด
จุดเริ่มต้นความลือเลื่องของ LS3/5a มาจากเมื่อแรกออกตลาด และถูกนำไปจำหน่ายในอเมริกา ด้วยกิตติศัพท์จากคนอเมริกันที่เคยไปอังกฤษ ได้ให้ทัศนะว่า สถานีวิทยุของ BBC นั้น พิถีพิถันในการส่งกระจายเสียงด้วยคุณภาพที่สูงมาก-ดีกว่าของทางอเมริกา ทำให้ LS3/5a ซึ่งระบุชัดเจนว่า BBC Monitor Speakers เป็นที่สนใจ รวมถึง J.Gordon Holt (Justin Gordon Holt ชาตะ 1930 มรณะ 2009) ที่เป็นวิศวกรเสียง และเป็นผู้ก่อตั้งนิตยสาร Stereophile ทั้งยังเป็นนักวิจารณ์เครื่องเสียงระดับแถวหน้าของวงการ (ในช่วงเวลานั้น) ก็ได้นำเอา “LS3/5a” มาวิพากษ์วิจารณ์ในนิตยสาร Stereophile ทว่าไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร ด้วยความที่เมื่อคนอเมริกันชนเห็นรูปลักษณ์ที่ดูสุดแสนธรรมดา ไม่หวือหวา ขนาดตู้ก็เล็กกระจ้อยร่อย (จนถูกเหยียดว่า Shoebox-กล่องใส่รองเท้า) เทียบกับราคา 430 เหรียญต่อคู่ในยุคนั้น (1977) จึงรู้สึกว่า แพงเกิน กอปรกับไม่มีการทำตลาดอย่างจริงจัง “LS3/5a” ก็เลยไม่เป็นที่ประสบความสำเร็จสักเท่าไรนักต่างจากในยุคปัจจุบันที่ “LS3/5a” สภาพดี ๆ สวยสมบูรณ์จริง ๆ นั้นมีราคาสูงเกือบหมื่นเหรียญ!!
ทั้งนี้ BBC ได้ให้สิทธิ์การใช้งานแก่บริษัทสัญชาติอังกฤษจำนวนหนึ่ง ซึ่งผลิตผลิตภัณฑ์นี้เป็นครั้งแรกในปี 1975 ทว่าผลิตภัณฑ์นี้มีการเปลี่ยนแปลงในปี 1987 เนื่องจากปัญหาความสม่ำเสมอในการผลิต จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนวงจรตัดกรอง/แบ่งช่วงความถี่ใหม่ให้เข้าได้กับชุดตัวขับเสียงใหม่ ที่ความต้านทานโดยรวมของครอสโอเวอร์ลดลงเหลือ 11 โอห์ม จากเดิม 15 โอห์ม และอีกครั้งในราวปี 2003 จากสภาวการณ์ที่ทาง KEF ที่เป็นบริษัทผู้ผลิตไดรเวอร์ได้ยกเลิกการผลิตตัวขับเสียงที่ใช้อยู่ใน ‘LS3/5a’ ส่งผลให้ชิ้นส่วนแท้จาก KEF หมดลง จนต้องยุติการผลิตลำโพงรุ่นนี้ไป โดยได้มีการประเมินว่า ‘LS3/5a’ มียอดจำหน่ายมากกว่า 60,000 คู่ หรืออาจจะถึง 100,000 คู่เลยทีเดียว
เนื่องจากชิ้นส่วนต่างๆ ถูกยกเลิกไป LS3/5a จึงถึงจุดสิ้นสุดในทางเทคนิค ทว่ามีผู้ได้รับอนุญาตบางรายยังคงผลิตลำโพงจำนวนเล็กน้อยต่อไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง โดยใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตใหม่ หรือว่า เทียบเคียงกัน อย่างไรก็ตาม Stirling Broadcast ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ได้รับอนุญาตกลุ่มสุดท้าย ได้ออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งหมดโดยอิงจาก “ลายเซ็นเสียง” ของต้นฉบับ และเปิดตัว ‘LS3/5a v2’ พร้อมการรับรองเต็มรูปแบบจากผู้แพร่ภาพกระจายเสียงในช่วงต้นปี 2006 ต่อมาในปี 2014 ทาง Falcon Acoustics ได้เริ่มการผลิต LS3/5a เวอร์ชัน 15 โอห์ม พร้อมใบอนุญาต BBC เต็มรูปแบบอีกครั้ง โดยใช้เวอร์ชันที่ออกแบบใหม่ของไดรฟ์ยูนิตดั้งเดิม พร้อมกับครอสโอเวอร์ BBC ดีไซน์ดั้งเดิม ซึ่งผลิตภายในบริษัท Falcon Acoustics เองทั้งหมด
ทั้งนี้นักวิจารณ์ต่างตระหนักถึงความสำคัญอย่างยิ่งยวดของ LS3/5a ในฐานะการออกแบบลำโพงมอนิเตอร์ขนาดเล็กระดับยอดเยี่ยมของโลก…แม้ว่า LS3/5a จะเป็นลำโพงตัวกระจ้อยร่อยฉายาเรียกขาน ‘Shoe Box’ Monitor ที่ได้รับการยอมรับว่า ให้เสียงดี-มาก แต่นี่ก็มิใช่ว่าจะเป็นลำโพงเสียงมหัศจรรย์ บางคนอาจต้องหาซับวูฟเฟอร์มาช่วยเสริมช่วงเสียงเบส ความถี่ต่ำกว่า 100 เฮิรตซ์ ของมันซะด้วยซ้ำ ทว่า LS3/5a ก็กลายเป็นตำนานแห่งลำโพงตัวจ้อย ที่ใครต่อใครในวงการผู้ผลิตลำโพงต่างดำเนินรอยตาม วิศวกรและนักออกแบบของบริษัทผู้ผลิตลำโพงชั้นนำต่างหนีไม่พ้นที่จะต้องเคยผ่านประสบการณ์การฟัง LS3/5a บางคนอาจถึงขั้นหลงใหลมันเสียด้วยซ้ำ กระทั่งพูดได้ว่า LS3/5a คือ ลำโพงที่กลับฟื้นคืนชีพ-LS3/5a Never Die!
ด้วยความที่ LS3/5a เป็นลำโพงขนาดเล็ก ปริมาตรภายในแค่ 5 ลิตร จึงมีเสียงปลอมปนจากตัวตู้ที่น้อยมากๆ เนื่องจากแทบจะไร้ซึ่งการสั่นกระพือของผนังตัวตู้ทุกด้าน บวกกับระบบตัวตู้ที่ปิดสนิทแบบ Sealed Box จึงไร้ซึ่งเสียงปรับจูนของท่อเปิด (Port) มาช่วยเสริมช่วงเสียงความถี่ต่ำ “LS3/5a” จึงให้เสียงอันเที่ยงตรง-แม่นยำ สมศักดิ์ศรีลำโพงมอนิเตอร์ชั้นดี ซึ่งก็คงต้องยกความดีเด่นให้กับความเก่งฉกาจของ BBC Research Department ที่เป็นจุดตั้งต้นของความเป็นตำนาน
Clone ร่วมสมัย
ความดีเด่นของ LS3/5a นับเป็นความท้าทายของบริษัทผู้ผลิตลำโพงชื่อดังหลากหลายแบรนด์ (…ที่ว่ากันว่า YAMAHA : NS-10 ก็ได้รับแรงบันดาลใจจาก LS3/5a นี่แหละ) รวมทั้ง DIYer อีกมากมายทั่วมุมโลกที่จะสร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่ เพื่อท้าชนกับ LS3/5a ต้นตำรับ แม้แต่ SixSoul ที่พัฒนาโดย Mr.Tan Boon Fong-DIYer หัวก้าวหน้า ที่มีสารพัดวิชาอัดแน่นอยู่ในตัว ทั้งนี้ “SixSoul” เป็นแบรนด์ที่น่าสนใจในแนวทาง DIY ซึ่งถือกำเนิดขึ้นเมื่อสิบกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากความไม่ถูกใจในแนวเสียงของอุปกรณ์เครื่องเสียงที่มีขายอยู่ในท้องตลาด ด้วยความที่ Mr.Tan Boon Fong เป็นนักออกแบบชาวมาเลเซียที่มีโอกาสได้ศึกษาวิชาการด้านออกแบบเครื่องเสียง จนถึงขั้นแตกฉานในญี่ปุ่น ทำให้มีโอกาสได้คลุกคลีกับหลากหลายแนวคิดและหลายหลากแนวทางของนักเล่น DIY ซึ่งมักจะแตกต่างจากผู้ผลิตแบรนด์ต่างๆ ในแวดวงธุรกิจเครื่องเสียง
จริง ๆ แล้ว SixSoul นั้น มีผลิตภัณฑ์สารพัดอย่างจากแนวคิดของ Mr.Tan Boon Fong ในแบบฉบับ ‘ไม่ซ้ำใคร’ ครอบคลุมทั้งชุดเครื่องเสียงหลอดสุญญากาศ และระบบลำโพง ตั้งแต่อินทิเกรตแอมป์, ปรีแอมป์ และเพาเวอร์ แอมป์ (ทั้งสเตริโอ แอมป์ และโมโนแอมป์) ส่วนระบบลำโพงก็มีสารพัดรูปแบบ ขนาดเล็กขนาดใหญ่ ทั้งที่เป็นแบบฟูลเรนจ์, แบบหลายทาง (Multi-Way), ระบบตู้ปิด-ตู้เปิด และแบบฮอร์น โหลดดิ่ง…เห็นแล้วล้วนโดดเด่นสะดุดตาสำหรับคอ DIYer
SixSoul-we customize single ended amplifier, vintage tube hybrid amplifier, OTL amplifier and everything with you need in reasonable prices & specs. Unique designed audio set up.
ผลงานที่ผ่านมาของ Mr.Tan Boon Fong นั้น นับว่า เป็นที่สะดุดตาสื่อต่างประเทศอย่าง HiFi PiG ได้มาทำข่าวและนำเสนอเรื่องราวของ “Get In The Pink With This Amazing Horn And Tube System From Bangkok” ซิสเต็มสีชมพูสวยสะดุดตาทั้งชุดของ Six Soul ถึงในประเทศไทย (งาน DIY Audio & Vintage Audio ครั้งแรก เมื่อช่วงปี 2023) ทั้งนี้ Mr.Tan Boon Fong ได้วางเป้าให้ผลิตภัณฑ์ SixSoul ไปโชว์ตัวโชว์เสียงที่งานโชว์ไฮ-เอนด์ระดับโลกที่กรุงเวียนนาในปีหน้า
…แน่นอนว่า Mr.Tan Boon Fong ในฐานะ DIYer ที่มากประสบการณ์ย่อมต้องมีความสนใจใน LS3/5a และใฝ่หาความรู้ที่เกี่ยวข้องกับความเป็น LS3/5a โดยเฉพาะในเรื่องของวงจรครอสโอเวอร์ เน็ตเวิร์ก ซึ่งถือเป็นหัวใจในการทำงานของระบบลำโพง และยิ่งเน็ตเวิร์กสำหรับ ซึ่งนับว่ามีเอกลักษณ์เฉพาะ ย่อมต้องมีเคล็ดลับในแบบฉบับ SixSoul
ทั้งนี้ Mr.Tan Boon Fong บอกว่า เขาได้ทำการออกแบบและพัฒนา LS3/5a ในแนวทางของตัวเขามาแล้วหลายรุ่น ซึ่งรุ่นที่ส่งมาเข้ารายการรีวิวของ What Hi-Fi? Thailand นี้นับเป็นเวอร์ชันล่าสุด และได้รับการออกแบบ ครอสโอเวอร์ เน็ตเวิร์ก อย่างรอบคอบที่สุดยิ่งกว่าทุกเวอร์ชันที่ผ่านมา รวมถึงเรื่องของตัวขับเสียง ที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างดี ยิ่งกว่าที่เคย แม้จะไม่ได้เหมือนเป๊ะ…แต่ก็เป็นไดรเวอร์ที่มี “เค้าลาง” ซึ่งให้ค่าพารามิเตอร์ต่าง ๆ ใกล้เคียงกับแบบฉบับความเป็น LS3/5a
SixSoul : LS3-5A Basic Parameters :-
Impedance : 8 Ohms
Frequency RP : 50-20kHz
Rated Power : 25W
FDP : 3kHz
Sensitivity : 86dB
Enclosure : Sealed
Weight : 10.2kg/Pair
Tweeter Resonance : 1,120Hz
Mechanical Q : 8.5
Electrical Q : 1.51
Total Q Factor : 1.28
Effective Diaphragram : 19
Effective Piston : 2.83 cm/S
Sensitivity : 85dB
DC Resistance : 6.8 Ohm
Maximum Impedance : 9 Ohm
Voice-Coil Induct : 0.08 mH
Mid/Low : Polyurethane Coated Thin Paper Cone
Resonance : 53 Hz
Mechanical Q: 2.39
Electrical Q : 0.34
Total Q Factor : 0.3
Force Factor : 6.22
Effective Diaphragm : 109 mm
Equivalent Volume : 14.52
Sensitivity : 90dB
DC Resistance : 6.8 Ohm
MAX Impedance : 42 Ohm
Min Impedance : 9.6 Ohm
Nominal Impedance : 7 Ohm
Voice Coil Induct : 0.15 mH
Voice Coil Diameter : 26 mm
Voice Coil Height : 15 mm
Voice Coil Layers : 2
ความเป็น LS3/5a ในแนวทางของ SixSoul
สำหรับ SixSoul : LS3/5a นั้นมีระบบทำงานแบบ Acoustic Suspension หรือ Sealed Box ระบบตู้ปิดสนิทนั่นเองครับ ตามแบบฉบับดั้งเดิมของความเป็น LS3/5a ที่มีปริมาตรภายในราว ๆ 5 ไม่น่าจะเกิน 6 ลิตร ทั้งนี้ Mr.Tan Boon Fong บอกว่า เขาไม่ได้เลือกใช้ตัวขับเสียงอย่างเจาะจงลงไปเป็นการเฉพาะ หากแต่ได้ทำการโมดิฟายด์ตัวขับเสียงที่ได้เลือกใช้นั้นในหลายส่วนตามแนวทางความคิดของตัวเขาเอง โดยที่แนวทางการโมดิฟายด์ของเขานั้น มาจากการลองผิดลองถูกจนจับทางได้ และนำมาสู่การปรับปรุงผลลัพธ์ทางเสียงได้อย่างที่ตัวเขาต้องการ อย่างที่มีความแตกต่างจากตัวขับเสียงที่มีจำหน่ายแบบ On The Shelf ในท้องตลาดทั่วไป
ทวีตเตอร์ที่ใช้นั้นเป็นแบบ Soft Dome ขนาด 5 นิ้ว จับคู่การทำงานร่วมกับมิดเรนจ์/วูฟเฟอร์ขนาด 5 นิ้ว วัสดุตัวกรวยเป็นแบบ Polyurethane Coated Thin Paper Cone เพื่อเป็นการแดมป์ตัวกรวยกระดาษ ที่มีมวลต่ำ เพราะบางมาก เนื่องจากต้องการความเบาของมวลไดอะแฟรม เพื่อความฉับไวในการขยับขับเคลื่อนตัวกรวย เป็นการช่วยลดอาการเบรก-อัปของตัวกรวย ส่งผลให้ได้เสียงที่เรียกได้ว่า การตอบสนองทางเสียงที่ราบเรียบตลอดช่วงย่านความถี่ตอบสนองตั้งแต่ 50Hz-20kHz โดยมีจุดตัดกรอง/แบ่งช่วงความถี่กำหนดไว้ที่ 3,000Hz ภายใต้ค่าความไวเสียง 86dB มีค่าอิมพีแดนซ์ปกติอยู่ที่ 8 Ohms รองรับกำลังขับเหมาะสม 25 วัตต์ น้ำหนักโดยรวม 10.2 Kg/Pair
“SixSoul : LS3/5a” ที่ผมกำลังจะรีวิวนี้คือ เวอร์ชัน “ปรับปรุง” ของ SixSoul : LS3/5a ที่ได้ไปเปิดตัว-โชว์เสียงกันในงาน BIAV SHOW+SALES 2025 ที่ผ่านมานั่นเองละครับ โดยรูปลักษณ์ยังคงเหมือนกัน ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร หากแต่ในส่วนของตัวขับเสียงทั้งทวีตเตอร์และมิดเรนจ์/วูฟเฟอร์นั้น-ไม่ใช่ของเดิม รวมทั้งวงจรครอสโอเวอร์ เน็ตเวิร์กที่แน่นอนว่า ต้องมีการปรับเปลี่ยนใหม่ ให้การทำงานของทั้งสองไดรเวอร์มีความเหมาะเจาะสอดคล้องกัน
ทั้งนี้ Justine Gordon Holt (JGH) ได้เคยระบุไว้ใน Stereophile ว่า “ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ในกรณีของ LS3/5a ได้ถูกใช้ไปกับอีควอไลเซอร์อันซับซ้อน (Complex Equalizer) และครอสโอเวอร์ที่ปรับแก้ค่าเฟส (Phase-Corrected Crossover) ซึ่งเข้าทางกับเอกสาร ‘The design of the miniature monitoring loudspeaker type LS3/5a’ ของทาง BBC Research Department ในหัวข้อ Equalizer/Crossover Network
วงจรครอสโอเวอร์ดังกล่าวทำการอีควอไลเซชัน (กด/ยกความถี่เสียงเพื่อปรับตั้งความสมดุลเสียง) ทั้งในช่วงความถี่สูงและช่วงความถี่ต่ำ โดยมีชิ้นส่วน 13 องค์ประกอบ (13-Element) ใช้อยู่ในเน็ตเวิร์ก ประกอบด้วยขดลวดเหนี่ยวนำ (Inductor) จำนวน 1 ตัว สำหรับส่วนเสียงแหลม ที่ปรับค่าได้ 7 ตำแหน่ง เพื่อให้สามารถปรับให้เข้ากับระดับความไวช่วงเสียงกลาง-เสียงแหลมของมิดเรนจ์/วูฟเฟอร์ได้อย่างลงตัว ซึ่ง BBC เองยังยอมรับว่า การออกแบบ LS3/5a นั้นซับซ้อนยิ่งนัก ต้องใช้ทักษะการออกแบบระดับสูง ร่วมกับการใช้อุปกรณ์ราคาแพง เพื่อให้ได้มาซึ่งส่วนผสมที่ดีที่สุด (The Finest)
ตามแบบฉบับของลำโพงแบบ ตู้ปิดผนึก (Sealed-Box Speakers) ทั้งยังมีตัวตู้ขนาดเล็กกะทัดรัด อย่างเช่น LS3/5a จึงให้เสียงเบสช่วงต่ำไม่มากนัก หรือ ถึงกับไม่มีเลย แต่การออกแบบได้ “เสริมพลัง” ช่วงความถี่เสียงต่ำ ด้วยการยกระดับ (Boost) ที่ประมาณ 160Hz ขึ้นมากว่าปกติ ทำให้มีความรู้สึกรับรู้ว่า ลำโพงมีปริมาณเสียงเบสที่มากขึ้น พร้อมๆ กับการค่อยๆ ยกระดับอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วงตอบสนองความถี่ที่สูงกว่า 5kHz ทำให้มีการจับสังเกตว่า เสียงแหลมมีความแจ่มจรัส (Bright) เล็กน้อย หรืออาจทำให้ลำโพงนี้บ่งบอกความหยาบกร้านในช่วงปลายๆ เสียงแหลมของแอมปลิฟายเออร์แบบโซลิด-สเตตอย่างไร้ความประนีประนอม (ทำให้การใช้งานร่วมกับแอมป์หลอดสุญญากาศน่าจะเหมาะสมกว่า) ทั้งนี้คุณสมบัติการส่งมอบเสียงกลางที่ชัดใส สดสะอาด บวกกับความแม่นยำ และความนิ่งสนิทของการบ่งบอกจินตภาพเสียง (สเตริโอ อิมเมจ) นับเป็นคุณสมบัติที่น่าชื่นชมอีกด้วย…ซึ่งนี่คือ “เคล็ดลับแห่งเสียง” อันเป็นแบบฉบับเฉพาะของความเป็น LS3/5a แม่แบบแห่งมอนิเตอร์ขนาดกะทัดรัด
คุณลักษณ์ทางเสียง
ทั้งนี้ทาง SixSoul ได้จัดส่ง LS3/5a ที่ผมกำลังจะรีวิวนี้มาในแบบที่ยังไม่พ้นระยะเบิร์น-อิน และมาพร้อมกับขาตั้งวางลำโพงที่ได้รับการออกแบบมาเข้าคู่กัน ซึ่งระยะเวลาที่กำหนดส่งคืนนั้น ไม่พอที่จะทำให้การรับฟังของผมที่ห้องฟังของ What Hi-Fi? Thailand ได้รับอะไรต่อมิอะไรได้อย่างเต็มที่นัก แต่กระนั้น “SixSoul : LS3/5a” ก็ได้ทำให้ผมรู้สึกประทับใจในช่วงย่านเสียงกลางที่ราบเรียบ มีเนื้อมีหนัง กลมกล่อมอย่างน่าฟัง…ฟังได้นานต่อเนื่องหลายชั่วโมง โดยไม่รู้สึกเพลียสมอง หรือล้าหู ซึ่งในความราบเรียบของช่วงย่านเสียงกลางนั้น ก็สามารถบ่งบอกรายละเอียดต่างๆ ให้รับรู้ได้ดีมาก
ซึ่งด้วยความที่ “SixSoul : LS3/5a” ยังคงมีการทำงานในแบบตู้ปิด ทำให้การตอบสนองความถี่ต่ำมีข้อจำกัด อันเนื่องมาจากขนาดกะทัดรัด หากปล่อยให้มีความถี่เสียงต่ำเล็ดรอดออกมามาก (เกินไป) นัก ย่อมส่งผลต่อเสียงโดยรวมในแง่ของความผิดเพี้ยนทางเสียง (THD) ที่เพิ่มขึ้น เฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเสียงกลาง ที่อาจกลายเป็นหยาบ สากกร้าน ขาดซึ่งความละมุนละไม ส่งผลให้ เสียงโดยรวมไม่น่าฟัง ดังนั้นจึงจำเป็นต้อง “จำกัด” ขอบเขตช่วงความถี่ตอบสนองช่วงเสียงต่ำเอาไว้ (บ้าง) มิให้ตัวขับเสียงมิดเรนจ์/วูฟเฟอร์ขนาด 5 นิ้ว ต้องรับภาระเกินไปนัก จนต้องผจญกับสภาวะ Over Excursion
แม้ว่า “SixSoul : LS3/5a” จะได้รับการระบุค่าสเปกฯ เอาไว้ว่า 50Hz-20kHz โดยมีจุดตัดกรอง/แบ่งช่วงความถี่กำหนดไว้ที่ 3,000Hz เพื่อให้ตัวขับเสียงมิดเรนจ์/วูฟเฟอร์รับภาระขับขานตั้งแต่ประมาณช่วงความถี่ 3,000Hz ลงมา จนกระทั่งความถี่ต่ำลงมาได้ที่ 50Hz ซึ่งนับว่า เป็นช่วงย่านที่กว้างพอสมควร แต่ก็นับว่า ไม่ได้เกินภาระการทำงานของตัวขับเสียงมิดเรนจ์/วูฟเฟอร์ขนาด 5 นิ้ว ที่เลือกใช้
แต่เนื่องจาก “มวลอากาศ” ที่ถูกปิดผนึกอยู่ภายในตู้ที่ปิดสนิทของ “SixSoul : LS3/5a” ยังไม่ได้ปรับสภาพความเป็นสปริง หรือว่า Suspension อย่างเต็มที่ (นัก) เนื่องจากยังไม่พ้นระยะการเบิร์น-อินอย่างที่กล่าวข้างต้น…ผมจึงยังไม่ได้รับฟังช่วงความถี่ต่ำลงมาลึกกว่า 100 หรือ 80Hz จาก “SixSoul: LS3/5a” อย่างที่ควรจะเป็นตามการออกแบบ ซึ่งได้ระบุไว้ในสเปกฯ ของ Mr.Tan Boon Fong
แต่กระนั้น เมื่อเปิดเพลงที่มีเบสต่ำๆ ซ่อนอยู่ อย่างบางเพลงในอัลบั้ม Sound of China, The Greatest Basso, Breaking Silent, Happy Trails, 2L, etc. ก็ยืนยันว่า รับรู้ได้ถึงการทอดตัวของเบสลึกๆ (Bass Extension) แม้ปริมาณ (ยัง) จะไม่มากนัก ขนาดหนักแน่นอย่างที่ควรจะเป็น (?)…พิจารณาจากค่า Total Q Factor ที่กำหนดว่า 1.28 ซึ่งนับเป็นค่าที่อยู่ในเกณฑ์ต่ำ จึงอนุมานได้ว่า ไม่ได้เน้นเบสให้หนักแน่น หรือ เข้มข้นมากนัก แต่ให้การยืดขยาย หรือ ทิ้งทอดตัวของเบส เพราะเบสเก็บตัวได้เร็วมาก เนื่องการใช้มวลอากาศภายในตัวตู้ในการควบคุมรูปแบบการขยับขับเคลื่อนไดอะแฟรม ในแง่ของการหยุด-ยั้งตัวกรวยลำโพง
ซึ่งนี่ละครับ นับว่า เป็น ‘เกร็ด’ เล็กๆ ที่เปิดเผยได้ในการออกแบบ “LS3/5a” ของ SixSoul แม้ว่า เราจะไม่รู้ว่า มีลักษณะการปรับค่าอีควอไลเซชัน เป็นลักษณะไหน? Boost และ Cut ความถี่เสียงใด-อย่างไร? ซึ่งถือว่า เป็น “เคล็ดลับเฉพาะ” ของการปรับจูนแนวเสียงตามที่ SixSoul ต้องการ
อนึ่ง เนื่องจาก “SixSoul : LS3/5a” เป็นลำโพงขนาดเล็ก ดังนั้นจำเป็นต้องให้ความใส่ใจในเรื่องของการตั้งวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านความสูงของขาตั้งที่จะนำมาใช้งานร่วมกับ “SixSoul : LS3/5a” ซึ่งดูจะเหมาะเจาะลงตัวกับขาตั้งที่ (ควร) มีความสูง 24-26 นิ้ว ซึ่งจะทำให้แนวระดับกึ่งกลางแผงหน้าตู้ระหว่างตำแหน่งของทวีตเตอร์กับมิดเรนจ์/วูฟเฟอร์ของ “SixSoul : LS3/5a” อยู่ในแนวเดียวกับ หรือว่าใกล้เคียงกับระดับหู เมื่อเรานั่งฟังบนเก้าอี้ หรือ โซฟา
แน่นอนว่า ความแข็งแรงทางโครงสร้างของขาตั้งที่เลือกใช้ ก็มีผลต่อลักษณะเสียงที่รับฟังโดยรวม เนื่องเพราะโครงสร้างขาตั้งที่แข็งแรง ย่อมจะต้านทานแรงสั่นสะเทือนทางกลได้ดี ส่งผลต่อความนิ่ง ไม่สั่นไหวของ “SixSoul : LS3/5a” ในขณะรับฟัง การรับรู้ต่อรายละเอียด รวมทั้งสเตริโอ อิมเมจจะแจ่มชัด ไล่ระดับความชัดลึกชัดตื้นได้ดีกว่าการใช้ขาตั้งที่เตี้ยกว่านี้ (ประมาณ 16-18 นิ้ว) ซึ่งนอกจากจะทำให้การรับรู้ต่อรายละเอียด รวมถึงสเตริโอ อิมเมจจะทำได้ไม่แจ่มชัดนัก ทั้งยังจะส่งให้ Tonal Balance หรือ ความสมดุลของน้ำเสียงที่รับฟัง ผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริง เฉพาะอย่างยิ่ง จะมีอาการโด่งในช่วงปลายเสียงกลางต่อเสียงสูงที่จัดจ้าเกินไป เสียงกลางตอนล่างต่อช่วงย่านเสียงต่ำมีความบางเกินไป ไม่มีน้ำหนัก ส่งผลให้ขาดความกลมกล่อมต่อเนื่องของเสียง จนรู้สึกไม่น่าฟัง
เนื่องจากขนาดของ “SixSoul : LS3/5a” ที่เล็กกะทัดรัด ผนังตัวตู้แต่ละด้านจึงแทบจะไร้การสั่นกระพือในช่วงระดับความดังการรับฟังตามปกติ อาการคัลเลอร์ หรือ การแต่งแต้มสีสันของ “SixSoul : LS3/5a” จึงมีน้อยมากๆ รูปลักษณ์ของเสียงโดยรวมที่ “SixSoul : LS3/5a” ส่งมอบออกมาจึงสดสะอาด แจ่มใสในช่วงย่านเสียงกลาง ให้ประกายของปลายเสียงช่วงย่านความถี่สูงที่เปล่งปลั่ง วาววับ สมจริง เนื้อเสียงโดยรวม (ค่อนข้าง) เนียนนุ่ม มีความเอิบอิ่ม มีน้ำนวลชวนฟัง ซึ่งความนวลเนียนของเสียงนี่แหละที่ทำให้การรับฟัง “SixSoul : LS3/5a” ได้ยาวนานหลายต่อหลายชั่วโมงต่อเนื่องกัน โดยไม่รู้สึกล้าหู หรือ เคร่งเครียด ในขณะที่ทุกอักขระการออกเสียงร้องของทั้งชายและหญิง ล้วนรับรู้ได้แจ่มชัด ไม่อับทึบ หรือ จมตัว ทำให้หยิบจับอัลบั้มโน่นนี่นั่นมารับฟัง ด้วยอยากรู้ว่า เสียงร้องของศิลปินคนใดที่เคยรับฟัง นั้นเป็นเยี่ยงไรเมื่อรับฟังจาก “SixSoul : LS3/5a”
การรับรู้ในด้านอิมเมจ-ซาวด์สเตจ บอกตามตรงว่า น่าประทับใจ “SixSoul : LS3/5a” เรียกได้ว่า ล่องหนหายไป ปรากฏแค่สรรพเสียงต่างๆ ที่ขับขานออกมา ซึ่งสะท้อนถึงการออกแบบ LS3/5a ในแนวทางของ SixSoul ทำได้ดีพอประมาณ ภายใต้ระดับราคา บวกกับขนาดที่เล็กกะทัดรัด พื้นที่สะท้อน (Reflex) และเลี้ยวเบนของเสียง (Diffraction) จากผนังตัวตู้ของ “SixSoul : LS3/5a” นั้น น้อยมากๆ จนค่า Delay Time ไม่ห่างจากเสียงหลักที่เปล่งออกมา การจำแนกแยกแยะแถวชั้น หรือ Layered ให้ระยะถอยลึกเข้าไป ไม่เบียดแน่นเป็นปึก จึงไม่เป็นเรื่องยากที่ “SixSoul : LS3/5a” จะล่องหนหายไปในห้องฟัง จนทำให้ใครต่อใครรู้สึกประทับใจในการเล่นลำโพงเล็ก
…จะมีข้อด้อยก็แค่ในด้านของความถี่เสียงต่ำ ที่ออกจะขาดแคลนตลอดช่วงการรับฟัง ทำให้การรับรู้ถึง Tonal Balance ยังไม่สมบูรณ์นักที่จะสรุป ซึ่งนั่น อาจจะเนื่องมาจากการยังไม่พ้นระยะเบิร์น-อิน (แต่จำเป็นต้องรับฟัง) ทำให้มวลอากาศที่ถูกกักเก็บไว้ในตู้ปิดสนิทของ “SixSoul : LS3/5a” ยังมีสภาพเปรียบเหมือนสปริง หรือ Suspension ที่ไม่สมบูรณ์นัก การดึงการผลักในการขยับขับเคลื่อนตัวกรวยลำโพง จึงยังควบคุมจังหวะได้ไม่ดีนักอย่างที่ควรจะเป็น…กระนั้นจากการลองฟัง อยู่ราวๆ 2 สัปดาห์ ก็พบว่า ลักษณะเสียงเบสของ “SixSoul : LS3/5a” ในแง่น้ำหนักเสียงดีขึ้นอย่างมีนัย นอกเหนือจากนำเสนอเสียงเบสที่ทอดตัว-ยืดขยายลงไปได้ลึกๆ อย่างที่บอกไว้ตอนต้น
สรุปส่งท้าย
…คาดเดาได้ว่า “SixSoul : LS3/5a” เมื่อผ่านพ้นระยะเบิร์น-อิน น่าจะให้ความสมดุลของน้ำเสียงที่ดียิ่งขึ้น เนื่องจากมวลอากาศในตู้ของ “SixSoul : LS3/5a” มีสภาพเป็นดั่งสปริงมากขึ้น ค่า Compliance เป็นไปตามที่กำหนด เมื่อระยะการใช้งานยาวนานขึ้น ตัวขับเสียงมิดเรนจ์/วูฟเฟอร์ก็จะมีช่วงจังหวะที่คุมตัวได้ดีขึ้น มีสภาพการ Damping หรือ หยุ่นยั้งตัวมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่า ย่อมส่งผลต่อมวลของน้ำหนักเสียงต่ำที่ให้ความกลมกลืนกับช่วงย่านเสียงกลางตอนล่างได้ดียิ่งขึ้น รวมไปถึงเสียงเบสที่ (น่า) จะตอบสนองได้มีเนื้อมีหนังมีน้ำหนักมากขึ้นด้วย
โดยในส่วนของช่วงย่านเสียงกลางตอนบนนั้น “SixSoul : LS3/5a” ทำได้ดีอยู่แล้ว แม้ในขณะที่ยังไม่พ้นระยะเบิร์น-อิน ด้วยคุณลักษณ์ความสดสะอาด แจ่มชัด สามารถนำเสนอเนื้อเสียงที่มีความอิ่มฉ่ำ เรียบระรื่น ฟังสบายหู รวมทั้งสุ้มเสียงที่เป็นธรรมชาติ ให้ความสมจริง พร้อมทั้งรายละเอียดต่างๆ ได้อย่างน่าพึงพอใจ รวมไปถึงเรื่องของการบ่งบอกสภาพอิมเมจ-ซาวด์สเตจที่ทำได้ขนาดแยกแยะแถวชั้น (Layered) ในระดับน่าประทับใจ ส่วนในช่วงย่านเสียงสูง ก็ให้ประกาย เปล่งปลั่ง วาววับ ของปลายช่วงย่านเสียงที่ฟังแล้วสมจริง ถือเป็นเสน่ห์ที่ทำให้ “SixSoul : LS3/5a” นั้นน่าฟัง
ตำแหน่งตั้งวาง “SixSoul : LS3/5a” ในห้องฟังของ What Hi-Fi? Thailand
ระยะห่างจากผนังหลังลำโพง 117 ซม.
ระยะห่างระหว่างลำโพงซ้าย-ขวา 135 ซม.
ระยะห่างจากผนังด้านข้างลำโพง 85 ซม.
มุมโท-อิน ประมาณ 3-5 องศา
วางบนขาตั้งสูง 26 นิ้ว