…แม้จะมีขนาดเล็ก แต่ AE1 Classic ของ Acoustic Energy ก็ได้ชื่อเป็นที่ยอมรับกันในวงการว่า ให้เวทีเสียง, ความลึก และความกว้างของลำโพงขนาดใหญ่กว่ามาก ด้วยไดรเวอร์โลหะที่ล้ำสมัย ควบคู่ตัวตู้ลำโพงแบบ ทุ้มสะท้อน (Bass Reflex) การออกแบบที่แข็งแรงเป็นพิเศษ และการรองรับกับกำลังขับระดับสูง ทำให้เกิดความสดสะอาด แจ่มชัด ความเร็ว และไดนามิกที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ซึ่งถือเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับลำโพงตัวตู้ขนาดเล็ก ทั้งในสตูดิโอและที่บ้าน
เมื่อปี ค.ศ. 2016, Acoustic Energy ได้ประกาศถึง การผลิตจำหน่ายรุ่นพิเศษ ‘AE1 Classic Limited Edition’ ด้วยจำนวนเพียงแค่ 100 คู่ เท่านั้น (ราคาจำหน่าย 1,295 ปอนด์) เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวาระครบรอบสามทศวรรษแห่งความสำเร็จของ AE1 พร้อมกับประกาศว่า นี่จะเป็นการผลิตครั้งสุดท้ายของลำโพงรุ่นไอคอนิกที่สุดรุ่นหนึ่งของสหราชอาณาจักรที่ได้รับรางวัลมากมายนี้ ด้วยเหตุผลเนื่องจากไม่มีชิ้นส่วนสั่งทำพิเศษจำหน่ายอีกต่อไป ซึ่งได้ผ่านมาจนถึงเวอร์ชัน MkIII
โดยที่ตัวตู้ของ ‘AE1 Classic LE’ จะได้รับการเคลือบเงาเปียโน (Piano Gloss) มาพร้อมกับนอตยึดไดรเวอร์ (Bolts) ชุบทอง หรือ เงิน และแผ่นโลหะรุ่นลิมิเต็ดเอดิชันที่ตรงกับสี พร้อมหมายเลขซีเรียลและหมายเลขรุ่น ทั้งนี้ ‘AE1 Classic LE’ จะได้รับการทดสอบ, ปรับจูน และจับคู่ลำโพงแต่ละคู่โดยวิศวกรออกแบบอาวุโสของ AE และจะจัดส่งพร้อมใบรับรองประสิทธิภาพ และการรับรองที่ลงชื่อแล้วนั้น
ในส่วนอื่น ๆ ‘AE1 Classic LE’ จะมีลักษณะเกือบจะเหมือนกับรุ่นดั้งเดิม โดยมาพร้อมกับตู้ลำโพงแบบ ช่องเปิดด้านหน้าคู่ (Twin Front-Ported Cabinet) กรวยอะลูมิเนียม และโดมทวีตเตอร์แมกนีเซียมอัลลอยด์ขนาด 25 มม.
…มาถึง วันนี้ ‘AE1’ ได้ย่างก้าวมาจนครบรอบ 40 ปีแล้ว ทาง Acoustic Energy จึงจัดเต็มรุ่นพิเศษเพื่อเฉลิมฉลองในวาระดังกล่าวนี้ (AE1 คู่แรกออกสู่ตลาดในช่วงกลางทศวรรษ 1980) โดยทาง Acoustic Energy ได้นำรุ่นนี้ไปเปิดตัวที่งาน High-End Munich 2025 และมีข่าวออกมาแล้วว่าทาง Acoustic Energy จะทำการ Reborn ฉลองครบรอบ 40 ปี ให้กับ AE1 โดยเป็นที่แน่นอนแล้วว่าจะออกสู่ตลาดภายในเดือนตุลาคม 2025 นี้
Acoustic Energy (AE) แรกก่อตั้งที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อปี 1987 โดย Phil Jones ผู้หลงใหลในเรื่องของเสียงและดนตรีมาแต่วัยเด็ก เนื่องเพราะมีคุณพ่อเป็นนักดนตรีอยู่ในวง Big Band ขณะที่ตัวเขาเองนั้นเวลาส่วนใหญ่ก็ง่วนอยู่กับเรื่องของเสียงนี่แหละ โดยเริ่มลงมือประกอบวิทยุ AM มาตั้งแต่เก้าขวบ หลังจากเริ่มเรียนรู้เรื่องราวทางด้านอิเล็กทรอนิกส์ได้ไม่นาน
ลำโพงภายใต้แบรนด์ Acoustic Energy ทุกตัวได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถันตามกระบวนการออกแบบของ Acoustic Energy และยังคงไว้ซึ่ง DNA เดียวกันกับผลิตภัณฑ์ทุกรุ่นที่สั่งสมมาเป็นเวลานานถึง 40 ปี ในขั้นตอนการสร้างลำโพงรุ่นใหม่ “ต้นแบบ” จะผ่านกระบวนการฟังอย่างละเอียดถี่ถ้วน โดยใช้การวัดไฟฟ้าอะคูสติก เพื่อยืนยันในแต่ละขั้นตอน จากนั้นลำโพงจะถูกนำไปเปรียบเทียบกับข้อมูลอ้างอิง ซึ่งสะท้อนถึงไดนามิก ความโปร่งใส ความแม่นยำของโทนเสียง และที่สำคัญที่สุดคือ การนำไปสู่การมีส่วนร่วมทางดนตรี
นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง Acoustic Energy ได้รับรางวัล และคำชื่นชมมากมายจากสื่อ Hi-Fi ทั่วโลก จากรางวัลเหล่านี้ และการรับรองอื่น ๆ อีกมากมายพร้อมคำชื่นชมจากนักข่าวทั่วโลก ช่วยให้ Acoustic Energy มีสถานะที่น่าภาคภูมิใจในฐานะหนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับการยกย่องสูงสุดในอุตสาหกรรมเครื่องเสียง ณ ปัจจุบัน ซึ่งหลังจากที่ Phil Jones ได้ก่อตั้งบริษัทขึ้นมาได้ไม่นานปี ก็เข้าสู่ยุคทองของวงการเครื่องเสียงไฮ-ไฟ AE จึงได้ย้ายฐานการผลิตออกนอกเกาะอังกฤษมาทางด้านแถบเอเชียและขยายแนวทางในไลน์ผลิตภัณฑ์
ลำโพงรุ่นแรกที่เปิดตัวก็คือ Model AE1 ซึ่งพอออกมาได้สักระยะ ได้รับการยกย่องอย่างมากว่า เป็นลำโพงแบบ วางขาตั้งที่สามารถให้สุ้มเสียงออกมาได้อย่างเยี่ยมยอดในระดับต้น ๆ ของลำโพงวางขาตั้งในยุคนั้น และส่งผลให้ Acoustic Energy กระฉ่อนวงการในทันที ซึ่งนอกจากจะเป็นที่ชื่นชมของนักวิจารณ์ และสื่อทางด้านเครื่องเสียงแล้วนั้น Acoustic Energy ยังได้ชื่อว่า เป็นเจ้าแห่งนวัตกรรมทั้งในแง่ของการรังสรรค์วัสดุ และการคิดค้นทางด้านการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาประสานใช้ในการออกแบบลำโพงได้อย่างลงตัว
‘AE1’ กลายเป็นลำโพงที่ได้กำหนดนิยามใหม่ให้กับสิ่งที่เป็นไปได้จากตู้ลำโพงขนาดกะทัดรัด โดยกำหนดมาตรฐานประสิทธิภาพเสียงใหม่ในด้านไดนามิก กำลังขับ และความชัดเจนที่ไม่เคยมีใครได้ยินมาก่อนจากลำโพงระดับไฮ-เอนด์ทั้งใหญ่และเล็ก…นับแต่ออกสู่ตลาด ‘AE1’ มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง และได้รับเสียงชื่นชมตามมาไม่ขาดสาย โดยได้รับการยอมรับว่า เป็นลำโพงวางขาตั้งขนาดเล็กที่ทำลายทุกกฎเกณฑ์ที่เคยเป็นข้อจำกัดของลำโพงเล็กให้หมดไปอย่างสิ้นเชิง และได้กลายเป็นลำโพงระดับตำนานของวงการตราบจนทุกวันนี้ โดยนอกจากจะได้รับรางวัลจากสื่อต่าง ๆ มากมายแล้วนั้น ยังได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งใน Best British Speakers of All Time อีกด้วย
หลังจากการย้ายฐานออกไปนอกสหราชอาณาจักร (โดยร่วมทุนกับบรรษัทข้ามชาติ ตั้งแต่ประมาณช่วงต้นทศวรรษที่ 90s) ปัจจุบัน (นับตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ผลิ ปี 2017) แบรนด์ Acoustic Energy ก็ได้กลับมาอยู่ในการดำเนินงานของคนอังกฤษล้วนๆ อีกครั้ง ซึ่งเป็นการนำกลับคืนสู่มาตุภูมิโดยเจ้าเก่าในอังกฤษจับมือร่วมลงขันกัน…ทุกวันนี้ จึงพูดได้ว่า Acoustic Energy เป็นลำโพงสัญชาติอังกฤษแท้ ๆ อีกครั้ง…
_____________________