What HI-FI? Thailand

“6C33C” หลอดสุญญากาศที่ถูกออกแบบใช้งานบนเครื่องบินรบ แต่กลับถูกนำมาใช้งานด้านแอมป์หลอดฯ

สำหรับนักเล่นเครื่องหลอดฯ ตัวยง คงจะพบว่า Balanced Audio Technology (BAT) ได้นำหลอดสุญญากาศ “6C33C” ไปใช้งานในวงจรแบบ PP (Push-Pull) ซึ่งแตกต่างจากผู้ผลิตเครื่องขยายเสียงหลอดฯรายอื่น ๆ ในตลาด โดยจะไม่พบหลอดเอาต์พุต KT88, 6550 หรือ 300B ในเครื่องขยายเสียงของ BAT (รวมถึง Lamm Industries) ทั้งนี้การใช้หลอดสุญญากาศ 6C33C-B นับว่า แปลกแต่ก็สร้างความประทับใจ!

หลอดฯ นี้คิดค้นโดยชาวรัสเซีย และได้รับการออกแบบให้มีความทนทานอย่างเหลือเชื่อ โดยแก้วมีความหนามากจนหลอดหนึ่งมีน้ำหนักเกือบครึ่งปอนด์ จุดประสงค์คือ ผลิตหลอดฯ สำหรับใช้งานในภาค Voltage Regulator ที่สามารถทนต่อกการถูกโจมตีด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Electromagnetic Pulse หรือ EMP) และทนต่อแรง G (G-Forces ที่รุนแรงได้) คุณอาจสงสัยว่า ทำไม? หลอดฯ 6C33C-B ซึ่งเดิมทีนั้น ไม่ได้มีไว้สำหรับเครื่องขยายเสียงไฮ-ไฟ แต่กลับถูกนำมาใช้ ทั้ง ๆ ที่หลอดฯ นี้ได้ถูกออกแบบเพื่อใช้ควบคุมแหล่งจ่ายไฟของวิทยุหลักในเครื่องบินรบแบบ ‘MIG-25’ ให้ปลอดจากการถูกรบกวน

ในช่วงทศวรรษ 1990, หลอด 6C33C-B ได้รับความนิยมในแอมป์หลอดสุญญากาศแบบกระแสหลักเพียงไม่กี่รุ่นเท่านั้น เนื่องจากมีค่าทรานส์คอนดักแตนซ์ และกระแสไฟฟ้าสูง (High Transconductance And Current) รวมถึงมีค่าอิมพีแดนซ์ต่ำมาก จึงทำให้หลอดนี้เป็นทางเลือกที่ดีเยี่ยมแทนหลอดกำลัง (Power Tubes) ที่ใช้กันทั่วไป ปัจจุบันหลอดนี้สามารถพบได้ในวงจรขยายทุกประเภท ตั้งแต่ OTL (Output Transformer-Less) ไปจนถึง Push-Push และ Single-Ended (อย่างเช่น Balanced Audio Technology ได้นำไปใช้ในรุ่น VK-55, VK-60, VK-70 เป็นอาทิ)

Viktor Belenko นักบินรบสหภาพโซเวียตที่แปรพักตร์ต่อประเทศเกิดตนเอง
MIG-25 หลังลงจอดที่สนามบินฮาโกดาเตะ และถูกผ้าใบคลุมเครื่องหมายและหมายเลขเครื่องในทันที หลังจากทราบวัตถุประสงค์จากนักบิน

หลอดฯ นี้เป็นความลับของรัสเซีย จนกระทั่งปี 1976 ชาติตะวันตกเพิ่งค้นพบซูเปอร์ทูปนี้เมื่อ Viktor Belenko นักบินโซเวียตที่แปรพักตร์ ลงจอดเครื่องบินรบ MIG-25 ที่สนามบินฮาโกดาเตะ จังหวัดฮกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ร้อยโทเบเลนโกซึ่งเป็นนักบินของกองกำลังป้องกันทางอากาศของโซเวียต การแปรพักตร์ของเขาทำให้ชาติตะวันตกได้ตรวจสอบเครื่องบิน MIG-25 อย่างใกล้ชิดเป็นครั้งแรก โดยที่ญี่ปุ่นเชิญสหรัฐฯ ให้รื้อและศึกษาเครื่องบินลำนี้ทีละชิ้น (ในความเป็นจริง เบเลนโกได้นำคู่มือการใช้งานมาด้วย) โดยสันนิษฐานว่า จะทำการตรวจสอบเครื่องบินขับไล่ และช่วยเหลือในการทดสอบที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งหลังจากนั้นไม่กี่สัปดาห์ ชาวญี่ปุ่นก็มีมารยาทพอที่จะเสนอให้ส่งเครื่องบินลำนี้คืนแก่สหภาพโซเวียต โดยแบ่งเป็นชิ้นส่วนต่าง ๆ จำนวน 30 ลัง!! (ดูเหมือนว่าพวกเขาจะออกใบแจ้งหนี้ให้โซเวียตเป็นเงิน 40,000 ดอลลาร์ สำหรับค่าใช้จ่ายในการบรรจุหีบห่อ แต่เชื่อว่า ใบแจ้งหนี้นั้นยังคงค้างอยู่)

____________________________

Exit mobile version