ตามปกตินั้น หากเป็นเครื่องเสียงเวอร์ชันใหม่ที่ออกตามหลังเวอร์ชันดั้งเดิม มักจะถูกออกแบบให้มีความละม้าย หรือ เทียบเคียงได้กับเวอร์ชันเก่ากว่าอยู่บ้าง เนื่องเพราะการออกเวอร์ชันใหม่ออกมาย่อมแสดงถึงว่า เวอร์ชันดั้งเดิมนั้นประสบความสำเร็จ จึงได้รับการพัฒนา หรือว่าต่อยอดขึ้นมา โดยมีสมรรถนะและประสิทธิภาพที่ดียิ่งกว่า ทว่าน่าจะยกเว้นสำหรับ EMT นะครับ เพราะ EMT 928 II ช่างห่างไกล ไม่มีความละม้ายคล้ายกับ EMT 928 ที่เป็นรุ่นดั้งเดิม ซึ่งได้เคยสร้างชื่อเสียงไว้ให้กับ EMT ในอดีตเป็นอย่างมาก
EMT หรือชื่อเต็ม ๆ ว่า EMT International GmbH ในทุกวันนี้นั้น เดิมชื่อ Elektronik, Meß-und Tonstudiotechnik (จึงเป็นที่มาของชื่อย่อ EMT) ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์เครื่องเสียงระดับมืออาชีพในสวิตเซอร์แลนด์ ณ ปัจจุบัน แต่ว่าเดิมทีนั้น EMT ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1940 (พ.ศ. 2483) โดย Wilhelm Franz ในชื่อของ Elektromeßtechnik Wilhelm Franz ในกรุงเบอร์ลิน ทว่าตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2018 เป็นต้นมา EMT Tontechnik ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ HiFiction AG ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้รับผิดชอบธุรกิจเครื่องเล่นแผ่นเสียง EMT ซึ่งรวมถึงการพัฒนา การผลิต การรับประกัน และการซ่อมแซม ตลอดจนการขายระหว่างประเทศ สำหรับตลาดสหภาพยุโรปเท่านั้น ส่วนการจัดจำหน่ายสำหรับเครื่องเล่นแผ่นเสียงระดับสตูดิโอของ EMT ยังคงอยู่กับ EMT Studiotechnik Mahlberg ประเทศเยอรมนี
ทั้งนี้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง บริษัท EMT ในกรุงเบอร์ลินได้ผลิตเครื่องมือวัดและควบคุม สำหรับเทคโนโลยีการสื่อสารและการออกอากาศ โดยวิศวกร Wilhelm Franz ที่เริ่มธุรกิจของตัวเองภายใต้ชื่อบริษัท “Elektromeßtechnik Wilhelm Franz” เริ่มดำเนินในวันที่ 1 มกราคม 1940 หลังจากทำงาน เป็นรองผู้จัดการห้องปฏิบัติการการวัดที่ C. Lorenz AG ในกรุงเบอร์ลินตั้งแต่ปี 1983 ทั้งนี้ Wilhelm Franz ได้ก่อตั้ง “Meßtechnisches Laboratorium” และดูแลการพัฒนาอุปกรณ์วัดทางไฟฟ้า และเขายังให้คำแนะนำบริษัทต่างๆ เกี่ยวกับปัญหาด้านเทคนิคอีกด้วย
ต่อมาในวันที่ 1 มกราคม 1943 บริษัทได้เปลี่ยนสถานการณ์ดำเนินงานเป็น ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชื่อว่า “Elektromeßtechnik Wilhelm Franz KG” จากนั้นในปี 1989, EMT ได้ถูกขายให้กับกลุ่ม Barco ของเบลเยียม ทว่าในปี 2003 ทาง Barco ก็ได้ขาย EMT รวมถึงสิทธิ์ในเครื่องหมายการค้าให้กับ Walter Derrer ส่งผลให้ปรับเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น “EMT Studiotechnik GmbH” ต่อมาในปี 2007, Walter Derrer ประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตกและเสียชีวิตลง ส่งผลให้ EMT อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ Jules Limon ซึ่งเป็นชาวสวิส
ตั้งแต่นั้นมา Jules Limon-หัวหน้านักพัฒนา, ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ และผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดคนก่อนของ EMT ก็ได้เข้ามาบริหารบริษัท EMT Studiotechnik GmbH และได้จัดตั้งบริษัท EMT International GmbH (สวิตเซอร์แลนด์) ในเวลาต่อมา โดยได้ถือครองครองเครื่องหมายการค้า EMT และจัดการการขาย รวมถึงการผลิตในเยอรมนีไว้แต่เพียงผู้เดียว และจดทะเบียนทั่วโลก ทั้งยังได้เริ่มการผลิต EMT Phono และ Preamplifier ซึ่งในช่วงระหว่างการเปลี่ยนแปลงนี้ ฝ่ายการผลิตได้ย้ายไปอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์ จากนั้นในราวๆ สิ้นปี 2018 EMT Studiotechnik GmbH ถูกยุบสาขาของ EMT International GmbH ภายในสหภาพยุโรปลง ส่งผลให้นับจากนั้นผลิตภัณฑ์ของ EMT จะจัดจำหน่ายโดย EMT Tontechnik, Mahlberg (เยอรมนี) ซึ่งเป็นบริษัทของ HiFiction AG ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ทั้งนี้ในปี 2015 เป็นวาระการครบรอบ 75 ปี ของ EMT และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 75 ปี ของบริษัท EMT จึงออกจำหน่ายรุ่น TSD 75 และ JSD S75 โดยที่ TSD 75 นั้นเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดในกลุ่มหัวเข็ม EMT Stereo ระดับตำนาน ในขณะที่ JSD S75 นั้นเป็นระดับ Reference Line ที่มีตัวเรือนน้ำหนักเบา ต่อมาในปี 2016-EMT ได้รับเกียรติจากรางวัลแกรมมี่ด้านเทคนิค จึงได้ทำการผลิต-จำหน่ายหัวเข็มรุ่น TSD 75 Grammy Special Limited Edition เพื่อเป็นการร่วมเฉลิมฉลอง จากนั้นในปี 2018, HiFiction AG ได้เข้าควบคุมธุรกิจส่วนของหัวเข็ม EMT ทั้งหมด รวมถึงการพัฒนา, การผลิต, บริการซ่อม และการขายระหว่างประเทศ โดยที่ Broadcast Line สำหรับตลาดสหภาพยุโรป ยังคงจัดจำหน่ายโดย EMT Studiotechnik ใน Mahlberg
เนื่องในวาระครบรอบ 80 ปี ในปี 2020 ที่ผ่านมา EMT ได้ออกจำหน่ายหัวเข็ม TSD 15 ใหม่นี้พร้อมสำหรับทศวรรษหน้า ซึ่งยังคงไว้ซึ่งระบบการทำงานแบบ Tondose Generator ดั้งเดิม ทว่าได้มีการปรับเปลี่ยนในส่วนของตัวเรือนที่ถูกสร้างขึ้นเป็นโครงสร้างแบบโมโนบล็อก ซึ่งสกัดจากแท่งแมกนีเซียมตัน (Solid Block) ดังนั้นทั้งความแข็งแกร่งและพฤติกรรมการสั่นพ้อง หรือ Resonance Behaviour จึงได้รับการปรับปรุงอย่างมีนัยสำคัญ
สำหรับ EMT 928 II ซึ่งทาง EMT Tontechnik ได้เปิดตัวเครื่องเล่นแผ่นเสียงรุ่นใหม่นี้ (9,500 ยูโร) ในช่วงปี 2022 นั้น คงต้องย้อนหลังไปในปี 1968 ที่ EMT ได้ออกจำหน่ายเครื่องเล่นแผ่นเสียงรุ่น EMT 928 เป็นครั้งแรก โดยเป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงสำหรับสตูดิโอขนาดเล็กและน้ำหนักเบา (14 กก.) พร้อมระบบขับเคลื่อนด้วยสายพาน โดยมีพื้นฐานมาจากเครื่องเล่นแผ่นเสียง Thorens TD 125 ของสวิสที่ได้รับการดัดแปลงอย่างหนักหน่วง และยังเป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียง EMT รุ่นเดียวที่มีระบบขับเคลื่อนด้วยสายพาน ตัวเครื่องมีขนาดกะทัดรัดใช้สำหรับการออกอากาศนอกสตูดิโอ หรือในรถตู้ OB
Thorens TD 524 
EMT 928 
EMT 938
ดังนั้น EMT 928 จึงไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ EMT แท้ ๆ แต่เป็นการพัฒนาร่วมกันของ EMT และ Thorens-เช่นเดียวกับเครื่องเล่นแผ่นเสียง Thorens TD 524 รุ่นต่อมา ซึ่งใช้เครื่องเล่นแผ่นเสียงของ EMT 938 ความร่วมมือนี้เกิดขึ้นเนื่องจากทั้งสองบริษัทร่วมกันใช้ห้องปฏิบัติการพัฒนาของ “Device Works Lahr” เดิมในเมือง Kuhbach ระบบขับหมุนนั้นจัดหาโดยมอเตอร์สามเฟสขนาดเล็กมาก ซึ่งป้อนกระแสไฟฟ้าโดยออสซิลเลเตอร์ของตัวเอง ระบบขับหมุนใช้สายพานคู่เพื่อความปลอดภัย และมั่นคงในขณะทำงาน นอกจากนี้ค่าความเร็วรอบ 78, 45 และ 33⅓ RPM ถูกควบคุมให้คงที่ทางอิเล็กทรอนิกส์ ช่วงเวลาเข้ารอบคือประมาณ 1 วินาที ที่ 33⅓ รอบต่อนาที ทั้งนี้โทนอาร์มที่ใช้เป็น EMT 929 ที่พัฒนาขึ้นใหม่ ซึ่งได้รับการติดตั้งใน EMT 928 เป็นครั้งแรก ทั้งนี้ EMT 928 มีแอมปลิฟายเออร์อีควอไลเซอร์ระบบทรานซิสเตอร์ในตัว พร้อมการปรับระดับและอีควอไลเซอร์ลักษณะการตัดแบบสลับได้
ทีม EMT ของสวิส ณ ปัจจุบันนำโดย Micha Huber ซึ่งมีส่วนร่วมในการวิจัยและพัฒนาที่ EMT สำหรับโครงการเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ได้เกิดขึ้นนี้ สำหรับ “EMT 928 II” นับเป็นผลงานชิ้นแรกจากความพยายามร่วมกันนี้-เครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ใช้พลังงานแบตเตอรี่!!
EMT 928 II เป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงแบบแน่นปึ๊กที่มีความแม่นยำสูง โดยมีน้ำหนักรวม 23 กก. แท่นเครื่องผลิตจากวัสดุอะลูมิเนียม โดยวางอยู่บนฐานรองทรงกลมสี่ขา สามารถเล่นความเร็วของแผ่นเสียงได้ 3 ระดับ (33⅓, 45 & 78 รอบต่อนาที) เพื่อให้พร้อมรองรับสำหรับการเล่นแผ่นเสียงทุกประเภท จับคู่กับโทนอาร์ม EMT ขนาด 9 นิ้ว อย่างสมบูรณ์แบบที่ออกแบบให้พร้อมสำหรับหัวเข็ม EMT ทั้งหมด
EMT 928 II เป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงแบบใหม่ ซึ่งมีแหล่งพลังงานแบตเตอรี่ที่แยกเป็นอิสระ ซึ่งช่วยให้สามารถเล่นได้นานถึง 40 ชั่วโมง ในขณะที่ถอดสายไฟออกจากแหล่งจ่ายไฟหลัก ดังนั้นจึงไร้ซึ่งปัญหาใดๆ จากระบบไฟฟ้าประธานมารบกวนขณะใช้งาน วงจรเครื่องชาร์จไฟฟ้าในตัวจะจัดการรอบการชาร์จโดยอัตโนมัติ และแสดงสถานะด้วยไฟ LED สองสี
เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อ EMT 928 ดั้งเดิม พลังการขับหมุนถูกส่งโดยสายพาน มอเตอร์ 20 วัตต์ ที่ทันสมัยที่สุดถูกรวมเข้ากับวงจรลูปควบคุมที่มีความแม่นยำสูงในชุดประกอบที่กะทัดรัด สามารถขับหมุนตัวแพตเตอร์น้ำหนัก 5.5 กก. ได้ในเวลาอันสั้น และรักษาความเร็วรอบของการหมุนให้คงที่ภายในขอบเขตความคลาดเคลื่อนที่น้อยมาก ๆ แผงวงจรมีเส้นทางเดินสัญญาณที่สั้น และยังช่วยลดสัญญาณรบกวนไปพร้อมกัน
นี่จะเป็นผลงานชิ้นใหม่ล่าสุดที่แฟนพันธุ์แท้ของ EMT ยังให้ความสนใจ แม้ว่า ชิ้นงานนี้จะมิใช่ผลงานจากมันสมองของ EMT ขนานแท้แบบว่าเต็มร้อย แต่อย่างน้อย ก็ได้ชื่อว่ามี DNA อยู่เต็มขั้น…อยู่ที่ว่า DNA ที่ว่านี้จะเข้มข้นพอจะไปวัดกับ EMT ขนานแท้ได้ในระดับไหน
……………………………………………………….
